ความรักและวัยเยาว์ที่แปรเปลี่ยน ถูกหยุดไว้ ในพฤษภาคม 1980
หากจะกล่าวถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญในเกาหลี คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ "การเรียกร้องประชาธิปไตยในกวางจู (Gwangju Uprising)" เหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันเป็นจุดเริ่มต้นระบอบประชาธิปไตยในประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองที่ตึงเครียด Youth of May ได้นำเสนอเรื่องความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ดำเนินไปโดยมีฉากหลังเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่
เรื่องราวค่อย ๆ นำพาผู้ชม ร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจในความรักของฮวังฮีแทและคิมมยองฮี ส่วนตัวเราอยากจะชื่นชมสองนักแสดง "อีโดฮยอน" และ "โกมินชี" ที่ถ่ายตัวละครออกมาได้ดีจนต้องปรบมือให้ เราคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างหนักเหมือนกัน ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกและความรักของสองตัวละคร ที่หากจะยึดจากเนื้อเรื่องแล้วนั้น การเจอกันภายใต้ระยะเวลา 1 เดือน ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น แต่โดฮยอนกับมินชี สามารถทำให้เราเข้าใจช่วงเวลาตกหลุมรัก และหมดข้อสงสัยในประเด็นนี้ไปโดยปลิดทิ้ง
เราชอบที่ว่า ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาหลงรัก แต่นั่นไม่ได้ทำให้ตัวตนของสองตัวละครนี้หมดไป เราจึงเห็นได้ในฉากที่ต้องแสดงจุดยืนและตัดสินใจของแต่ละฝ่าย แม้แต่ในยามวิกฤตหรือคับขันที่สุด กระบวนการตัดสินใจของทั้งคู่ ยังคงตั้งอยู่บนความเป็นตัวของตัวเอง ผ่านประสบการณ์และความเชื่อของตน อีกทั้งการนำเสนอความรักของทั้งคู่ ไม่ได้ด้อยค่าความรุนแรงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ซ้ำยังเผยให้เห็นถึงร่องรอยความเจ็บปวด ผ่านประชาชนคนธรรมดา
การดีไซน์ตัวละคร ทั้งฐานะความเป็นอยู่ ความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนจุดยืนและอุดมการณ์ทางการเมืองของทุก ๆ คน ล้วนเป็นเรื่องราวที่เรารู้สึกว่าผู้กำกับ "ซงมินยอบ"และ นักเขียนบท "อีคัง" ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะโดดเด่นในการถ่ายทอดชีวิตรักและอุปสรรคของเหล่าตัวละคร แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำให้การเมืองเป็นสิ่งที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา เป็นความใกล้ตัวที่เชื่อมโยงกันหมด ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
ถึงแม้เราจะอยากให้ตัวซีรีส์ขยับขยายเรื่องราวการต่อสู้ซึ่งเป็นฉากหลังที่น่าสนใจ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตลอดทั้ง 12 ตอนที่ได้ดูมานี้ ซีรีส์เรื่องนี้สามารถดึงดูดให้เราหลุดเข้าไปยังเมืองกวางจู ปี 1980 ทำให้เห็นถึงการดำเนินไปของเหล่าตัวละคร ความต้องการหลุดพ้นและได้ใช้ชีวิตที่ตนกำหนด ท่ามกลางเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ไม่อาจลืมเลือน ความรักและการใช้ชีวิตภายใต้การกดขี่ ยังคงสร้างบาดแผลและความเจ็บปวดให้กับหลาย ๆ ฝ่าย
นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้น การแสดงที่เข้ากันเป็นอย่างดีของทุกตัวละคร อีกจุดเด่นที่เรารู้สึกประทับใจใน Youth of May คือการใช้โทนสี แสง และองค์ประกอบภาพ ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างลงตัว เป็นซีรีส์ที่ภาพสวยมาก ๆ และคงบรรยากาศความเป็นเมืองสมัยก่อน เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเรื่องนี้เลยทีเดียว
//
.
.
.
Spoiler Alert!
เนื้อหาด้านล่างมีการเปิดเผยเรื่องราวตอนจบ!
โดยส่วนตัว เรารู้สึกว่าเนื้อเรื่องเข้มข้นมาตั้งแต่แรก ยิ่งพอเกี่ยวกับเหตุการณ์ในกวางจู เรายิ่งรู้สึกว่าความเข้มข้นและจังหวะความตึงเครียดมันพุ่งขึ้นสูงมาก ๆ ซึ่งสำหรับเรา เรารู้สึกว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว อาจมีบางประเด็นที่น่าลงดีเทลไปได้อีก แต่อาจเป็นเพราะเวลาที่มีจำกัด เลยรู้สึกแอบเสียดายที่มีแค่ 12 ตอนเท่านั้น
ส่วนประเด็นในตอนจบ เราคิดว่าโทนเรื่องมาแนวนี้อยู่แล้ว ถึงแม้จะเสียใจกับทั้งคู่ แต่ก็เข้าใจดีว่ามีหลายคนที่สูญเสียและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่มาก การค้นเจอโครงกระดูก อาจจะเป็นความหวังให้กับผู้คนที่รอคอยอยู่ก็เป็นได้
.
.
.
เราเจอบทความหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ หากท่านใดดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วอยากศึกษาประวัติศาสตร์และความเป็นมาของเหตุการณ์ในกวางจู เราขอแปะลิงค์ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ไว้ตรงนี้นะคะ
https://www.the101.world/gwangju-uprising/
ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้นะคะ หวังว่า Youth of May จะเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เรื่องโปรดของใครหลาย ๆ คนนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in