เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บทกวีไม่มีแพนด้า3Orraphansilp
วันนี้ฉันเดินรอบอนุสาวรีย์ฯ 2 รอบครึ่ง
  •             ก่อนวันหยุดยาวจะมาถึง                           มันก็เหมือนวันหนึ่งซึ่งหน่ายหนัก

    วิ่งรอกออกเดินไม่หยุดพัก                                     กลางมหานครยักษ์ยวดยานเยอะ

    ไปธุระธนาคาร                                                      เปลวแดดผลาญเหงื่อซึมเหนียวหนึบเหนอะ

    ลมพัดผมเผ้ากระเซิงเซอะ                                      แต่เอาเถอะ! ยังมีเรื่องให้อมยิ้ม

                หนึ่งคือพนักงานบริการเลิศ                        เห็นลูกค้าไหว้ทูนเทิดแทบหัวทิ่ม

    ฟันขาวเรียบระเบียบรายประพายพิมพ์                    “ขอบคุณค่ะ” ฉันเอมอิ่มโค้งคำนับ

    สองเจอะกลุ่มจิตอาสาหน้าสะพานลอย                    กล่าวเชิญชวนล้วนถ้อยควรสดับ

    “ร่วมบริจาคกันนะครับ”                                          แบ่งปันเพื่อผู้รับที่ยากไร้

    ฉันเกือบดุ่มเดินผ่านเขาไปแล้ว                              ถ้าไม่เจอคนแน่แน่วน่าเลื่อมใส     

    จึงหยุดยืนดูว่าเขาทำสิ่งใด                                     เขาล้วงกระดาษหนึ่งใบหยิบขึ้นมา

    เสียงขอบคุณก้องไปทั่วบริเวณ                               แบงก์สีเทาโดดเด่นเห็นคุณค่า

    เพราะบรรจุสิ่งที่เกินกว่าเงินตรา                            คือศรัทธาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

    สามเจอเพื่อน (ไม่เคย) เก่า                                    นายและเราเขย่าแขนแสนปลื้มสุด

    ท่ามเร่งรีบบีบเบ่งให้เร่งรุด                                    แต่เธอหยุดฉุดฉันด้วยรอยยิ้ม

    ยืนพูดคุยเป็นนานสองนาน                                   พอให้ใจเบิกบานและเปรมปริ่ม

    “มิตรภาพ” กว่าสองปีที่เคยชิม                               ยังหอมหวนชวนลิ้มไม่เปลี่ยนแปลง

    ไม่อยากจากลาแต่จำต้องลาจาก                            ฉันเฝ้าฝากรอยยิ้มพิมพ์ใจแฝง

    หันกลับไปไกลจากกันเหมือนโดนแทง                   ด้วยดาบแห่งกาลเวลาฆ่าสองเรา

    แต่เวลาก็ฆ่าคนทั้งโลก                                          ให้สูญเสียวิปโยคทุกข์โศกเศร้า

    มันวิ่งไล่ไม่ยั้งหยุดดุจเงื้อมเงา                               มันคร่ำเคร่งเร่งเร้าเข้าทุบตี

                 แล้วชีวิตก็ปลี่ยนไป                                  ทุกคนต่างคว้าไขว่ในทุกที่

    ใครดีใครได้ไม่ปรานี                                            อย่าเสียทีจะยื้อแย่งแข่งให้ดู

    ทุกวันจึงไม่ได้มีแต่เรื่องดี                                      โลกใบนี้ล้วนรันทดอีกหดหู่

    ล้านเรื่องราวหมุนเวียนให้เรียนรู้                           บอกให้สู้อย่ายอมแพ้แม้เพียงนิด

    ยังหาเงินทุกวันทำเพื่อลูก                                      เพราะพันผูกจึงไม่พรั่นประหวั่นจิต

    อุ้มลูกแนบแอบอกยกเชยชิด                                  ทำทานเถิดชุบชีวิตของลูกน้อย

    ข้างถนน น หนู ตัวยักษ์ใหญ่                                  เดินตามไต่หาซากเดนเศษอร่อย

    พินิจใกล้จึงเห็นแผลเลือดแดงย้อย                          เจอะอีกทีเมื่อบ่ายคล้อยหนูตายแล้ว

    สงสาร สมเพช เวทนา                                            สวดสัพเพสัตตาสุ้มเสียงแผ่ว

    ขอกุศลผลบุญหนุนคลาดแคล้ว                              พาพ้นแนวสังสารวัฏสัตว์และคน

                นี่แหละโลกโศกสุขทุกข์ถนัด                      ใครเจนจัดก็อยู่รอดยอดทุกหน

    ใครอ่อนแอแพ้ยับอับตาจน                                    แต่น้อยนักจะหลุดพ้นวังวนนี้

    วนเวียนเป็นวงกลม                                              ทนขื่นขมเพราะว่ายากหลบหลีกหนี

    วันนี้ฉันเดินรอบอนุสาวรีย์ฯ                                  วันพรุ่งนี้ก็เดินอีกเป็นหมื่นครั้ง

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in