สาเหตุที่ไม่ได้รีวิวตั้งแต่ SS1 เพราะยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ได้ดู SS1 มาแล้วมี SS2 ก็ต้องลองดู ดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลย แล้วก็คิดอยู่เหมือนกันว่า เส้นเรื่องจะเดินไปทิศทางไหน ทีมทะสึคุดะจะเจอบททดสอบอะไร ที่จะดูท้าท้ายกว่าการปล่อยจรวด กับ ทำลิ้นหัวใจเทียม ได้อีก

 

เรื่องย่อ 

     SS1 หลังจากทะสึคุดะเจอวิกฤตโดนฟ้องเรื่องสิทธิบัตรจนเกือบเอาตัวไม่ได้รอดแล้ว ก็ได้ทำวาล์วให้กับจรวจของเทโคคุ เติมเต็มความฝันของ ทะสึคุดะ ได้สำเร็จ หลังจากนั้นบริษัททะสึคุดะอุตสาหกรรมก็ได้มาทำลิ้นหัวใจเทียม เพื่อช่วยเหลือเด็กๆที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วให้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดนต่อสู้กับบริษัทใหญ่แต่ด้วยคุณภาพทำให้ผ่านมาได้อย่างสวยงาม 

    SS2 โทโนะมุระ ยอดนักบัญชีประจำ ทะสึคุดะอุตสาหกรรม ต้องลางานกลับไปช่วยพ่อที่อายุเยอะทำนาที่บ้านนอกท่ามกลางปัญหาของบริษัททะสึคุดะ หลังจากบริษัทเทโคคุเปลี่ยนผู้บริหาร ที่พยายามจะตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่ทำกำไรให้บริษัทนั่นคือโครงการจรวดออกไป แล้วไปสนใจโครงการที่ก่อให้เกิดกำไรมากกมากกว่า  แต่หลังจากที่ทะสึคุดะได้ไปเยี่ยมโทโนะมุระ แล้วได้ลองซ่อมและขับรถไถนาทำให้เค้าเห็นความยากลำบากของชาวนามีความคิดที่ละผลิตทรานสมิตชั่นตัวขับเคลื่อนรถไถนาที่ดีที่สุดเพื่อช่วยชาวนา

ความรู้สึกหลังจากดู 

    เป็นซีรี่ย์ที่ดีมาก เข้มข้น กดดัน ฟาดฟัน หักหลัง พลิกไปพลิกมาก ทุกตอนคือบทดีมาก เป็นซีรี่ย์ที่สนุกมาก ลุ้นมาก ได้เห็นปัญหา การแข่งขันของกลุ่มทุนเล็กกับกลุ่มทุนใหญ่ การแข่งขันทางธุรกิจชิงไหวชิงพริบ ช่วงชิงพื้นที่ในธุรกิจกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน รวมไปถึงการที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างความแค้นที่เคยผิดหวังในอดีตกับการให้โอกาสอีกครั้ง และพิสูจน์ว่า อุดมการณ์ และ ธุรกิจเดินไปด้วยกันได้ยังไง 

เราว่าเนื้อเรื่องต่อยอด จาก SS1 ได้ดีมาก จากอวกาศสู่ผืนดิน ใช้ประโยชน์จากดาวเทียมที่ปล่อยขึ้นไปมาช่วยพัฒนาการเกษตร เพื่อสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้การทำเกษตรถูกต้องและแม่นยำขึ้น แบบนี้แหละซีรี่ย์ที่ส่งต่อแรงบรรดาลใจ ส่งต่อพลังให้เกิดสิ่งใหม่ คือมันส่งต่อแนวคิดให้คนดูได้ เนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ จนถึงตอนพิเศษ คือเรียงร้อยต่อกัน เป็นซีรี่ย์ที่สมบูรณ์แบบมากเรื่องหนึ่ง จบได้ดีมากก 

สำหรับเราถือ เป็นซีรี่ย์ แห่งปี 2018 ฝั่งญี่ปุ่นเลยอ่ะ ถ้าให้คะแนนเรื่องนี้ 10/10 

ปล นิยายเรื่องนี้ คนเขียนเดียวกับ ฮันซาวะ นาโอกิ แต่ส่วนตัวเราชอบเรื่องนี้มากกว่า เพราะบทที่เข้าถึงได้ และไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวเกินไป ดูแล้วอินมาก โดยเฉพาะอาชีพเกษตรที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก