เอาเข้าจริง #13reasonswhy นี่ทำให้เรายิ่งรู้สึกผิดมันไม่ใช่ความรู้สึกแบบต้องทำอะไรล่ะถึงจะถูก แต่แบบ มันรู้สึกไม่ดีแต่เราก็ไม่สามารถโทษหรือเบลมตัวเองได้อย่างเต็มที่บางครั้งพอเราคิดก็เหมือนเราจะแก้ตัวให้ตัวเองว่าเรามันละเลยเองเราทำดีที่สุดแล้วเอ๊ะหรือเรายังทำอะไรได้ไม่ดีพอ
ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเรามัววุ่นวายกับตัวเองมาก เราสามารถใช้ข้อนี้เป็นข้ออ้างเพื่อแก้ตัวได้มั้ยว่าเรากำลังจะจมน้ำเราจึงพยายามกระเสือกกระสนถีบตัวให้พ้นน้ำจนไม่ต้องสลายกลายเป็นส่วนหนึ่งของสารละลายในอ่างชีวิต
ทั้งๆ ที่ก่อนที่เราจะจมเราคือคนแรกที่เห็นสัญญาณจากสายตาของเธอและดูเหมือนว่าเธอได้ตัดสินใจแบบนั้นไปแล้วตั้งแต่ก่อนจะมาเจอชั้น อ้อ... แน่นอนชั้นมีเวลาที่จะเปลี่ยนความคิดเธอแน่ ถ้าชั้นรู้ถ้าชั้นไม่ต้องมาวุ่นวายกับการรักษาตัวเองนี่ด้วยนะ
แต่มันก็สายเกินไป
ชั้นเองที่เห็นสัญญานนั้นแต่กลับเมินเฉยเพราะคิดว่าเธอจะผ่านมันไปได้โอเค เธอก็ผ่านมันไปได้ในแบบของเธอนั่นแล่ะ และชั้นและชั้นก็กำลังมานั่งบำบัดตัวชั้นเองว่า ในระหว่างทางของเรานั้น อะไรที่ชั้นพลาดไป
ยาย... ครั้งแรกที่ชั้นรู้ว่าเราอยู่ใกล้กัน ห่างกันแค่รถบัสวิ่งข้ามเขตจากรังสิตไปประตูน้ำพระอินทร์ นั่นก็ดีใจมากนะแต่ชั้นก็ยังมัวแต่สนใจเรื่องของตัวเองอยู่ เพราะชั้นยังเด็ก สดใส เยาวัยและคิดว่าจะอยู่ไปอีกนาน และวันเวลามันก็จะไม่ผ่านไปอย่างรวดเร็วแบบนี้ด้วย
ตอนที่เจอกัน ชั้นนึกว่าเธอแค่มาเยี่ยมแม่แต่ที่จริงเธออยู่กับแม่ได้สักพักโดยไม่กลับไปทำงานที่นั่นอีกแล้วตอนที่เธอบอกชั้น นั่นคือสัญญาณแรก ชั้นเข้าใจทันที แล้วสายตาของเธอคือสายตาของคนที่ไม่เอาอะไรอีกแล้ว ไม่ดิ้นรนขวนขวายอะไรอีกแล้ว เธอปลงกับชีวิตอะไรจะทำให้เกย์สู้ชีวิตอย่างเธอถึงกับปลงและถอดใจได้ล่ะชั้นสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ในเวลาไม่กี่วินาทีเธออาจจะพูดเหมือนกับว่าเธออกหักรักคุดมาจากตรงนั้นจนรู้สึกว่ามันน่าจะพอได้แล้ว
ยาย... ชั้นอยู่กับเธอมานาน ผ่านดราม่าเรื่องความรักของเธอมาเยอะยิ่งเจอ เธอยิ่งแกร่งขึ้นสิ ชั้นเห็นการก้าวต่อไปของเธอจากความรักทุกๆ ครั้งดราม่ายิ่งกว่า ปาน ธนพร เธอยืนหยัดได้ราวกับนกฟีนิกซ์เกิดแล้วตายตายแล้วเกิดอยู่นั่น
แต่อะไรทำให้เธอคนนั้นตัดสินใจแบบนี้ ชั้นรู้และเข้าใจในทันทีเพราะชั้นรู้จักนิสัยเธอดี เธอเป็นคนดียิ่งกว่าที่ชั้นจะจินตนาการถึงได้ว่าตัวละครน้ำเน่าแบบไหนกันที่เธอจะเป็นได้เสียอีก
และคนดีๆ อย่างเธอคงไม่อยากทำร้ายใครต่อและด้วยทัศนคติแบบไหนหรือความเข้าใจแบบไหนฉันก็ไม่อาดตาดเดาหรือไปตัดสินเธอได้ว่าเธอคิดยังไงแต่ชั้นรับรู้ถึงความรู้สึกที่แหลกสลายของเธอได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่ชั้นไม่ได้ทำคือการเดินเข้าไปจับมือเธอหรือทำเป้นว่าเข้าใจเธอ
รู้มั้ย มันก็ยากนะ กับการที่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ทั้งๆที่รู้ว่าเธอเป็นอะไร เพราะเธอไม่ได้บอกใครชั้นเคารพในสิทธิ์ที่จะปกปิดความลับของคนอื่นมากจนรู้สึกว่าการเสนอหน้าเข้าไปหวังดีว่า “ชั้นรู้แล้วนะ ชั้นจะมาช่วย”นั่นอาจเป็นการทำลายประตู พังประตู หรืออะไรสักอย่างที่อันตรายยิ่งกว่าอะไรมันอาจทำให้แย่ลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะมันจะทำให้เธอเฟลเพราะนิสัยเธอเป็นคนชอบตัดสินและคิดว่าคนอื่นคิดยังไงกับเธอ
เอาเถอะ ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็แย่ หรือไม่มันก็เป็นแบบนี้อยู่ดีที่ชั้นรู้สึกแย่คือ เรามีเวลาตั้งสิบปี นับจากวันนั้นจนวันที่เธอจากไปแต่ชั้นกลับแทบไม่ได้ทำอะไรที่ดีพอจะไม่รู้สึกผิดได้เลย อย่างน้อยเราก็น่าจะได้อำลากันบ้าง
ชั้นเองก็พลาด ที่คิดว่าเราคงอยู่ด้วยกันไปอีกนาน และตอนนี้ชั้นก็แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เพื่อนที่เหลืออยู่ของชั้นทั้งหมด ชั้นจะต้องทำยังไงเพื่อให้ตัวเองได้รู้สึกว่าเราใช้เวลาดีต่อกันเพียงพอแล้ว
แต่ช่วงเวลาที่ชั้นตกต่ำที่สุด เธอส่งขนมมาให้ชั้นกินมากมาย รู้มั้ยหลายวันก่อนชั้นยังเห็นกล่องไปรษณีย์ที่มีลายมือของเธอเขียนมาชั้นหยิบมันมาลูบ ลากนิ้วผ่าน สัมผัสหมึกปากกาของเธอแล้วชั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมัน เก็บมันไว้ ถ่ายรูปไว้หรืออะไรยังไงดีเพื่อให้เป็นไม่กี่อย่างที่ดูจะเหมือนมีเธออยู่
โอ้... แต่ไม่หรอก เธอไปแล้ว ชั้นตัดสินใจปล่อยมันไว้ตรงนั้นมันทำให้ชั้นนึกถึงเธอครั้งเดียวก็พอแล้ว แล้วหลายวันต่อมา กล่องนั่นก็หายไปใช่... แม่เอาไปทิ้งถังขยะแล้วล่ะ แม่ชั้นก็ยังงี้แล่ะ แต่แปลกมั้ยล่ะมันก็อยู่มาตั้งนานสองปีแน่ะ มาให้ชั้นดูก่อนจะหายไป
ชั้นว่าเธอเองก็คงวางแผนให้ชีวิตเธอจบลงแบบไหนไว้สิบกว่าปีแล้วล่ะ นับตั้งแต่วันที่ชั้นอ่านสายตาคนที่ทิ้งโลกไปแล้วของเธอออกและมันก็ยาวนานพอดู
ถามว่าทำไมชั้นไม่เดินเข้าไปพูดว่า “ยายชั้นรู้ว่าทำไมยายมาอยู่กับแม่ที่นี่” ก็เพราะมันอาจเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากให้ชั้นรู้ไงเพราะเธออาจจะคิดว่าชั้นจะรังเกียจ ชั้นจะตัดสินเธอจากสิ่งที่เธอเป็นชั้นทำแบบนั้นไม่ได้ และชั้นก็บอกใครไม่ได้
รู้มั้ย ชั้นเก็บความลับเก่งนะ นั่นอาจเป็นเรื่องที่เธอไม่เคยรู้อะไรที่ควรเป็นความลับต่อให้มันจะทำให้ชั้นเจ็บปวดที่ต้องเก็บมันชั้นก็จะทำเพราะชั้นก็ไม่สามารถยักไหล่ยอมรับกับผลที่ชั้นคาดเดาไม่ได้อย่างการทำลายชีวิตใครแค่เพราะไปปริปากเรื่องไม่เป็นเรื่อง
การคิดถึงเธอบ่อยๆ นี่มันก็เป็นเรื่องดีนะเพราะมันช่วยให้ชั้นยอมรับความสูญเสียได้มากขึ้น และเริ่มชินกับมัน
หลังจากชั้นดูหนัง 13Reasonswhyเสร็จแล้วก็ถึงได้ย้อนกลับมานึกถึงเธอว่า เธอได้ลองให้โอกาสตัวเองบ้างหรือยังแต่ชั้นคิดว่า ตั้งสิบปีที่มีเวลา เธอน่าจะได้ลองมันมาหลายครั้งแล้วก็ได้สิ่งสุดท้ายที่ชั้นจะทำได้คือได้แต่ยืนขึ้นให้ โบกมือลาเธอแล้วบอกว่า “โชคดีนะคะ”ด้วยความเคารพนับถือเธอ และรักเธอย่างสุดหัวใจ
ปล.แล้วเธอก็ทำให้ 19 มิถุนายน วันเกิดของฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in