"แจว มาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
แจว มาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
แจวเรือไปซื้อถ้วยฟู แจวเรือไปซื้อถ้วยฟู ขอเชิญชมพู่ลุกแจว"
ทันทีที่รุ่นพี่ภาคศิลปะการแสดงผายมือมายังผู้หญิงคนที่นั่งอยู่แถวข้างหน้า เยื้องจากแถวเราไปทางขวา ชมพู่ก็ลุกขึ้นยืน เกาหัวแบบอายๆจากนั้นใส่สเต็ปเต้นชนิดที่ถ้าผู้กำกับหนังเรื่อง Step Up ผ่านมาเห็นจะต้องชวนเธอไปเป็นนางเอก ส่วนตัวเรานอกจากจะกำลังพยายามหาความเชื่อมโยงระหว่าง "ถ้วยฟู" กับ "ชมพู่" ว่ามันมีความสัมพันธ์กันตรงไหน ทำไมรุ่นพี่จับมันมามิกซ์รวมกันแล้วยังมีอีกความคิดที่วนเวียนว่า "ไอ้ที่เกาหัวเมื่อกี้นี้คือเธออายเป็นพิธีใช่มั้ยถ้วยฟู เอ้ย! ชมพู่"
เสียงกลองดังตึงๆสนั่นหวั่นไหวและเสียงจากรุ่นพี่ที่ยืนล้อมบรรดาน้องๆปี 1 เป็นวงกลมและร้องเพลงสันทนาการซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเนื้อเพลงมันจะสื่ออะไร คือสัญญาณบอกกับเฟรชชี่สาวน้อย หนุ่มน้อยที่นั่งหน้าซื่อ ตาใสกันสลอนว่าพวกเธอกำลังเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีก 1 ก้าวแล้ว เธอกำลังจะทิ้งคำว่านักเรียนไว้ข้างหลังและก้าวสู่สถานะใหม่ที่เรียกว่านักศึกษา พวกเธอกำลังจะได้พบกับความรับผิดชอบใหม่อันน่าท้าทายของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีน้องคนหนึ่งที่ไม่ได้ตระหนักในอะไรเลย สิ่งเดียวที่สมองครึ่งหนึ่งของเธอตระหนักในตอนนี้คืออาการปวดหัวเพราะนอนไม่พอ สมองอีกครึ่งของเธอกำลังคิดบ้าบอสามล้านแปดเพื่อหาวิธีซ่อนหัวสีชมพูพาสเทลของตัวเองให้พ้นจากสายตารุ่นพี่เพราะไม่อยากลุกขึ้นเต้น...ซึ่งน้องคนนั้นก็คือเราเอง
เราไม่ใช่มนุษย์สายกิจกรรม ไม่ใช่พวกกล้าแสดงออก ไม่ใช่พวกอยากเด่นอยากดัง แต่ถึงพูดไปก็คงไม่มีใครเข้าใจเพราะเราเล่นมาปรากฏตัวในรับน้องด้วยสภาพผมย้อมสีชมพูพาสเทล ทาเล็บสีม่วงแจ๋นบาดตา หิ้วกระเป๋าเป้สีแดงเข้าคู่กับรองเท้าผ้าใบสีแดงของเรา ที่คอก็ห้อยป้ายชื่ออันโคตรแปลกไม่แพ้ชื่อถ้วยฟูเมื่อกี้เลย
เราชื่อเกาลัด...เออ เกาลัดที่คั่วขายตรงเยาวราชกันเยอะๆนั่นแหละ แม่เอ้ย ชื่อตัวเองก็พิศดารแล้วนี่ตูยังมีหน้าไปสงสัยความสัมพันธุ์ระหว่างถ้วยฟูกับชมพู่อีกเหรอวะ
ด้วยสภาพนี้ ถึงจะกราบเท้ารุ่นพี่แล้วบอกว่าหนูเต้นไม่ได้ก็คงไม่มีใครเชื่อ ทางเลือกที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการพยายามให้ผู้ชายข้างหน้าบังตัวเราให้มิดที่สุดนั่นแหละ
"แจว มาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
แจว มาแจวจ้ำจึกน้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว
แจวเรือไปซื้อลูกฟัก แจวเรือไปซื้อลูกฟัก ขอเชิญเกาลัดลุกแจว"
ฟัคยู นี่ถ้าวันนี้ซื้อหวย อีเกาลัดก็น่าจะถูกหวย
เพื่อไม่ให้รุ่นพี่เสียหน้า(แต่หน้ากูนี่แหละจะแหกเอง...) เราลุกขึ้นยืน พยายามฉีกยิ้มแม้รอยยิ้มที่ออกมาจะเป็นยิ้มฝืดๆที่มุมปากกระตุกกึกๆเหมือนคนเป็นสันนิบาตแล้วก็วาดลวดลายเต้นที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาเต้นให้ใครดูโดยที่ในใจด่าโชคชะตาว่า ฟัคยัวร์มาเธอร์ ไปแล้วประมาณ 20 ล้านรอบ
เพลงแจวที่มีอีเกาลัดนำแสดงวนลูป 2 ครั้ง รุ่นพี่ปล่อยให้อีเกาลัดนั่งลง อีเกาลัดนั่งซบหน้ากับฝ่ามือด้วยความอายระดับ 3000% เนื้อสมองเต้นจังหวะสามช่าอยู่ในกะโหลกในอาการปวดกลายเป็นอาการชาจนแทบไม่รับรู้บ้าบออะไรอีก
?? : เกาลัด
เรียกตูหาโคตรเหง้าบิดาเอ็งเรอะ เห็นมั้ยว่าปวดหัว!!
?? : เกาลัด
มึงเป็นพวกพูดไม่รู้เรื่องช้ะ บอกว่าปวดหัววววว
?? : เป็นอะไรหรือเปล่าเกาลัด
ในที่สุดเราก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่พยายามจะพัฒนาตัวเองจากคนแปลกหน้าเป็นคู่สนทนาของเรา
หล่อ เชี่ย เชี่ย!!!
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้รู้จัก "โอ๋" เพื่อนคนแรกในรั้วมหาลัย สภาพทางกายภาพที่มองเห็นได้ด้วยตาเนื้อของโอ๋คือ
- สูง 170 ต้นๆ
- ผิวขาว ขาวมาก ขาวโคตรๆ ขาวอย่างกับหลอดไฟนีออนประหยัดไฟเบอร์ 5
- ปากแดงตลอดเวลา (ไม่ได้แดงธรรมชาติ เดี๋ยวจะขยายความให้ฟังว่าทำไมปากมันแดงได้แดงดี)
- หน้าตี๋ อาจจะไม่ได้หล่อระดับมุคุโร่สเป็คเกาลัด แต่ก็จัดว่าหล่อ
อีเกาลัด : .......
โอ๋ : เกาลัดไม่สบายหรือเปล่า
อีเกาลัด : หา อาเระ เปล่าๆ ไม่เป็นไร แค่ปวดหัวหน่อยๆ
โคตรตอแหล ปวดหัวจนหัวจะระเบิดแล้วต่างหาก
โอ๋ : ชื่อเธอแปลกดี
อีเกาลัด : ใครๆก็บอกแบบนี้แหละ
โอ๋ : เธอมีพี่ชื่อเกาเหลาป่ะ
อีเกาลัด : ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกสัส เอ้ย! ตลกโคตร
โอ๋ : เธอจะพูดเหี้ย ห่าก็ได้นะ เราไม่ถือ
เมื่อกี้มึงไม่ได้หลอกด่ากูใช่ไหม...
อีเกาลัด : แกมาคนเดียวเหมือนกันเหรอ
โอ๋ : อื้อ เพื่อนเราแม่งทิ้งเราไปเรียนม.รัฐหมด ชาติชั่ว
มันก็ไม่น่าใช่ความผิดเพื่อนมึงนะ...
อีเกาลัด : เราก็มาคนเดียว
แล้วบทสนทนาก็ขาดตอน โอ๋หยิบมือถือขึ้นมาจิ้มๆไถ ส่วนเรา...มองฟ้า มองเดือนมองดาวไปเรื่อยตามแบบฉบับคนมือถือสังขารไม่ไหวให้เล่นแบบเขา
เพลงแจวของรุ่นพี่วนลูปอีกประมาณ 7-8 รอบ อีเกาลัดเริ่มหาว เริ่มนวดขมับ เริ่มเข้าสู่ช่วงสำนึกผิดว่าเมื่อคืนกูไม่น่าเล่นดรากอน เนสต์โต้รุ่งเลย จากนั้นก็มีสต๊าฟของคณะนิเทศศาสตร์มาต้อนเราให้เวียนไปฐานอื่น เรามองนาฬิกาข้อมือ เริ่มคิดชั่วๆว่าจะโดดกลับหอนอนดีมั้ย
โอ๋ : แกว่าฐานต่อไปจะเหมือนฐานนี้กับฐานก่อนหน้าป่ะ
เชี่ยยยยยยย! เราสบถในใจเมื่ออยู่ดีๆโอ๋ก็เทเลพอร์ตมาเดินข้างๆเราซะฉิบจากตอนแรกที่เดินอยู่แถวหลังเรา
อีเกาลัด : กิจกรรมสันทนาการก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมากกว่าร้องๆเต้นๆนะ
โอ๋ : นั่นดิ เราอยากเล่นอย่างอื่นอ่ะ เอาเกมที่มันลงโทษคนแพ้ได้
ณ จุดนี้เราเริ่มปรายตามองโอ๋ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป นี่ถ้ามันไม่ได้เป็น S อยากลงโทษคนอื่น ก็เป็น M ที่อยากโดนลงโทษแน่ๆ
โอ๋ : เกาลัดแพ้แป้งมะ
อีเกาลัด : ไม่แพ้ แกอ่ะ
โอ๋ : เราก็ไม่ ถ้าแกเล่นเกมแพ้เราขอปะแป้งแกนะ
ชัดเจน ไอ้ตี๋นี่แม่งเป็น S กูควรจะมองมันด้วยสายตายังไงดี....สายตาปลาตายอย่างนี้คงดีแล้วมั้ง
อีเกาลัด : ทำไมโอ๋ไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้บ้างอ่ะ
โอ๋ : เหย รู้ชื่อเราได้ไง
กายหยาบ...ชี้ไปที่ป้ายชื่อมัน กายละเอียด...เอาป้ายชื่อรัดคอแมงแล้วตะโกนอัดหน้าว่ามึงคิดว่าป้ายชื่อห้อยคอมันมีไว้ทพแป๊ะซะอะไรวะ!
โอ๋ : เหย จีเนียส ทำหน้าเซ็งเป็ดตลอดเวลาแท้ๆ ไม่คิดว่าจะสังเกต
อีเกาลัด : คนที่ตาไม่ได้บอดเขาก็เห็นทุกคนแหละแก
สต๊าฟคณะพาเรามาหยุดที่ฐานของภาควิชาการโฆษณา ซึ่ง...แม่งเอ้ย มีเกมวนกระป๋องแป้ง คนแพ้ต้องโดนปะแป้ง พ่อมันแม่มัน
ถ้าวันนี้ซื้อลอตเตอรี่ อีเกาลัดก็น่าจะถูกลอตเตอรี่
เกมวนกระป๋องแป้งเริ่มขึ้นโดยมี BGM เป็นเสียงพี่ๆร้องเพลง โอ้ ทะเลแสนงาม~ ~ เพลงแม่งหาได้เข้ากับบรรยากาศโกลาหลของน้องๆไม่
กระป๋องแป้งวนผ่านเรากับโอ๋เป็นรอบที่สอง เพลงเร็วขึ้นเรื่อยๆและสายตาของโอ๋ก็เป็นประกายปิ๊งวับมากขึ้นเรื่อยๆ ผิดมั้ยถ้ากูจะกลัวมัน
แน่นอนว่าเมื่อเพลงมันเริ่มแล้ว มันก็ต้องจบลง
ในมือโอ๋...ไม่มีกระป๋องแป้ง
ในมืออีเกาลัด...มีกระป๋องแป้งแอ้งแม้งอยู่ 1 กระป๋องถ้วน
อี เชี่ย
โอ๋ : เหย เราขอปะๆๆๆๆๆๆๆ
บิดามันสิ้น ตาโอ๋แม่งเป็นประกายวาววับสว่างจ้ายิ่งกว่าหลอดไฟซีน่อนอีก ฉิบหายแน่ๆกู ฉิบหายแน่ๆ
พี่ : พี่อยากให้น้องคนที่มีกระป๋องแป้ง.......ปะแป้งให้เพื่อนของน้องครับ คนไหนก็ได้
โอ๋ : ........
อีเกาลัด : .......โอ๋ ถึงนายไม่อยากเป็นเพื่อนเรา แต่เราอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ
อืม ชีวิตนักศึกษา....ก็คงไม่เลวร้ายอะไรหรอกมั้ง
อย่างน้อยกูก็ไม่โดนแป้งละเลงเต็มหน้าตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in