เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
S O M E T H I N G B O R R O W.ManualEyeko
การซ่อมบำรุงภาวะฉีกขาด
  • ฉันเคยอยากจะล้มเลิกกับเรื่องความสัมพันธ์ลงเสียทีด้วยเหตุผลว่ามันยุ่งยากและซับซ้อน มีเงื่อนไขมากเกินไป เพราะจมปลักกับสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ถึงขนาดเคยรู้สึกโดดเดี่ยวจนสัมผัสได้ถึงเสียงของแสงแดดที่ค่อยๆลอดผ่านริ้วผ้าม่านเข้ามาในยามเช้า เคยผิดหวัง เคยถูกหลอกใช้ เคยถูกแกล้งและเคยกลั่นแกล้ง บางครั้งเลยทำให้เราอ่อนแอมากกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น บางวันเหมือนเราฝืนใจอยู่ทุกนาทีในการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นเหมือนจะหายใจไม่ออก โดนริบเอาอากาศหายใจออกไปทีละเล็กทีละน้อยเวลาที่เราได้สูดอากาศหายใจได้อย่างเต็มที่ก็ตอนที่เราอยู่คนเดียว เป็นการอยู่คนเดียวจริงๆ และทำเพียงนั่งอยู่ในมุมใดมุมหนึ่งของโลกแล้วมองดูภาพเบื้องหน้าคนเดียว

    ความสัมพันธ์ของผู้คนนั้นเป็นเรื่องที่ต่างจากสัตว์มันเหมือนสายระโยงระยางที่เรียกว่าโชคชะตาพันเกี่ยว สานกันไปมาอย่างไม่เป็นระบบ ไม่มีคำนิยาม ไม่มีวิธีผูกและวิธีแก้เงื่อนสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการเป็นครอบครัวเพื่อน พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน คนรู้จักร่วมโลกและสังคม ทุกอย่างล้วนยากไปหมด

    แต่การยุติสายสัมพันธ์ลงไปไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องในการไขปัญหาที่ลึกลับที่สุดในจักรวาลของมนุษยชาติเสมือนกับการหยุดของฟันเฟืองหนึ่งในเครื่องจักรกล ย่อมส่งผลต่อสิ่งต่างๆรอบตัว บางครั้งอาจเกิดการพังทลายของตึกรามบ้านช่อง การทรุดตัวของแผ่นดินที่เราเหยียบเดินอยู่ทุกวี่วัน สิ่งต่างๆที่พังทลายลงล้วนใหญ่หลวงเพราะมันเกิดขึ้นในใจของเราเองคนเดียว

    บ่อยครั้งที่สภาพศึกกร่อนของใจเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ยุ่งยาก การเอาแต่ใจตัวเองและดึงดัน และการพยายามเข้าใจอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว ผลสุดท้ายแรงจากชักกะเย่อข้างที่ผ่อนลงย่อมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ การปล่อยปลายเชือกอีกด้านเป็นการยุติทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ลืมความเหน็ดเหนื่อย แรงพยายามที่เคยมีให้กับการยื้อยุดฉุดกระชากที่ไม่หลงเหลือเค้ารางของสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์อันดีอยู่เลยแม้เศษเสี้ยว กลายเป็นว่าความพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างออกมาดี เป็นเงื่อนไขของความเจ็บปวดเพียงฝ่ายเดียวของเราเอง มันพาเราจ่อมจมลงไปสู่สภาวะที่ถูกฉีกทึ้งความรู้สึก ทั้งที่เราหวังดี อยากให้ทุกอย่างดีและราบรื่น พยายามกับมันมากเหลือเกินจนรู้สึกแสบในท้องเข้าไปทุกวัน เหมือนปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นกัดกินจิตใจของเราเข้าไปเรื่อยๆ ให้มันมีอิทธิพลเหนือตัวเราแทนความรู้สึกของเราไปโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว

    เราเคยเรียกร้องอยู่เงียบๆในความสัมพันธ์กับทุกคน และถึงแม้ว่าวันนี้จะยังไม่มีใครได้รับรู้ เพราะท้ายที่สุดความเงียบจะเป็นเมือนการผูกปมเชือกที่ลำคอของเรา เป็นห้องปิดตายที่ไม่มีใครเห็นได้ แต่ในความเงียบงันนั้นฉันก็พลันได้ยินเสียงใจตัวเองสั่นเหมือนถูกบีบและเขย่าแรงๆ ฉับพลันนั้นฉันจึงเข้าใจว่าที่จริงฉันไม่ได้กลัวความเงียบเหงาโดดเดี่ยวนี่นา ฉันกลัวว่าจะสูญเสียตัวเองไป และในแวบนั้นเองที่ฉันก็พึ่งมองเห็นว่าฉันกำลังทำอะไรกับตัวเอง 

    ฉันเอาใจที่สมบูรณ์ของฉันไปแลกแรงปะทะที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อฉันทำไม ฉันเอาร่างกายที่แข็งแรงของฉันไปจ่อไว้ที่หุบเหวที่มืดมิดไม่เห็นวี่แววของสรรพชีวิตใดๆไปทำไมกัน แล้วในตอนนั้นเองฉันก็เข้าใจระบบความสัมพันธ์จนถ่องแท้ ตราบใดก็ตามที่ฉันไม่ได้เอาแขนโอบกอด ไม่ได้ยื่นมือไปจับ พวกเขาล้วนไม่ใช่ของฉัน พวกเขาไม่สัมพันธ์กับฉัน ไม่มีสายใยบางเบาใดๆที่มาผูกฉันไว้กับทุกคนบนโลกด้วยเงื่อนไขจอมปลอมอีกต่อไปแล้ว จะมีแต่สิ่งดีๆที่ฉันเลือกให้ตัวเอง คนที่ฉันรักแบบที่ตัวฉันเลือกเองและคนที่รักฉันในแบบที่ฉันเป็นจริงๆ และเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วสิ่งที่ยังเหลืออยู่คือตัวฉันที่ไม่อยู่ในสภาวะบุบสลายฉีกขาดและถูกดึงทึ้งอีกต่อไป


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in