เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fallingsugaffeinated
(OS) Sunset (Thai version)
  • กลิ่นของใบไม้ที่แห้งกรอบและร่วงหล่น กลิ่นของผืนหญ้าที่เพิ่งตัดอย่างสดใหม่ และกลิ่นของอาทิตย์ตกดิน


    กลิ่นของอาทิตย์ตกดินเป็นเช่นไรงั้นหรือ


    มันคงกลิ่นเหมือนเซยะกระมัง


    — อบอุ่น, สว่างเจิดจ้าอย่างพอดิบพอดี และช่างสบายตา





    ชายหนุ่มที่มีฉายา เจ้าชายน้อย อย่างเขานั้นสามารถมีทุกอย่างที่เขาคิดอยากได้ — ชื่อเสียง แสงไฟ เงินทอง — ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม มันช่างง่ายดายเหลือเกินที่เขาจะได้มันมาในครอบครอง ง่ายดายราวกับดีดนิ้ว แต่ในความเป็นจริงนั้นเขาไม่สามารถครอบครองอยู่เพียงสิ่งเดียว สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง


    เขาครอบครองเซยะไม่ได้


    เซยะคนที่เอาแต่มองไปที่มินาโตะ


    เซยะคนที่ทำทุกอย่างเพื่อมินาโตะ


    และชูเกลียดเหลือเกินที่จะรับรู้ความจริงเหล่านี้


    ความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่แม้กระทั่งเศษเสี้ยวที่แตกกระจาย แหลกสลายในชีวิตของเซยะเลยเสียด้วยซ้ำ



    เขานั่งคิดหวนถึงวันที่เขาพบเซยะหลังจากจบการแข่งขันรอบคัดเลือก รอบตัวเขามีใบไม้แห้งกรอบและร่วงหล่น มีผืนหญ้าที่เพิ่งตัดอย่างสดใหม่ และมีอาทิตย์ตกดิน ผืนฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยสีสันหลากหลายทั้งสีชมพูอ่อนน่ารัก สีฟ้าจืดๆ และสีส้มสดสวย ครานั้นเองที่ร่างคุ้นตาค่อยๆ ปรากฏแก่สายตาจากหลังต้นไม้ใหญ่


    เขาคนนั้น


    ทาเคฮายะ เซยะ


    ชูไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอยู่สักพัก สิ่งแรกที่แล่นเข้ามาในห้วงความคิดของเขาคือ เซยะ มีเพียงแค่ชื่อขานของชายหนุ่มคนนั้นเท่านั้นที่เขาเอื้อนเอ่ยออกไป


    “นั่นนายใช่ไหม เซยะ”


    เหตุไฉนชื่อของเซยะถึงฟังดูห่างเหินเช่นนี้? ราวกับว่ามันไม่เคยถูกขานออกมาเลยเป็นเวลานาน


    แต่ก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ชื่อนี้ไม่เคยถูกขานออกมาเสียนานนมจริงๆ


    เพราะชูไม่มีความกล้าพอที่จะเรียกชื่อนี้ออกไปอีก หลังจากที่ปล่อยให้เซยะหลุดหายไปจากชีวิตอย่างง่ายดายราวกับเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมห้องที่่ผ่านเข้ามาแล้วจากไปแบบนั้น


    โง่


    นายนี่มันโง่ชะมัด ชู


    ฟังเซยะพูดถึงมินาโตะครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ต่างอะไรกับการดูเทปเก่าๆ เดิมๆ วนซ้ำไปซ้ำมา ไม่แปลกที่จะรู้ดีว่าเรื่องราวจะเริ่มต้นอย่างไรและจบลงแบบไหน และชูหมดความอดทนเสียแล้วกับเรื่องเหล่านี้


    “เซยะ ฉันอยากจะถามอะไรนายหน่อย”


    “ทำไมถึงไปเรียนที่คาเซไมล่ะ”


    ใช่ บอกมาเลยสิว่าทำไมถึงทิ้งเขาไว้คนเดียวแบบนี้


    เซยะเคยคิดถึงเขาบ้างไหม


    เซยะลืมเรื่องที่พวกเราเคยสร้างไว้ด้วยกันไปหมดแล้วหรือเปล่า


    คำถามมากมายไหลพรั่งพรูเข้ามาในกระแสความคิด แต่มีเพียงใบหน้านิ่งสนิทและน้ำเสียงห่างเหินเท่านั้นที่แสดงออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้


    “ทำไมน่ะเหรอ ก็เพื่อทำให้มินาโตะกลับมาเล่นคิวโดอีกครั้งไง”


    สิ้นสุดชื่อของ “มินาโตะ” การรับรู้และสติยับยั้งของชูก็กลายเป็นสีดำสนิท ทุกถ้อยคำที่พรั่งพรูออกจากริมฝีปากของเขานั้นฟังดูแล้วมันช่างเต็มไปด้วยความเกลียดชังและแสนโหดร้ายนัก


    “ทำไมไม่เลิกวิ่งตามมินาโตะเสียที”


    “ยังไงนายก็ตามเขาไม่ทันอยู่แล้ว”


    “เพราะนายไม่ได้รักคิวโดยังไงล่ะ”




    เขาแค่อยากบอกให้เซยะเลิกวิ่งตามมินาโตะแล้วหันกลับมามองเขาเสียที

    นั่นคือสิ่งที่ชูต้องการจะพูดออกไปในวันนั้น

    แต่มันสายเกินไปเสียแล้ว

    เขาบดขยี้ดวงใจและความรู้สึกของเซยะเสียย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี

    ดวงใจดวงนั้น ดวงที่ไม่เคยมีแม้แต่รอยสลักชื่อของ “ฟูจิวาระ ชู” อยู่บนนั้นเลย






    เหตุการณ์วันนั้นผ่านพ้นไป เซยะยังคงยิ้มให้เขาเฉกเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง รอยยิ้มที่ชวนอุ่นวาบที่หัวใจแบบนั้นที่เขาชอบมากที่สุด เซยะยังมอบความรู้สึกแบบเดิมๆ มาให้ไม่เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกอบอุ่นและสบายใจแบบนั้นที่เขาชอบมากที่สุด


    แต่ลึกๆ แล้วชูรู้ดีอยู่แก่ใจ


    เขารู้ดีว่าระยะห่างระหว่างตนเองกับเซยะนั้นห่างไกลออกไปเรื่อยๆ


    เพราะดวงตาที่สงบเงียบคู่นั้นของเซยะมักจะกลายเป็นความว่างเปล่าและแสนระทมเสมอเมื่อมันผินมาทางเขา





    กลิ่นของใบไม้ที่แห้งกรอบและร่วงหล่น กลิ่นของผืนหญ้าที่เพิ่งตัดอย่างสดใหม่ และกลิ่นของอาทิตย์ตกดิน


    กลิ่นของอาทิตย์ตกดินเป็นเช่นไรงั้นหรือ


    มันคงกลิ่นเหมือนเซยะกระมัง


    — อบอุ่น, สว่างเจิดจ้าอย่างพอดิบพอดี และเตรียมพร้อมที่จะกล่าวลา


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in