หลายคนอาจจะจดจำเรื่องราวของครูเอลล่า เดอ วิล ฆาตกรฆ่าลูกหมาเพื่อมาทำฟอร์ ครูเอลล่าในหนัง The Hundred and One Dalmatians เป็นช่วงวัยกลางคนของตัวละครที่เติมเปี่ยมไปด้วยความร้ายกาจ ความเห็นแก่ตัวและความบ้าร้ายเหลือของเธอ
หลังจาก เอสเทลล่าย่างก้าวเข้าสู่โลกของบารอนเนส จิ๊กซอว์ที่เสมือนหล่นหายไปเมื่อตอนเด็กของเอสเทลล่าถูกเติมเต็ม เรื่องราวความจริงของตัวเธอเป็นภาพสมบูรณ์ขึ้น ความจริงอันโหดร้ายทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด ผลักตัวตนที่อ่อนแอเข้าสู่หลุมลึกในใจ และถือกำเนิดตัวตนใหม่ผ่านความโกรธและโศกเศร้าสู่ความพยาบาทและต้องการแก้แค้น ช่วงที่เอสเทลล่าเข้าสู่วงวนของความมืดที่ก่อตัวภายในตัวนั้นมีสิ่งที่ขาดไปคือการสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูอินไปกับตัวละคร หนังไม่ได้สร้างบรรไดอารมณ์ที่นานพอให้คนดูได้ไต่ไปพร้อมๆกับสิ่งที่ตัวละครได้ประสบมากนัก ช่วงแสดงอารมณ์เศร้าหรือเจ็บปวดของครูเอลล่าเป็นแค่ฉากเล็กๆเท่านั้น เป็นเหตุให้อารมณ์ของตัวละครส่งมาไม่ถึงคนดู หนังเน้นหนักไปในทางคววามปรารถนาที่จะล้างแค้นของครูเอลล่าและวิธีการล้างแค้นของตัวละครแทน
ทั้งตัวละครเอสเทลล่าและครูเอลล่าแทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยในแง่ของการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมีเพียงแค่เมกอัพและเสื้อผ้าที่จัดเต็มแบบเกินต้านเท่านั้น โดนครูเอลล่านั้นเป็นแค่ร่างอวตารเวอร์ชั่นอัพเกรดที่เพิ่มความบ้าคลั่งเข้ามาเท่านั้น ต่างกับตัวละครที่ประสบสภาวะคล้ายๆกันอย่าง อาเธอร์ เฟล็กในภาพยนต์ Joker ปี 2019 ที่คนดูไปร่วมสัมผัสไปถึงความเจ็บปวด ความโกรธ และความหดหู่ของชีวิตอาเธอร์ เฟล็ก และได้เห็นการเปลี่ยนถ่ายอารมณ์ของตัวละครไปพร้อมๆกัน ซึ่งทำให้คนดูทำความเข้าใจถึงการกระทำของตัวละครมากขึ้น ถึงแม้ว่าปมเรื่องราวของครูเอลล่าจะค่อนข้างเซอร์ไพรส์พอสมควร แต่เมื่อชั่งน้ำหนักของเหตุผลนั้นเเล้ว การที่ตัวละครผลักตัวเองเข้าสู่ด้านมืดและสร้างอีกตัวตนเพื่อแก้แค้น ก็อาจจะฟังดูน้ำหนักเบาไปหน่อย
การปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะครูเอลล่าต่อสาธารณะชนเพื่อประกาศตัวจะงัดข้อกับผู้ทรงอิทธิพลอย่างบารอนเนส สะท้อนนัยยะของการต่อต้านอำนาจเก่าและความต้องการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างสังคม อีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการขบฐต่อกลุ่มชนชั้นสูง ผลงานศิลปะผ่านฝีเข็มและเส้นด้ายของครูเอลล่าแฝงความป่าเถื่อน การเสียดสีสังคมและความปรารถนาที่จะหลีกหนีสังคมเน่าเฟะของชนชั้นสูง เฉกเช่นเดียวกับแนวดนตรีพังก์
ผลงานของครูเอลล่าสะท้อนถึงวิวัฒนาการ (Evolution) และการปฎิวัติ (Revolution) ชุดที่เธอสวมใส่มาประชัดกับบารอนเนสบอกเล่าความปรารถนาที่จะมายืนแทนที่ในฐานะดีไซน์เนอร์นับเบอร์วันของลอนดอน ยกตัวอย่างชุดเดบิ้วในฐานะครูเอลล่านั้นเป็นชุดเดรสยาวสีแดงท่อนล่างเป็นหางปลากรุยกรายเหมือนเพลิงกำลังลุกโชน โดยชุดเดรสสีแดงนั้นเป็นผลงานคอเลกชั่นเก่าของบาราเนสที่ครูเอลล่านำมาตัดเย็บใหม่ให้เข้ากับในแบบฉบับที่เป็นตัวเธอมากขึ้น เพื่อประกาศก้องถึงการมาของคลื่นลูกใหม่
หรืออย่างการเพ้นท์หน้าด้วยข้อความ "the future" (อนาคต)
และการยืนอยู่บนหลังรถที่บารอนเนสนั่งอยู่ด้วยชุดเเจ็กเก็ตทหารและกระโปรงจากเศษผ้าฟูฟ่องโดยข้างกระโปรงของเธอปรากฏข้อความว่า "past" (อดีต)
และอีกหนึ่งชุดที่เป็นที่ตราตรึงคนดูอย่างชุดราตรีที่ตัดเย็บจากขยะจากชาวเมืองลอนดอน ครูเอลล่าปรากฏตัวจากรถขนขยะด้วยชุดราตรีจากขยะรีไซเคิลและข่าวแท็บลอยเกี่ยวกับเธอ ครูเอลล่าทำผมทรงสะดุดตาของเธอออกสไตล์ของมารี อ็องตัวแน็ต และเธอก็จากไปบนรถขนขยะ โดยชุดนี้อาจจะแฝงนัยยะเสียดสีในเรื่องชนชั้นทางสังคมของชาวลอนดอน ซึ่งครั้งนึงเธอก็เคยเป็นเด็กกำพร้าข้างถนนไม่ต่างอะไรกับเศษขยะที่พวกเขาทิ้งขว้างไม่สนใจ เธอเป็นคนชายขอบมาตลาด จนวันหนึ่งเธอถือตีพิมพ์อยู่บนหน้าหนึ่งของทุกสำนักพิมพ์และกำลังเป็นที่สนใจในวงกว้างในสังคม ทรงผมสุดบรรเจิดที่ช่างหาทำอันเป็นเอกลักษณ์ของมารี อ็องตัวแน็ต เป็นภาพแทนถึงกลุ่มชนชั้นสูงในสังคมอย่างในสังคมของฝรั่งเศษในช่วงพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตอย่างหรูหราอู้ฟู่ไม่สนใจชีวิตของชนชั้นล่าง จนนำการปฏิวัติฝรั่งเศสในที่สุด
การฟาดฟันกับดูเสื้อผ้าระหว่างครูเอลล่ากับบารอนเนส เป็นจุดที่คนดูจะได้เพลิดเพลินและตื่นตาไปกับเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างปาณีตมากมายที่ได้รับแรงบรรดาลใจจากแบรนด์อย่าง Dior, Vivienne Westwood และ Alexander McQueen รวมไปถึงคนดูจะได้เสพผลศิลปะผ่านการเสื้อผ้าที่ตัวละครสวมใส่กันด้วย ขนาดตัวเอกของเรื่องอย่าง เอมม่า สโตรน ก็มีลุคมากถึง 47 ลุคด้วยกัน
เอสเทลล่าได้จากไปแล้วจริงๆ เธอสูญเสียตัวตนในด้านดีของเธอและท้ายที่สุดได้เปลี่ยนเป็นคนที่แข็งกร้าวและคิดถึงแต่ตัวเอง แม้ว่าในหนังยังไม่ได้บอกเล่าถึงความอำมหิตและความบ้าบิ่นของครูเอลล่าถึงขนาดฆ่าคนหรือสัตว์ได้ แต่ตัวหนังได้บอกถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าเธออาจจะพัฒนาความอำมหิตของเธอไปอีกขึ้นในอนาคต แต่ถึงจะไม่ได้มีฉากใช้ความรุนแรงมากมาย ตัวหนังก็ยังมีโทนดาร์กๆ กระแทกอารมณ์ให้ได้สัมผัสอยู่บ้าง จึงถูกจัดอยู่ในเรท PG-13
Cruella
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in