- achi
แชทที่จมไปจนเกือบอยู่ล่างสุด โผล่ขึ้นมาในหน้าแชท
มันไม่ใช่แชทเหมือนแต่ก่อน เพราะอชิโทรมาแทน สามมองชื่อนั้นอยู่นาน จนสุดท้ายเขาก็คว้ามือถือมารับสาย
[ฮัลโหลสาม..มึงสะดวกคุยไหม]
เสียงที่คุ้นเคยในความทรงจำทักทายสามผ่านโทรศัพท์
[สาม..ฮัลโหล]
“อืม ว่าไง”
กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ อชิถึงกับทักซ้ำอีกรอบ
ไม่ได้คุยมาสามเดือนแล้วสินะ
[พี่กิ่งเขาไปชวนมึงกลับมารีวิวหนังกับกู...กูเลยส่งรายละเอียดไปให้ทางเมลแล้ว อ่านยัง..?]
“กำลังอ่านพอดี”
[โอเค งั้นคุยเลยนะ]
[คลิปต่อไปกูจะรีวิวหนังเรื่องที่ส่งไปให้มึงในเมล]
“มันเข้าโรงอาทิตย์นี้?”
[ใช่ พอดีกูได้ตั๋วมาฟรีรอบกาล่า เลยจะไปดู]
“อ่อ”
[อืม..]
เกิดความเงียบระหว่างเรา
[สาม]
“ว่า..”ขานรับปลายสายไป
[มึงไปดูหนังกับกูไหม]
อชิถามคำถามที่ตัวเขาไม่ได้คาดเดาเอาไว้เลยสักนิด
แต่อันที่จริง ที่เขาตอบรับคำชวนของพี่กิ่งก็เพราะอยากเจอมันอีกนั่นแหละ
“....”
[..กูได้ตั๋วมาสองใบ] อชิพูดต่อ
“อ่อ..”
“แล้วมึงไม่ไปดูกับแฟนมึงเหรอ”
ไอ้เหี้ย ถามอะไรของไปวะกู
[เขาไม่ว่าง]
“เลยมาชวนกูอ่านะ”
[ยังไงเราก็ต้องช่วยกันรีวิวในแชนแนลอยู่แล้ว ไปดูพร้อมกันเลยก็ได้]
สามปฏิเสธมันไม่ได้หรอก
คงเป็นแบบนั้น
“วันไหนล่ะ”
[มะรืนนี้แหละ มึงจะมาใช่ไหม]
“อืม ไปได้” ไม่ได้คาดหวัง แต่อยากเจอมึงฉิบหายเลย
[โอเค ไว้เจอกัน ไม่กวนแล้วๆ] ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ทำให้เผลอคิดถึงรอยยิ้มมันที่เคยยิ้มให้เขาจนได้
ห้วนคิดถึงอดีตที่เคยมี..เรา
ช่องยูทูปที่อชิพูดถึง เราเริ่มทำมันด้วยกันตอนที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย เริ่มจากศูนย์จนมีคนตามครึ่งล้านในระยะเวลาสองปีครึ่ง เราสร้างคอนเท้นรีวิวเกี่ยวกับหนังและซีรีส์ที่ดูด้วยกันผ่านการพูดคุยผ่านกล้องเหมือนการเล่าสู่กันฟัง ทำให้มีหลาย ๆ คนเริ่มเข้ามาติดตามจนยอดวิวบางคลิปเฉียดล้าน
แรกเริ่มที่เราลงแรงไป เราแค่สนุกที่ได้ลอง เหมือนได้ใช้วิชาเรียนมาวิจารณ์ ติชมทั้งหนังทั้งในกระแสและนอกกระแส แต่นานวันเข้า ความสัมพันธ์เพื่อนสนิทก็เริ่มเปลี่ยน เมื่อมีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยว และชื่อเสียงที่มีคนชื่นชอบเราทั้งคู่ พวกนั้นจิ้นสามกับอชิไปมาจนเกิดแท็กคู่ในสังคมโซเชียล
เราหลงระเริงและใช้ความชอบของพวกเขาสร้างรายได้
แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด
เมื่อมีคนใดคนหนึ่งดันคิดมากกว่านั้น
เส้นขีดแบ่งของความเพื่อนมันบางกว่าขนคิ้วของกูซะอีก
...เผลอรู้สึก แต่ไม่ปฏิเสธว่าก้าวข้ามเส้นนั้นไปอย่างตั้งใจ
ทว่าคงจะดีถ้าใจเราตรงกัน
เพราะความรู้สึกสามมันจริง
แต่กับอชิน่ะ มันมีตัวจริงอยู่แล้วต่างหาก
แบบนี้ไงเขาถึงถอยออกมาเพื่อรักษาหัวใจตัวเอง
——-—-
กับคนบางคน
แม้จะรู้สึกดีแค่ไหน แต่ก็ครอบครองไม่ได้
————
[มึงถึงยัง] เสียงปลายสายเอ่ยถามเมื่อใกล้ถึงเวลารอบหนัง
“อยู่ในลิฟท์ จะถึงแล้ว”
[โอเค กูรอตรงโซฟานะ...เอ้อ กูซื้อป็อบคอร์นชีสที่มึงชอบแล้ว]
จำได้ด้วยว่ากูชอบ
แค่นี้รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบางๆบนใบหน้าของสามเสียแล้ว
[รีบมานะมึง]
“โอเค เดินอยู่”สามตอบกลับปลายสายไป ก่อนจะเร่งฝีเท้าไปยังโรงภาพยนตร์
“สาม!..”คนตัวสูงหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะพบคนตัวเล็กที่สวมเสื้อเชิ้ตสีครีม เข้ากับกางเกงยีนตัวโคร่งพับปลายพ้นข้อเท้ามาเล็กน้อย พร้อมรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่โปรดนั่งอยู่บนโซฟา
คิดถึง
สิ่งแรกที่ผุดเข้ามาในความคิดของคนมองอย่างสาม
ใบหน้าเล็กสวมแว่นกลมๆ เข้ากับรูปหน้า ดวงตากลมโตที่มองมาเจือด้วยความรู้สึกที่สามคาดเดาไม่ออก ระยะสามเดือนที่ไม่ได้เจอหน้าอชิมันนานในความคิดของสามเหลือเกิน แม้จะยังเห็นมันผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ดี แล้วยิ่งมาเจอกันวันนี้ ก็ยิ่งย้ำชัดว่าสามยังรู้สึกกับอชิไม่เปลี่ยนแปลง
“มาช้าจังวะ”คนตัวเล็กเอ่ยทัก เมื่อสามเดินเข้ามายังโซฟา
“รถติดดิ มึงก็ถึงเร็วฉิบหาย”
“พอดีกูแวะมาเอาของให้พี่พอร์ชอะ เลยรีบไปหน่อย”อชิยิ้ม น้ำเสียงมันปกติเมื่อพูดถึงแฟนมันจนคนฟังได้แต่พยักหน้ารับรู้ พร้อมมองถุงกระดาษที่วางข้างตัวมันที่น่าจะเป็นของที่มันพูดถึงเมื่อกี้
คงรักกันดีเหมือนเดิมสินะ
กูควรดีใจแหละ เออ..ดีใจก็ได้วะ
“เข้าโรงเลยไหม...กูอยากดูโฆษณาอะ”
อชิยังเหมือนเดิมจริงๆ คนที่ชอบดูโฆษณาหนังใหม่ และออกจากโรงคนท้ายๆเพราะชอบดู end credit และที่เหมือนเดิมกว่านั้น คือเขาเองที่จดจำทุกอย่างได้ดีแบบไม่ตกหล่นซะด้วย
“ปกติมึงมากับแฟนเหรอ”สามถามหลังจากเรานั่งที่เรียบร้อย
“...” อชิเงียบ สามเลยไม่กล้าถามอะไรต่อ
“กูมาดูคนเดียว...ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา”
“....” แล้วตั๋วหนังสองใบที่มันมักถ่ายลงสตอรี่ไอจีนั่นล่ะ
“แต่รอบนี้มีมึงมาด้วย คิดถึงเมื่อก่อนเลยว่ะ”
สมองกำลังสั่งให้ถามบางสิ่งบางอย่าง แต่แล้วก็ไม่กล้าถามออกไป
เราต่างเงียบกันทั้งคู่จนกระทั่งภาพยนตร์เริ่มฉาย เหมือนมีกำลังกั้นกลางระหว่างเราตลอดครึ่งชั่วโมงแรกที่ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าเลื่อนผ่าน
จนกระทั่งถึงฉากที่สร้างเสียงหัวเราะเบา ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้สามหันไปมองหน้าคนข้างกาย
แค่อยากเห็นรอยยิ้มมันนั่นแหละ
แต่แปลกดีที่อชิก็หันมองเขาเช่นกัน รอยยิ้มน่ารักๆที่เขาโคตรหลงรักกำลังยิ้มให้เขา
“ยิ้มอะไร”สามกระซิบเมื่ออชิยังคงจ้องหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไว้จะบอก ดูต่อเหอะ”อชิเอี้ยวตัวมองกระซิบข้างหูคนตัวสูงกว่า
ระหว่างดูหนัง มันมีหลายครั้งที่มือเราชนกันอย่างบังเอิญ ความทรงจำเก่าๆและความรู้สึกที่มีมันชัดเจน
กระทั่งภาพยนตร์เปลี่ยนเป็นสีดำ พร้อมกับ end credit เลื่อนขึ้นมา ทั้งสามและอชินั่งมองอยู่ที่เดิม ขณะที่หลาย ๆ คนลุกออกไปแล้ว
“สนุกปะ”อชิเอ่ยถามท่ามกลางโรงภาพยนตร์ที่หลงเหลือคนเพียงไม่กี่คน
“อืม สนุกดี”
“มึงให้คะแนนเท่าไร”
“8.5 ขัดใจตอนกลางเรื่องนิดหน่อย บางฉากมันไม่สมูท แต่รวมๆมันก็สนุก..มึงล่ะ?” ผมตอบไปตามที่คิด
“9 มั้ง ชอบตอนจบ ชวนให้คิดดี..มึงว่าในความคิดมึง ตัวเอกได้กลับมาเจอกันไหม”
“น่าจะ เพราะสัญญากันไว้แล้ว”
“อืม เพราะสัญญาไว้เลยต้องทำตามสัญญา”อชิตอบไปพร้อมครุ่นคิดกับตัวเอง
“.....”
“ที่กูยิ้มตอนนั้นน่ะ กูแค่ดีใจที่มีมึงนั่งอยู่ข้าง ๆ ได้นั่งดูด้วยกัน”
“.....”
“ดีใจนะที่มึงมา”อชิเอ่ยเบาๆหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“..ที่ใจที่ได้มาเหมือนกัน”
หลังจากคำพูดของสาม รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าน่ารัก จนทำให้อีกคนที่มองอยู่อย่างสามยิ้มตามไปด้วย
————
9/10 สำหรับหนังเรื่องนี้
11/10 สำหรับมึงที่มาด้วยกัน
————
“กลับเลยปะ จบแล้วเนี่ย”สามถามคนข้างๆที่นั่งเงียบ
“อืม มึงกลับไง เอารถมาเหรอ”อชิหันมาตอบ แล้วก็เตรียมลุกจากเบาะ
“ใช่ มึงอะ”สามตอบ ก่อนจะลุกตามคนตัวเล็กออกจากโรงภาพยนตร์
“กลับด้วยได้ไหม..”
อชิหันมาถาม พร้อมกับเงยหน้าจ้องตาคนที่สูงกว่า
แพ้ทาง..
“ได้ เดี๋ยวไปส่ง”
“ใจดีว่ะ มึงนี่เหมือนเดิมเลยนะ ยอมกูเก่ง”อชิอมยิ้ม ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ก็นะ กูก็ยอมมึงตลอดอยู่แล้วนี่หว่า” ไม่ได้พูดเกินจริงหรอก
แต่มีเรื่องเดียวที่กูคงยอมทำตามที่มึงขอไม่ได้
คือเรื่องที่มึงเคยขอให้กูเลิกชอบมึงไงล่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in