Part 01
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
JENO x JAEMIN
มันน่าหงุดหงิดเป็นบ้าที่ต้องมาผูกติดอยู่กับคนที่เขาเกลียดขี้หน้าที่สุดอย่างลีเจโน่..
“ คิดว่าฉันอยากโดนผูกติดกับนายแบบนี้นักหรือไง? ”
และ มันน่าหงุดหงิดยิ่งกว่าที่คนที่เขาแสนจะเกลียดขี้หน้าคนนี้
ดันเป็นคนๆเดียวกับคนที่รู้ดียิ่งกว่าใครว่าคนอย่างผมกำลังคิดอะไร
“ หุบปาก ”
“ นายก็หยุดคิดว่านายเป็นคนเดียวที่ไม่พอใจในสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้สักทีสิ”
“ มองหน้านายแล้วมันอึดอัด ”
นั่นแหละ.. หมอนั่นเองก็คงไม่ได้ดีใจหรอกที่เราถูกผูกติดกันอยู่แบบนี้
จะว่าไปแล้ว เรื่องบ้าๆนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันนะ..
_ _ _
15 Hours ago
เพล้ง!!
“ Get down!! หุบปากซะ! ” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นจากประตูหน้าร้านขายเครื่องประดับเล็กๆตรงมุมถนนใจกลางเมือง บานกระจกแตกกระจาย สัญญานเตือนภัยดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ความเงียบหลังจากเสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัด
“ ถ้าฉันเห็นใครขยับแม้แต่คนเดียว พวกแกทุกคนได้ขึ้นสวรรค์ก่อนเวลาอันควรแน่! ” เสียงห้าวๆประกาศกร้าวพร้อมตวัดปลายกระบอกปืนสีดำมะเมื่อมไปทั่วร้าน ใบหน้านั้นถูกบดบังด้วยหมวกไหมพรมสีคราม ร่างผอมในส่วนสูงที่ไม่จัดว่าสูงมาก สวมรองเท้าคอนเวิร์สสภาพเก่าโทรม กับเสื้อสเว็ตเตอร์สีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนส์เก่าๆปอนๆที่ จากเสื้อผ้าสภาพเยินที่เขาสวมใส่ทำให้สาระรูปโดยรวมก็ไม่ต่างอะไรจากโจรกระจอกธรรมดาๆคนหนึ่ง
“ มองอะไรไอ้แก่? หรือแกอยากจะขึ้นไปหาพระเจ้าเป็นคนแรก? ” โจรกระจอกในหมวกไหมพรมจ้องเขม็งไปยังชายแก่หัวล้านที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงมุมเคาท์เตอร์ ตะโกนข่มขู่สำทับก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังทิศทางของตู้กระจกพร้อมกับวางนิ้วที่ไกปืนเป็นการขู่
“ ก้มหัวลงให้หมด! ถ้าฉันเห็นใครเงยหน้าขึ้นมา ฉันไม่เอาไว้แน่! ”
ตะโกนเสียงดังอีกครั้งเพื่อควบคุมสถานการณ์ขณะใช้ด้ามปืนทุบแรงๆลงไปบนเคาท์เตอร์กระจก แล้วกวาดเอาสร้อยคอประดับอัญมณีที่อยู่ภายในออกมาใส่ถุงที่ตนถือรออยู่
ทว่าลงมือกวาดเอาเครื่องเพชรไปได้ไม่เท่าไหร่เสียงหวีดแหลมแสบหูก็ดังขึ้นเสียก่อน..
“ Shit! ” เขาสถบออกมาพร้อมๆกับที่เสียงไซเรนรถตำรวจจะดังขึ้นจากด้านนอกของร้าน คิ้วขมวดมุ่นฉายชัดถึงความหงุดหงิด เหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดเป็นเท่าตัว นี่มันเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้เกือบห้านาที นั่นเท่ากับว่าทางหนีทีไล่ที่เขาเตรียมเอาไว้ได้หายวับไปในอากาศทั้งหมดแล้ว
“ เอาไงเอากันวะ! ” ไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำว่าเสียงจากโทรโข่งที่ตะโกนเข้ามานั้นพูดว่าอย่างไรบ้าง หัวขโมยหนุ่มกระชากเอาหญิงวัยกลางคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดขึ้นมายืนข้างหน้าตน กดปลายกระบอกปืนคู่เข้าที่กระหม่อมของตัวประกัน พลางออกแรงดันให้หญิงโชคร้ายคนนั้นเดินไปด้านหน้า
“ ถอยไปให้หมดไม่งั้นยัยป้านี่ตาย! ” ก้าวเท้าออกจากบานประตูได้ไม่เท่าไหร่ก็พบเข้ากับตำรวจและรถตำรวจที่กระจายกำลังล้อมหน้าร้านเอาไว้ หรี่ตาลงเพื่อรับแสง จดจ้องไปยังกลุ่มผู้คนในเครื่องแบบตรงหน้า กระชับอาวุธสีดำมะเมื่อมในมือแน่น ก่อนจะอ้าปากตะโกนเพื่อเรียกร้องโอกาศเอาตัวรอดโอกาสสุดท้าย
“ ทิ้งอาวุธซะ! เดี๋ย.. ”
แล้วทุกอย่างก็ดับลงโดยไม่ทันที่เขาจะตั้งตัว..
สิ่งสุดท้ายที่จำได้.. คงจะเป็นสัมผัสหนักๆที่ท้ายทอยล่ะมั้ง
อา..
ให้ตายเถอะ
ใครมันทุบหัวผมกันวะ?
.
.
.
.
.
.
.
พอลืมตาขึ้นมาอีกที.. ก็นั่นล่ะ
โดนล็อคกุญแจมือติดกับไอ้บ้าตรงหน้านี้ซะแล้ว
“ มองอะไร? ” คนถูกจ้องถามห้วนๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าตาไม่สบอารมณ์นัก…ขอโทษทีนะ คิดว่าตัวเองไม่พอใจแค่ฝ่ายเดียวหรือไง ผมเองก็เซ็งเหมือนกันนะที่ต้องมาตัวติดกับหมอนั่น มองไปรอบๆในพื้นที่แคบๆ แล้วก็พบว่าเรานั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถตำรวจ ตะแกรงลูกกรงกั้นส่วนของเราเอาไว้จากตำแหน่งคนขับ และแน่นอนประตูที่ไม่สามารถเปิดออกจากภายในได้ ไม่มีทางที่จะไปไหนได้….. คิดแล้วก็เซ็งเป็นบ้า
“ ห่วยบรม ” บ่นพึมพำกับเพลงภาษาแปลกๆที่เปิดอยู่ในรถ ถึงผมจะมองไม่เห็นหน้าคนขับแต่บอกได้เลยว่ารสนิยมของเขาห่วยชะมัด
“ คิดแบบนั้นเหมือนกัน ” อยู่ดี ๆ ก็มีคนเข้าร่วมวงสนทนา พอหันไปมองใบหน้าง่วง ๆ ของคนที่เสนอหน้าพูดขึ้นมาหน้าตาเฉยแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด
“ ไม่ได้ถาม ” เชื่อเถอะ ถึงจะเหงาปากมากแค่ไหน ผมก็ไม่ได้มีความคิดอยากจะคุยกับหมอนี้เลยสักนิด ให้หันไปมองวิวนอกหน้าต่างของแวนคูเวอร์ในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน ยังจะดีกว่าต้องทนมองหน้ากัน
อะไรบนโลกนี้มันดลใจให้ผมต้องมาโดนจับพร้อมแฟนเก่าของตัวเองด้วยวะ…. ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
.
.
.
ห่วยชะมัด
_ _
TBC.
THISISNOTJUNE.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in