เช้าโง่ๆในวันอาทิตย์ แสงแดดผ่านลอดม่านมาจากทางหน้าต่างริมห้องเช่าราคาไม่แพงมากระทบลงบนหน้าของผมพอดิบพอดี เป็นอีกวันหยุดที่ผมมีแพลนจะไปร้านกี้ต้าร์ที่ฝากเอาไว้ให้ช่วยปรับเสียงให้หน่อยเมื่อมันเพี้ยนไปมากและจะต่อด้วยไปจิบกาแฟแล้วหามุมเงียบๆแกะเนื้อเพลง แต่เสียงโทรศัพท์แผดเสียงสั่นดังก้องจนผมรำคาญต้องหยิบมาดูในที่สุด 'พาย' ชื่อนั้นทำให้ผมนิ่งไปถึงสามวิก่อนจะกดรับสายแต่โดยดี
"นายว่างหรือเปล่า" เธอถามผมด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วคงจะเกรงใจไม่น้อย
"ว..ว่างสิ มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า"ผมตอบเธออย่างไม่เป็นความจริง แต่ใครจะกล้าไปตอบว่าไม่ว่างกันล่ะ
"ทำไมพูดจาห่างเหินจังล่าา..หื้ม"เธอยังยืดเยื้อแทนที่จะบอกจุดประสงค์ที่โทรหาผมให้มันกระจ่างไปสะก่อน
"คุณมีอะไรก็บอกผมมาได้เลย"ผมไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจเธอเลยสักนิด แต่ผมต้องหาเรื่องที่ทำให้เราไม่ต้องกลับไปพูดเรื่องอดีตให้มันยาวยืด
"เห้อ นายช่วยทำเหมือนเรายังเป็นเพื่อนกันหน่อยได้มั้ย"เธอพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอนสุดขีด ผมกลัวว่าทำผมทำแบบนั้นผมจะต้องหวั่นไหวกับพายอีกครั้ง น่าใจหายที่เธอดันเป็นแฟนเก่าและเป็นคนแรกของผม"ที่เราโทรมานี่เราอยากจะกลับไปคุยกับนายนะ ได้มั้ยย"
ฟึ่บบบบ
และแล้วแบตเตอร์รี่โทรศัพท์กระทัดรัดของผมก็0%ได้ในเวลาพอดิบพอดีกับบทสนทนาที่ผมคงไม่อยากจะไปต่อมากกว่านี้ เห้ออออ ผมถอนหายใจยาวยืดไม่คิดว่าจะต้องมาเนือยในวันที่วางแพลนไว้เยอะแยะขนาดนี้
ผมที่เข้าแถวซื้อคาปูชิโน่ ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นพอรับรู้ว่าที่ผมสั่งไว้ได้แล้วเดินไปหาที่นั่งแถวมุมหน้าต่างแล้วหยิบมือถือมากดฟังเพลงในเพลลิสท์ไปเรื่อยเปื่อยจนกาแฟค่อนไปจนหมดแก้ว
แค่คิดว่าพรุ่งนี้จะต้องไปทำงานอีกผมก็เหนื่อยเกินกว่าจะลืมตาหนักอึ่งบนเตียงนุ่นนิ่มที่แสนจะหลับสบายในห้องเช่าขนาดย่อม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in