เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
New Continent : South AmericaKanSiri
ตอนที่ 1 พายุที่ Zermatt
  •            การมาเยือน Zermatt ของผมเป็นเรื่องที่ไม่ได้เหนือการคาดหมายซักเท่าไหร่เพราะเมื่อ 8 ปีก่อน ตัวเราได้อธิษฐานต่อขุนเขาและในหัวใจเราไว้ว่า เราจะต้องพาครอบครัวมาที่นี่ให้ได้ ผมไม่ได้แปลกใจเลยความสวยระดับหลักล้าน ก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะกลับมาอะเนอะ และฉัน...ผู้เป็นเหยื่อ ก็ได้กลับมาเที่ยวซ้ำจนได้

                การมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์รอบนี้ก็มีครอบครัวผม แม่ พี่สาว และพี่เขย และ เพื่อนๆ อีก 3 คนของพี่สาว พวกเราเดินทางจากซูริค ลงมาพักที่ Interlaken มีโอกาสได้ไปเที่ยว Bern, Lauterbrunnen, Grindelwald และ Mürren ก่อนที่จะเดินทางลงมาพักที่ Zermatt อีก 3 คืน ก่อนที่จะตีตั๋วไปที่ Milan เพื่อส่งตัวเอง ครอบครัว และผองเพื่อนกลับสู่ประเทศต้นทาง ก่อนที่จะมา Zermatt ยุโรปมีอากาศที่ดี
    มาก แดดออกทุกวัน อุณหภูมิกำลังดี ไม่ร้อนไม่หนาวเอ่ออ ดี แต่จริงๆพวกเราก็แอบเช็คพยากรณ์อากาศที่ Zermatt อย่างใกล้ชิดว่าวันที่เราไปพักนั้น มีเมฆมาก ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่ครอบครัวผมนี่น่ะซิ เดินทางมา 10 กว่า ชั่วโมงจากประเทศไทย ถ้าไม่ได้เห็น Matterhorn คงต้องน้ำตาตกในกลับบ้านแน่นอน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ภาวนา


                วันแรกที่มาถึงเซอร์แมท อากาศไม่ได้เลวร้ายมาก แต่เมฆคลุมจนไม่เห็น Matterhorn ตัวดีเลย พวกเราเดินเล่นในเมืองสั้นๆ ก่อนจะกลับสู่ที่พักและได้แต่เช็คพยากรณ์อากาศ และก็ได้แต่ภาวนาเช่นเดิมว่า ขอให้ฟ้าเปิดด้วยเถิดห้านาทีก็ยังดีเอ้ออ แต่คำขอของพวกเราก็ดูไม่ได้เป็นจริงซักท่าไหร่
    โรงแรมที่พวกเราพักมีระเบียงที่โผล่หน้าออกไปดูวิว Matterhorn ได้ แต่เหมือนการจองครั้งนี้จะเสียเงินเปล่า เพราะมันไม่มีวี่แววที่จะโผล่หัวมาเลย เซ็งมาก...

                วันที่สองสภาพอากาศก็ยังดีอยู่ แต่ในโทรศัพท์ขึ้นเตือนว่าหิมะตก...ได้แต่คุยกับพี่สาวว่า “เอ่อตกกี่โมง สงสัยจะตกบนภูเขา” ด้วยความที่อากาศค่อนข้างดี แต่เมฆยังเยอะอยู่พวกเราเลยตัดสินใจขึ้นรถไฟขึ้นไปที่ Gornergrat โดยที่ไม่รู้หรอกว่าอากาศในเวลาต่อมาจะเป็นยังไง แอบกระซิบว่าคราวนี้เราซื้อตั๋ว Half Pass Swiss มาเราเลยได้ลดครึ่งราคาในการขึ้นรถไฟไป Gornergrat ราคาลองเช็คในเว็บดูนะ


                พวกเราออกจากโรงแรมตั้งแต่ 8 โมงเช้า ขึ้นมาจนสุด และระหว่างทางก็พบว่าหิมะตกจ้า... ความหวังในการเห็น Matterhorn ริบหรี่มากกก ฉันได้แต่คิดในใจว่า “เชี่ยแล้วไง” แต่ก็ได้พูดปลอบทุกคนว่า อากาศมันเปลี่ยนเร็วนะไม่แน่หรอก เดี๋ยวก็ได้เห็น อื้มมม นั่นแหละ คนเรามันต้องมีความหวังเนอะ

                ถึงอย่างนั้นพวกเราก็เล่นหิมะอย่างสนุกสนาน นี่เป็นครั้งแรกที่ครอบครัวผมได้เห็นหิมะที่ตกลงมาจริงๆ ตกแบบเยอะพอที่จะเล่นได้ ถ่ายรูปสวยงามตามประสาคนไม่เคยเจอหิมะ ตัวผมก็จอยไปด้วย ได้แต่คิดในใจ (อีกครั้ง) ว่า ยังดีที่มีหิมะให้เล่น ให้ถ่ายรูปถือว่าเป็นเรื่องปลอบใจพอเราถ่ายรูปชมวิวเล่นหิมะจนหนำใจก็เริ่มเหนื่อย จึงเข้าไปพักในอาคาร Gornergrat นั่นแหละ หาอะไรกินตอนเที่ยงมานั่นจิบชา กาแฟ และได้แต่ภาวนา (อีกตามเคย) ว่าเออเราคงจะได้เห็น น้อง Matterhorn ซักนาทีก็ยังดี

                พวกเรารอคอยไปถึง 2 ชั่วโมง แต่น้องไม่มีวี่แววยลโฉมพวกเราจึงตัดสินใจที่จะกลับโรงแรม แต่แล้ว ณ ขณะที่กำลังไปที่สถานี อยู่ดีๆ เมฆที่หนาทึบก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกวินาทีนั้นคือเรามีหวังมากกก และแล้วทุกคน ไม่ใช่แค่ครอบครัวผมแต่ทุกคนที่อยู่บนนั้นคือ Wowwwww ว้าวววว น้องออกมาแล้วทุกคนรีบคว้ากล้อง ถ่ายรูป Matterhorn กันอย่างไม่ละสายตา โอ้ยยยยแต้มบุญเรายังเหลือ วินาทีนั้นคือ ดีใจมาก พวกเรามาไม่เสียเที่ยวแล้ว น้ำตาจะไหล มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขแบบเหมือนถูกหวย เหมือนสอบติดมหาลัย สีหน้าทุกคนมีรอยยิ้มแล้วความสุขกันจนอธิบายไม่ถูกแต่หารู้ไม่ว่า มันคือความสุขสุดท้ายก่อนที่เรื่องเฮงซวยจะเกิดขึ้น


                พอพวกเราเต็มอิ่มกับ Matterhorn แล้วพวกเราก็เดินทางกลับลงมายังโรงแรม Matterhorn ก็เข้าสู่สถานะหมอกเมฆบังตามเคย วิวหลักล้านจากโรงแรมมันช่างเสียเงินเปล่าเสียจริงๆ ได้แต่บอกกับตัวเองว่า อย่างน้อยกูก็ได้เห็นแล้ววะ

                วันต่อมาพวกเราตื่นมาพร้อมกับฝนที่ตกแบบ ไม่หยุด ทีแรกพวกเรามีแพลนที่จะขึ้นกระเช้าไปดู Matterhorn แต่เนื่องจากฝนที่ตกแบบหนักหน่วงผมจึงได้บอกทุกคนว่า อย่าเลยอันตราย และไม่ทันขาดคำ กระเช้าก็ได้ทำการปิดบริการ วันนี้พวกเรานอนเฉื่อยๆอยู่ที่โรงแรม พร้อมเช็คพยาการณ์อากาศอยู่เรื่อยๆ ในขณะที่โทรศัพท์เตือนว่าหิมะตกแต่ความจริงคือฝนมันตก งงมาก มีอยู่ 3 แอพบอกไม่ตรงกันซักแอพ ตอนนั้นผมเลิกดูโทรศัพท์ไปเลยคือ...มันไม่ได้ช่วยให้เราแพลนอะไรได้เลย พอฝนซาหน่อยพวกเราก็ออกไปช๊อปปิ้งหาอะไรกินกัน และมันก็ผ่านไปอีกวัน

                ในคืนนั้นเองผมก็สังเกตได้ว่าหิมะมันเริ่มตกลงมา แต่ด้วยความที่เรามาเที่ยวเดือนเมษายนมันคืออะไร มันคือฤดูใบไม่ผลิ มันมีโอกาสที่หิมะจะตกนะแต่มันจะตกกันซักแค่ไหนเชียว จากประสบการณ์ผู้อยู่ยุโรปมา 4 ปี ฉันได้แต่บอกพี่ว่า

                มันตกไม่เกินห้าชั่วโมงหรอก ฤดูแบบนี้”

                เออเอาซี้ มันจะอะไร กับจิ๊บจ้อยมาก แม่ชั้นผู้ตื่นมาตี 3 และชั้นก็ตื่นตามแม่

                แม่: กัน กัน หิมะตก ไฟดับ

                ฉัน: “ยังตกไม่หยุดอีกหรอ?”

                ชั้นตัวเด้งขึ้นมาจากเตียงออกไปดูที่ระเบียง “โอโห้.....” อิเชี่ยขาวเต็มเมือง “ OMG MTFK” ตอนนั้นคือในใจคือ เชี่ยอะไรเนี่ย และแม่ฉันผู้เป็นพวกตื่นตระหนก ชั้นจะเป็นแบบนั้นไม่ได้

                “แม่ไม่เป็นไรเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นแต่ ทั้งวัน มันไม่มีเชี่ยอะไรดีขึ้นเลย และพรุ่งนี้พวกเราจะต้องเดินทางไปมิลาน....ในสมองชั้นประมวณและคำนวณเลยว่า “Ship Lost” ชิบหายละ ลงจากเขาไม่ได้แน่นวล แต่ภายนอกก็ได้แต่บอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้นเออ แต่ไฟฟ้าดับทั้งเมืองเลยนะ

                สภาครองเกรสได้เปิดขึ้นโดยไม่มีแม่ ผมคุยกะพี่สาวและเพื่อนๆ เอายังไงกันดี “รอดูพรุ่งนี้คือสิ่งที่เราทำได้ และไฟฟ้าก็ไม่มีทีท่ากลับมาซักนิด

                โรงแรมที่ผมอยู่ถือว่าจัดการปัญหาได้ดีในระดับนึงพอมีไฟฟ้าสำรองใช้ และมีการ Update รถไฟตลอดนี่คือข่าวดี แต่ข่าวร้ายก็คือ พวกเราลงจาก Zermatt ไม่ได้....และอีก 5 วัน วีซ่าที่เพื่อนพี่ๆมีจะหมดลง วินาทีนี้เนี่ยแหละที่เรียกว่า จากนักท่องเที่ยว กลายเป็นผู้ประสบภัยเต็มรูปแบบแล้วคือแบบทำไมจะต้องมาเจออะไรแบบนี้

  •             และก็เป็นไปตามคาดเมืองถูกตัดขาดจากภายนอกโดยสมบูรณ์ เช้าวันถัดมา หิมะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกแถมยังหนักขึ้นกว่าเดิม ผมกับเพื่อนพี่สาวรีบตื่นมาตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพราะคาดหวังว่ารถไฟจะเปิดให้บริการตามปกติซึ่งมันไม่ปกติไงอากาศน่ะ เอ่อสรุปทุกครั้งที่ไปที่สถานีรถไฟ ก็จะมีเจ้าหน้าที่และป้ายประกาศบอกว่ารอการอัพเดทต่อไปนะ อีก 4-5-6 ชั่วโมงอะไรก็ว่าไป

                ในเมื่อเราออกจากเมืองไม่ได้เราเลยสนุกกับหิมะไปเลยทุกแอคทิวิตี้บนภาคพื้นดิน พวกเราทำมันให้หมด ปั้นหิมะ ปาหิมะ นอนกลางหิมะ เอ่อเล่นให้โลกรู้ว่ากูเจอหิมะแล้วโว้ยยย


                พวกเราติดบน Zermatt เพิ่มอีก 2 คืนถ้วน สถานะการณ์คือ ร้านขายของไม่เปิด เปิดบางร้าน อาหารมีจำกัด ใช้ได้แต่เงินสด ยังโชคดีที่พวกเราพอมีเงินสดติดตัวอยู่บ้าง จะว่าเครียดก็เครียด แต่มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ ยังดีที่ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ปกติพวกเราเห็น Matterhorn ทุกช่วงเวลาหลังจากที่หิมะหยุดตกแต่ก็ยังลงไปไม่ได้เพราะหิมะหนามาก ขอบคุณที่ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของภูเขาลูกนี้ แต่คราวหลังถ้าเรากลับมาอีก....ใจดีกับเราหน่อยนะ

                  ก่อนที่จะเช้าวันสุดท้ายของการอยู่ Zermatt พวกเราได้รับการอัพเดทข่าวสารว่า ตารางรถไฟจะทำการอัพเดทในวันถัดไปตอนเที่ยง ถือว่าเป็นข่าวดี เพราะสภาพอากาศก็ดีขึ้นมาก เว้นแต่หิมะที่หนาเป็นเมตร พอตื่นนอนมาปุ๊ปพวกเราเลยไม่ได้กระตือรือร้นซักเท่าไหร่ เพราะเข้าใจว่ารถไฟน่าจะประกาศตารางเดินรถอีกทีตอนเที่ยง แต่เนื่องจากเรารีบตื่นแต่เช้ามาทานอาหารเช้าในโรงแรมกัน พวกเราจึงได้ยินพนักงานคุยกับลูกค้าว่าถนนใช้ได้แล้ว ถ้าจะจองแท็กซี่ ให้จอกก่อน 10 โมงนะ พวกเราไม่รอช้า ปรึกษากันและก็ลงมติว่า พวกเราจะไม่รอประกาศจากสถานีรถไฟอีกต่อไป พวกเราต้องได้ลงวันนี้ ใช่วันนี้เท่านั้น หลังจากไปจองปุ๊ป พนักงานแจ้งว่า มีเวลา 5 นาที รถจะมารับแล้ว พวกเรารีบกลับขึ้นไปแพคกระเป๋าและเตรียมพร้อมทุกอย่างให้ทันเวลา เพราะเราไม่รู้เลยจริงๆว่าคิวของแท็กซี่ยาวขนาดไหนและมันก็เป็นเรื่องที่ดี หลังจากที่พวกเราได้แท็กซี่และลงจากเขามาได้ ก็มีข่าวประกาศมาว่าทางลงจาก Zermatt ถูกปิดอีกครั้ง เพราะหิมะถล่ม คนข้างบนจึงลงมาไม่ได้อีก 1 วันเต็ม พวกเราถือว่าโชคดีมากๆที่ได้กลับลงมาและเดินทางไปสู่มิลานได้ภายในวันนั้น


                พวกเรามาถึงมิลานด้วยสภาพกึ่งดีใจกึ่งเหนื่อยล้า แต่ก็ยังอยากเที่ยวอยู่ เลยได้มีโอกาศไปเดินเล่นเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะกลับบ้านในวันถัดไป ประสบการณ์ครั้งนี้สอนอะไรหลายอย่างมากอย่างแรกเลย ประกันการเดินทางสำคัญมากจริงๆ สองการตัดสินใจที่เด็ดขาดและไม่หวังน้ำบ่อหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆถ้าคุณจ่ายไหว ไปก่อนเลยอย่ารอ และสาม ควรเผื่อวันเดินทางอย่างน้อย 1-2 วัน เพราะเราไม่รู้เลยอะไรจะเกิดขึ้น เช็คข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงให้ได้ในขณะที่มีโอกาส

                ถึงกระนั้นแผนการเดินทางไปอเมริกาใต้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างใดผมมีเวลาพักผ่อน 2 วันก่อนที่จะบินไปอเมริกาใต้และนี่แหละ เหตุการณทุกอย่างที่ Zermatt ทำให้พลังงานชีวิตของผม เหลือต่ำเหลือเกินแต่ทุกอย่างมันถูกเตรียมไว้แล้ว และผมก็อยากไปมากๆด้วย ขอร้อง มันเลื่อนไม่ได้จริงๆ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in