ขอพูดถึงโควตารอบนี้ก่อน คือโควตา = รอบสอง ในระบบ tcas นะคะ รับทั้งหมด 10 คน ถ้าสอบรอบนี้ติดก็จะได้เข้าไปอยู่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาเลย แต่มันจะ fixed ให้เราอยู่ในสาขาวารสารสนเทศและสื่อใหม่ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเข้ามาแล้วไม่สามารถเลือกเอก (หรือภาค) ได้นั่นเอง

       งั้นหลายคนอาจจะสงสัยว่าภาคนี้มันต่างกับภาคอื่นยังไง คือภาควารสนเทศและสื่อใหม่เนี่ย ก็คือตรงตามชื่อมันเลย ภาคนี้จะเรียนเกี่ยวกับวารสารค่ะ เกี่ยวกับข่าว การเขียน แล้วก็เกี่ยวกับรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ทั้งที่ถูกตีพิมพ์ลงกระดาษแล้วก็ที่ถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ด้วย อย่างเราก็อยากจะทำงานแบบเขียนคอนเทนต์ออนไลน์อะไรงี้ ก็เลยคิดว่าพอจะเกี่ยวข้องกับภาคนี้อยู่เลยตัดสินใจที่จะสอบค่า 

ทีนี้ ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าภาคนี้มันตรงกับความต้องการเราในระดับนึงก็เริ่มเตรียมตัวกันเลย อย่างเราเนี่ยก็หาข้อมูลจากในรีวิวของพี่ปีก่อน ๆ ที่ติดนี่แหละ 55555555 นอกจากนี้แล้วก็ดูเกณฑ์การสมัครจากเว็บไซต์ของจุฬาด้วย /แนบลิงก์ http://www.atc.chula.ac.th/TCAS/TCAS2.html

เอ้อ การที่จะสอบเข้ารอบนี้ก็ใช้คะแนน GAT ด้วยนะ แต่คือความจริงเราจะยื่นรอบสามรอบสี่อยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นพวกแกทแพทเราก็อ่านปกติเหมือนคนอื่นเลยยยย 

       ส่วนเราเตรียมตัวยังไงนั้น ขอแบ่งเป็นข้อ ๆ ตามนี้เลย

        ถ้าอ่านพวกเกณฑ์การรับสมัครแล้วเนี่ยจะรู้ว่าผลงานที่เค้ารับพิจารณาก็ไม่ได้จำกัดแค่งานที่เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์อย่างเดียว แต่สามารถเป็นงานที่เกี่ยวกับสายนิเทศได้หมดเลย เช่น ภาพนิ่ง หนังสั้น กราฟิก ทำเพจ อินโฟกราฟิก อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับสื่อค่าา

       ขอเล่าก่อนว่าเราเป็นคนที่ไม่เคยส่งงานอะไรไปประกวดเลย 555555 งานที่มีส่วนใหญ่จะเป็นเขียนบล็อกนี่แหละ ชอบรีวิวหนัง / เพลง ลงในเว็บต่าง ๆ คือพื้นฐานเราเป็นคนชอบพิมพ์ ชอบเขียน แต่ไม่ได้ชอบทำงานเพื่อส่งประกวด แต่ทีนี้พอรู้ว่าถ้าจะยื่นได้ต้องมีพอร์ตนะ เราก็เลยเริ่มเก็บผลงานช่วงสิงหา 2019 เป็นต้นมานี่แหละ คือหาแบบง่าย ๆ เลย โดยการเซิร์ชกูเกิ้ลว่า "ประกวดงานเขียน" แล้วก็กดเข้าลิงก์นั้นเลย 5555555555 /แนบลิงก์เผื่อใครสนใจ >> http://contestwar.com/th/contest-type-34 

       ซึ่งในเว็บนี้ไม่ได้มีแค่งานเขียนนะ เราไป filter รูปแบบการประกวดเองได้ อย่างเช่นถ้าอยากประกวดงานกราฟิก ก็หาได้ในเว็บนี้เหมือนกัน 

เออ แล้วพอเราเจองานที่พอจะเหมาะกับเราแล้ว เราก็ตัดสินใจทำมัน เขียน ส่งประกวด คือไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีนะ แค่ลองทำก็ดีแล้ว ก็ถือว่ามีผลงาน เราก็มีงานทีี่ชนะบ้าง ไม่ชนะบ้าง เหมือนกัน ซึ่งเราได้ลองทั้งงานเขียน แล้วก็งานถ่ายภาพ ก็สนุกดีเหมือนกัน แบบถ้าเราลงมือทำจริง ก็ไม่ต้องกลัวว่าผลงานมันจะออกมาไม่ดี แค่เราได้ทำมันก็โอเคแล้ว ๆ 

แล้วนอกจากนี้มันก็มีการประกวดจากช่องทางอื่นเหมือนกันนะ เท่าที่เรารู้มา คนที่ติดบางส่วนได้เข้าร่วมโครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" เยอะเหมือนกันนะ ลองเซิร์ชคีย์เวิร์ดนี้ดู น่าจะมีรายละเอียด 

แล้วก็ผลงานอื่น ๆ เอามาใส่ได้หมดเลย ถ่ายรูปงี้ ของเรามีผลงานวาดรูปด้วย ก็ใส่ไปเหมือนกัน เหมือนมีอะไรที่เราถนัดก็เอามาใส่ได้หมดเลยยย

เราก็สะสมผลงานไปเรื่อย ๆ เทียบกับคนอื่นงานเราถือว่าไม่ได้อลังการเท่าไหร่ มีงานชนะเลิศอันดับหนึ่งแค่งานเดียวเอง ที่เหลือได้รางวัลดีเด่นบ้าง หรือบางอันก็ไม่ได้ส่งประกวดด้วยซ้ำ หลัก ๆ เป็นพวกเขียนบล็อก / ทำเพจ นี่แหละ เราก็ใส่ไปเหมือนกัน ยังแอบงง ๆ ว่าอาจารย์เห็นอะไรในตัวเรา เพราะงานเราแอบกิ๊กก๊อกมาก 5555555555 แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่ติด 

แทรกนิด : ก่อนที่จะเริ่มทำข้อสอบอยากให้ตั้งสติ สมาธิดี ๆ อันนี้ tips เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราชอบทำ คือช่วงอ่านก็อ่านเต็มที่ แต่พอถึงเวลาก่อนสอบประมาณชั่วโมง เราจะฟังแต่เพลงคลาสสิก 555555555 แบบเราเคยไปสอบ cutep เค้าก็เปิดเพลงคลาสสิกให้ฟังก่อนสอบประมาณ 10-15 นาที สังเกตในหนังเรื่อง 

ฉลาดเกมส์โกง ตัวพระเอกก็ชอบฟังเพลงคลาสสิกก่อนจะไปสอบ คือไปอ่านมาผลสำรวจเค้าบอกว่า มันจะทำให้เราสมาธิดีขึ้น แบบใจจดใจจ่อมากขึ้น แล้วก็มีผลออกมาเลยว่าคนที่ฟังเพลงก่อนสอบทำคะแนนได้ดีกว่าคนที่ไม่ฟังอะไรเลย ส่วนตัวเราชอบฟังเพลงคลาสสิกอยู่แล้วในระดับนึงเลยฟังได้ แต่อันนี้แค่เป็น tips ที่เอามาบอกเล่า อาจจะใช้ได้กับบางคน บางคนอาจจะไม่ชอบ ก็แล้วแต่วิธีของแต่ละคนเลยย เย่

โม้มาเยอะแร้ว งั้นเริ่มกันเลยนะค้า

นอกจากนี้ก็จะมีพวกวิเคราะห์พาดหัวข่าวอะ แบบเป็น choice มา ถามว่าข้อไหนพาดหัวผิดจรรยา-บรรณสื่อ อะไรประมาณนี้

แต่ตรงนี้เราว่าสิ่งที่ต้องไปอ่านเพิ่มอาจจะเป็นพวกความรู้เกี่ยวกับสื่อนะ แบบทฤษฎีหมาเฝ้าบ้านคืออะไร จรรยาบรรณของนักข่าวมีอะไรบ้าง ภววิสัย คืออะไร อะไรพวกนี้ ตอนนั้นเราแบบ search ใน google แล้วทำเป็น short note เอา จำ ๆๆๆ ไปนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนสอบ เอ้อ แล้วก็ดูพวกหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ด้วย คือแต่ละส่วนในหน้าหนึ่งมันจะมีชื่อเรียกของมัน ก็ลองไปเซิร์ช ๆ ดู 

พาร์ทนี้ยากสุดละ แง เหมือนทำข้อสอบสังคม ข้อสอบกว้าง ๆ อะ 55555555 มันก็คือข่าวนั่นแหละ รู้ก็รู้ ไม่รู้ก็ไม่รู้เลย สิ่งที่ต้องทำคือไปหาสรุปข่าวของปีนั้น ๆ มาอ่าน อ่านทั้งข่าวในไทยแล้วก็ของต่างประเทศด้วย เราว่าข่าวต่างประเทศออกเยอะกว่านะ แบบให้อ่านของทั้งปีเลย ตอนนั้นเราแบบเน้นอ่านพวกข่าวเดือน ธันวา 2019 - กุมภา 2020 คือมันแคบเกินไปมาก ตอนนั้นอ่านพวกโคโรน่า, pm2.5 ไรงี้อะ แต่โคโรน่าไม่ออกเลย 555555555 แต่โชคดีมีแบบไปฟังสรุปข่าวเด่นในยูทูปมาบ้าง ก็เลยแบบจำได้ราง ๆ 

คือเราว่าเค้าทำข้อสอบเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นปี เพราะฉะนั้นข่าวที่ออกมันจะเป็นข่าวเด่น ๆ ประจำปีการศึกษานั้น ๆ เดี๋ยวจะ list ให้เท่าที่จำได้ค่าา

ข้อที่ถูกคือ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่ง choice ข้ออื่นก็เป็นชื่อพ.ร.บ.อื่น ๆ นี่แหละ จำไม่ล่าย 55555555

จำได้ว่าเราตอบ snapchat ไป

ส่วนช่องทางที่เราอ่าน ส่วนใหญ่นะมี twitter, BBC, the standard, the momentum, the matter คือเราเป็นคนชอบอ่านข่าวในเว็บไซต์ที่เทมเพลตมันเรียบ ๆ กราฟิกสวย ๆ อะ 55555555 คือเป็นความชอบส่วนตัว แต่ข่าวมันก็พอโอเคเลยนะ แบบอย่าง the momentum ข่าวต่างประเทศก็แอบเยอะอยู่ ส่วน BBC นี่ก็ดีมาก ๆ เหมือนกัน แบบมัน worldwide จริง ๆ แต่มันก็เป็นภาษาอังกฤษหมด คำไหนไม่รู้ก็เปิด dict เอา หรือแบบจะเซิร์ช BBC Thailand ก็ได้ ก็จะกลายเป็นภาษาไทย แต่มันจะมีข่าวของประเทศไทยเยอะขึ้น ข่าวต่างประเทศน้อยลง

เออแล้วก็อีกช่องทางนึงที่อยากแนะนำ คือ เราชอบฟัง podcast ของจอห์น วิญญู มาก ๆ ชื่อว่า 

THE TOPICS คือมีประโยชน์อยู่นะ แต่มันจะหนักไปในเรื่องทางการเมือง แต่บาง episode ก็ informative มาก ๆๆๆๆ คืออย่างของปีเรา ช่วงที่สอบข่าวสำคัญ ๆ เนี่ยก็จะมี covid-19, สงครามทวิตเตอร์ของไทย x จีน, โจนูโว, เลือกตั้งเกาหลี ไรงี้ แต่โคโรน่านี่แบบเยอะสุด คือข่าวต่างประเทศก็ลิงก์กับโคโรน่าเกือบหมดเลย แต่เร่ื่องไทยจีนในพอดแคสของคุณจอห์น วิญญู เค้าอธิบายแบบละเอียดมาก ๆๆๆ วิเคราะห์ไปถึงต้นตอของปัญหา คือฟังสนุกด้วย ได้ความรู้ด้วย แล้วเราก็คิดไว้ว่าแบบถ้าอาจารย์ถามว่าข่าวอะไรน่าสนใจบ้าง เราก็จะตอบข่าวนี้ (แต่สุดท้ายไม่ได้ตอบนะจ๊ะ555555555) เออ แล้วหลัก ๆ เราก็ซ้อมพูด ซ้อมตอบกับตัวเอง พยายามทำตัวมั่นใจ ๆ พูดให้ฉะฉานเข้าไว้ ตอบอะไรให้ตรงไปตรงมา 

แล้ววันจริงก็มาถึง วันที่ 17 เมษายน 2020 คือปีเราสอบสัมผ่าน zoom 

เออ ปังมั๊ยล่ะ สอบสัมแบบยุค 4.0 อ่า แง ต้องตื่นมารายงานตัวในวีดีโอคอลตอน 8 โมงด้วยนะ แล้วก็รอสัมตอน 11 โมง คือช่วงรอสัมนี่คือทำตัวไม่ถูก แบบงง ๆ อะ จะทำไรดีวะ อ่านหรือหลับต่อดี หรือทำสมาธิ คือเรารู้สึกมันเป็นเวลาที่ยาวนานมาก แล้วพอ 10 โมง 45 พี่ที่ประสานงานก็ส่ง meeting ID ให้เราทางไลน์ ก็ให้เข้าระบบไปรออาจารย์ก่อน เปิดกล้อง เช็คไมค์ ให้เรียบร้อย เตรียมตัวแชร์สกรีน เพราะต้องแชร์พอร์ตตัวเอง 

แล้วพอ 11 นิด ๆ อาจารย์ก็เปิดกล้อง มีอาจารย์สองคน หน้าตาไม่ดุมาก เค้าก็บอกให้แนะนำตัวไรงี้ เราก็แนะนำตัวไป เค้าก็ถามเลย ทำไมหนูถึงสนใจคณะนิเทศคะ?  คือเรารู้อยู่ละว่าคำถามนี้ต้องมา แบบคำถามเบสิคอ่าเนาะ เราก็เตรียมคำตอบไปอยู่แล้ว แต่คือไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมากนะ เพราะคำตอบก็คือสิ่งที่เราหมายถึงจริง ๆ ที่ว่าเตรียมคือไปเรียบเรียงคำพูดให้ดูดีขึ้นนิดหน่อย เราก็บอกไปว่าสนใจด้านนี้อยู่แล้ว สิ่งที่เราชอบมันลิงก์กับนิเทศไปหมด ชอบเขียน ชอบดูหนัง ชอบถ่ายรูป เค้าก็บอกแต่เป็นคนดูสื่อ กับทำสื่อ ไม่เหมือนกันนะ เราก็เลยตอบติดตลกไปว่าแบบ ก็รอเข้าไปทำตอนได้เรียนแล้วนี่แหละค่ะ (แล้วก็ขำแห้ง ๆ ไป 555555555 ) อาจารย์ก็ขำเหมือนกัน แต่คือแอบอายว่ะ พูดไปได้ไง 

อะต่อ ๆ เค้าก็ให้แชร์สกรีน บอกว่าให้ แนะนำผลงานที่น่าสนใจหน่อย อันนี้เราก็เตรียมคำตอบไว้อยู่แล้วเหมือนกัน เพราะเห็นทุก ๆ ปีมันก็ต้องพรีเซนต์ผลงานตัวเองอะ เราก็เลยฝึกพูดถึงผลงานที่ตัวเองภูมิใจที่สุดไว้อยู่แล้ว เค้าก็ฟัง ๆ เราอธิบายไป แล้วเค้าก็ถามว่ามีผลงานไรอีก เราก็พรีเซนต์อีกผลงานนึง ประเด็นคืองานเราอะ ส่วนใหญ่จะเป็นแต่งเรื่องสั้น, รีวิวหนัง ทำเพจ เขียนบล็อก เกี่ยวกับหนังหรือเพลงอะไรแบบนี้ มันเลยทำให้เค้าเกิดคำถามว่า เหมือนเราจะดูถนัดไปทางภาคอื่นมากกว่านะ ภาควารสารนี่เน้นข้อเท็จจริง ข่าว อะไรแบบนี้ แต่งานเราจะแบบจินตนาการ ฟุ้ง ๆ หน่อย แต่เราก็พอมีงานที่เกี่ยวกับประเด็นสังคมอยู่บ้าง แต่ลืมใส่ไปในพอร์ต แต่โชคดีคือไฟล์นั้นมันหาง่าย เราเลยรีบหาตอนนั้น แล้วรีบแชร์สกรีนงานนั้นให้อาจารย์ดูเลย คือโชคดีมาก ๆ นะที่สัมผ่าน zoom ไม่งั้นคือทำอะไรไม่ได้เลย เราก็บอกอาจารย์ งานอื่น ๆ หนูก็มีเหมือนกันค่ะ ( คือโชคดีที่แก้ปัญหาทัน ) 55555555 เค้าก็ดู ๆ แล้วเรื่องที่เราเขียนมันเป็นเรียงความหัวข้อ สิทธิมนุษยชน เค้าก็ถามเรื่องสิทธิมนุษยชนนี่แหละ เค้าถามว่ามันเป็นยังไงบ้างในสังคมไทย เราก็อธิบายความหมายของคำว่า สิทธิมนุษยชน ในความคิดของเราก่อน แล้วก็เริ่มอธิบายว่าทุกวันนี้ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่เสมอ แบบพวกการเหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ หรือสีผิวอะไรงี้ แล้วในสื่อก็มีการเล่นมุกตลกที่เหยียดเพศเยอะแยะเหมือนกัน ( ก็คือพยายามลิงก์เข้าคำว่า สื่อ ด้วยแหละ ) อาจารย์เค้าก็เหมือนไม่ค่อยมีอะไรจะถามแล้วอะ 555555555555 เราแอบเสียความมั่นใจนิดนึง เพราะอาจารย์ดูนิ่ง ๆ หน้าก็แบบไม่ค่อยจะยิ้ม ละเวลาจะหมดละ อยู่ดี ๆ อาจารย์ก็ถามเพิ่มมา คิดว่า covid-19 เกี่ยวอะไรกับสิทธิมนุษยชนบ้างมั๊ย อันนี้คือคำถามแบบแรนด้อมโคตร ๆ แต่โชคดีเมื่อวันก่อนสัมภาษณ์เพิ่งมีข่าวของคุณ โจ นูโว เค้าไล่คนที่ลำบากจากโควิดให้ไปตาย คืออันนี้แหละคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน เราก็อธิบายไป ว่าโควิดไม่ใช่ natural selection บลา ๆๆๆๆ เค้าก็อืม ๆๆๆ รับฟัง ทีนี้เค้าก็ถามอีกคำถาม ปกติตามข่าวจากช่องทางไหน เราก็บอก twitter, the matter, the standard เค้าก็ถามต่อว่าข่าวต่างประเทศล่ะ อ่านบ้างไหม เราก็บอกอ่านค่ะ ๆ BBC, CNN ก็อ่านบ้าง เค้าก็พยักหน้า ๆ แล้วเค้าก็บอก เรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วก็ขอบคุณค่า แล้วก็ leave meeting แต่คือแบบเสียความมั่นใจ เพราะบรรยากาศตอนท้าย ๆ มันดูอึน ๆ อะดิ แต่เราพอใจในคำตอบของตัวเองนะ แต่ไม่ค่อยพอใจในสีหน้าอาจารย์ เค้าแบบไม่ยิ้มเลย แง เลยแบบคิดไปเองละว่าไม่น่าจะติด

ก็คือทำใจเผื่อไว้เลย คือเค้าบอกจะประกาศวันที่ 22 แต่เห็นทุกปีมันประกาศก่อนหนึ่งวัน ทีนี้วันที่ 21 ตอน 10 โมงเช้า เราเลยเข้าไปดูในเว็บไซต์ แต่แบบหาลิงก์ไม่เจออะ 555555555555 เลยปล่อย ๆ ไป ละก็หลับต่อตื่นบ่ายโมงอีกละ ( นอนเยอะโคตร ๆ ) แล้วก็เข้าเว็บอีกครั้ง ทีนี้เจอละ เจอลิงก์แระ คือประกาศก่อนจริง ๆ ด้วย ว่อยยยยยยย คือตื่นเต้นมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็เสียใจเผื่อไปก่อนด้วย 

เปิดปุ๊บ เลื่อน ๆ ดูเจอชื่อตัวเอง ....................... สิ่งแรกที่ทำคือ กรีี๊ดออกมา 55555555555555555555 แล้วก็ไปกอดแม่ไรงี้ คือดีใจมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็งงด้วย ติดได้ไงวะ แต่ก็นั่นแหละทุกคน ติดแล้ว พอใจแล้ว โล่งแล้ว นอนตีพุงได้อย่างสบายใจละ เย่

ก็ประมาณนี้แหละทุกคน มหากาพย์ของเรา 555555 ใครมีอะไรสงสัยตรงไหนถามได้เลยนะคะ ขอให้น้อง ๆ ที่กำลังอ่านอยู่ มีแรงฮึดขึ้นมานะ ในอนาคตเราอาจจะได้เจอกันในคณะ เย่ ๆๆๆ <3