สวดมนต์ ภาวนา ทำสมาธิ ฝึกจิต แผ่เมตตา
ตั้งแต่ได้ตื่นเช้ามาทำสมาธิวันละ 12 นาที และไอลินก็ทำมาต่อเนื่องทุกวัน แม้แต่ในวันหยุดพักผ่อน เธอก็ยังคงตื่นมาทำสมาธิในตอนเช้าเหมือนเดิม
เธอเริ่มสนใจเรื่องของการปฏิบัติธรรม เข้ากรรมฐาน สวดมนต์ ภาวนา ฝึกจิต แผ่เมตตา หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อคุณแม่ของซูซี่ในครั้งที่ท่านเมตตาพาไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อในครั้งนั้น
ไอลินเพิ่มตารางการทำสมาธิก่อนนอนเข้าไปอีกหนึ่งหัวข้อ โดยเธอจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการสวดมนต์ ภาวนา ทำสมาธิ ฝึกจิต มีสติรู้อยู่กับลมหายใจ เสร็จแล้วจึงค่อยแผ่เมตตา
และในวันหยุด หากเธอว่าง ก็จะขอติดตามครอบครัวของซูซี่ไปกราบหลวงพ่อที่วัดด้วยทุกครั้ง หลวงพ่อทักไอลินว่า พัฒนาได้ดีมาก ให้ตั้งใจฝึกปฏิบัติต่อไป "ความสงบคือสมบัติอันมีค่ามหาศาล อย่าให้ใครมาพรากไปจากใจเจ้านะ"
ถึงแม้ไอลิน จะไม่ค่อยเข้าใจในความหมายนั้นเท่าใดนัก แต่ก็ถือเป็นมงคลที่หลวงพ่อเมตตาให้พร
ไอลิน : ขอบใจมากนะซูซี่ ตั้งแต่วันที่แกพาไปทำบุญที่วัดครั้งนั้น ฉันมีความสุขมากขึ้นจริง ๆ มันเป็นความสุขแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ความรู้สึกข้างในใจ มันช่างสงบ เย็น ฉันสามารถนั่งยิ้มให้กับต้นไม้ใบหญ้า อย่างไม่รู้จักเบื่อ ฉันไม่เคยรู้เลยว่า คนเราจะสามารถมีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็ได้ด้วย
ซูซี่ : เห็นแกมีความสุขแบบนี้ ฉันก็มีความสุขไปด้วยนะลิน
ไอลิน : แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนะซูซี่ บางทีฉันคิดว่าฉันเหงา แต่พอดูดี ๆ มันเหมือนไม่ใช่ความเหงา เพราะถ้าเหงา มันจะต้องเศร้า และความรู้สึกมันก็จะแคบ ๆ ใช่ไหมแก แต่นี่มันคืออะไร ความเหงามันมีกี่แบบกันนะ
ซูซี่ยิ้มให้ไอลินอย่างอ่อนโยน
ซูซี่ : มันเป็นยังไง ลินรู้สึกแบบนั้นบ่อยไหม แล้วเวลาความรู้สึกแบบนั้นมา มันมาตอนไหน
ไอลิน : มาตอนฉันเผลอ บางทีฉันก็ลืมดู ก็ปล่อยให้ตัวเองอยู่เหงา ๆ แบบนััน แต่บางครั้งฉันก็พอรู้ตัว มันก็มาแป๊บเดียว อืม
หรือบางทีฉันอยู่ในที่ ที่ผู้คนพลุกพล่าน ฉันกลับรู้สึกว่าทำไมมันเงียบจัง ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงมีความรู้สึกว่าน่ารำคาญ แต่เดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จะว่าเหงา ก็ไม่เชิงนะ
ไอลินทำท่าคิดถึงตอนที่ตัวเองเห็นความรู้สึกตัว ณ ขณะปัจจุบัน
ไอลิน : แต่ฉันแน่ใจว่า มันไม่เหมือนกันแน่นอน เขาเรียกว่าอะไรแกรู้ไหมซูซี่
ซูซี่ : ไม่ค่อยแน่ใจนะลิน แต่เดี๋ยวฉันถามคุณแม่ให้ ท่านน่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ และให้คำอธิบายลินได้ดีกว่าฉันนะ
ซูซี่พูดจบก็ต่อสายโทรหาคุณแม่ของเธอให้คุยกับไอลินทันที
คุณพ่อคุณแม่ของซูซี่ เป็นนักปฏิบัติธรรม จึงไม่แปลกที่พอได้ฟังก็เข้าใจทันทีว่าสิ่งที่ไอลินเจอ คือสภาวะธรรม คือความรู้สึกตัวทั่วพร้อม และเราจะจับมันได้ เมื่อเรามีสติ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี ไอลินมีความก้าวหน้าในทางธรรมตามที่หลวงพ่อได้ให้พรไว้นั่นแหละ
คุณแม่ซูซี่ : ขอให้ปฏิบัติดีต่อไปนะหนูลิน ดูแบบนี้แหละ เห็นแบบนี้แหละ แต่ไม่ต้องปรุงนะลูก
วันหนึ่ง ๆ ถ้าเราดูทัน ก็จะมีอีกมากที่เข้ามาทักทายให้เราเห็น ให้เราดู ไม่ว่าจะเป็นดีใจ เสียใจ อิจฉา น้อยใจต่างก็แวะเวียนมาให้เราได้เรียนรู้ ก็ทำความรู้จักกันไปนะลูก ดูให้ทัน ดูให้สนุก ขำ ๆ ไป ยิ่งเวลาเจ้าตัวอิจฉา เจ้าตัวร้าย ๆ มา ก็ไม่ต้องรังเกียจ ผลักไสเขานะ เจ้าพวกนี้ขี้อาย พอเราเห็นเขาปุ๊บ เขาจะหลบหนีไปทันที ไม่เป็นไรนะ
ส่วนเจ้าพวกดีใจ เจ้าพวกนี้ชอบโชว์ ยิ่งเห็นยิ่งชอบ ยิ่งพาเพื่อนมาเพิ่ม
ถ้าหนูลินชอบก็คุยกับเขาเยอะ ๆ ทักทายเขาบ่อย ๆ เรียกออกมาก็ได้ เข้าใจไหมลูก
ไอลิน : เข้าใจค่ะคุณแม่
คุณแม่ซูซี่ : ทำไป ดูไป ในระหว่างวันนี่แหละดีแล้ว เดือนหน้าไปกราบหลวงพ่อด้วยกัน ติดขัดตรงไหน หลวงพ่อท่านจะได้เมตตาชี้ทางให้นะลูก
ไอลิน : ขอบคุณค่ะคุณแม่ ลินไปด้วยแน่นอนค่ะ ลินยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากรู้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าจะถามยังไง
คุณแม่ซูซี่ : ดีแล้วลูก ดีแล้ว ทำต่อไปนะ
...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in