โปรเจคจบ เป็น โครงงานที่คนเรียนวิศวะทุกคนต้องผ่าน ก่อนที่จะจบ ปริญญาตรี
โดยส่วนตัวถ้าเฉพาะวิชาที่เรียนจริงๆก็ไม่ค่อยจะชอบวิศวะคอมนี้เท่าไหร่แต่ไม่คิดซิ่วเพราะมันก็เรียนได้และไม่รู้ว่าจะไปเข้าอะไรแทนในใจเลยคิดแค่ขอให้จบๆไปก็พอแล้ว
โปรเจคก็กะทำแค่ ผ่านๆแค่มีส่งก็พอ รู้สึกว่ามันเป็นภาระเหลือเกิน ทำก็ไม่เคยทำ ก็คิดแค่ถ้ามันเสร็จก็คงสบาย สอบโปรเจคก็ขอแค่ผ่านมันไปได้ก็เหมือนจบแล้ว แค่ผ่านๆ จะ D จะ C อะไรก็ได้ไม่สน ผ่านเป็นพอ ไงก็ไม่ทำคอมอยู่แล้ว
ก่อน สอบโปรเจค อาทิตย์หนึ่ง โปรเจคก็เสร็จ อยู่ดีๆมันก็รู้สึกภูมิใจในโปรเจคขึ้นมารู้สึกว่ามันก็คุ้มค่าที่ได้ทำมันในเวลา 3 เดือนนี้ ได้ประดิษฐ์อะไรขึ้นมาซักอย่างมันก็ไม่เลวนะที่ทำมา
แล้วก็ถึงการสอบโปรเจค อาจารย์สอบเป็นคนที่ไม่อยากเจอที่สุดเลย ตามคิดเจออาจารย์สับเละ หลายอย่างต้องยอมรับเลยว่าอาจารย์พูดถูกและแนวคิดก็ดีมาก แต่ที่ไม่พอใจมาก คือ สิ่งที่เราทำไปเพราะคิดว่ามันดีจึงทำมากลับเจอจารย์ว่า ว่าคิดไปเองงานที่ทำยังไม่โปร (อันนี้ก็รู้ถ้าโปร ู ไม่มาเรียนละ)
ผมลืมความคิดแรก ที่ว่า ผ่านๆก็พอ ไปเลย ตอนนั้นคิดอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือ ท้อ อยากจะเอาโปรเจคไปทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แต่อีกอันนี่สิ งานที่อุส่าต์ทำมาตั้ง 3 เดือน ถึงจะไม่ได้ดีเยี่ยมแต่ผมก็ไม่ได้สักแต่ว่าทำให้มันผ่านๆนะ มันเหมือน 3 เดือนที่ผ่านมามันไม่มีค่าอะไรเลย ตอนนั้น โกรธสุดๆ ซัดได้นี่ทำชัวร์ ผมไม่สนว่าจะให้เกรดอะไรคะแนนเท่าไหร่แต่ นี่มันงานผมอ่ะ คิดแต่ว่าถ้านี่มันมุมมองผมที่จารย์ว่า มันก็แค่มุมมองจารย์เหมือนกันอ่ะ เริ่มไม่สนแล้วว่าแนะนำดีไม่ดี
จบการสอบมีแค่รู้สึกโกรธ กับ เสียความรู้สึก ไอ่รู้สึกโล่งนี่ไม่มีซักนิด โชคดีที่มีเพื่อนกับอาจารย์คนอื่นมาดูแล้วก็ว่ามันดีบ้าง แต่ยังไงหลักๆก็นึกถึงแต่ตอนสอบโปรเจคนั้นอยู่ ตอนนั้น ผมแยกไม่ออกเลยว่าที่โดนว่ามัน งานเรา หรือ เรานึกไม่ออกเลยว่ารู้สึกโกรธขนาดนี้ล่าสุดตอนไหน
ถึงตอนนี้จะยังคิดอยู่แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ครั้งหนึ่งในชีวิตแต่ก็ยังไม่ค่อยอยากจะเจออีกเท่าไหร่ ถึงมันจะทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง
อ่านๆมาเยอะ สู้ประสบการณ์ครั้งเดียวไม่ได้เลยจริงๆ
แต่ก็เอาวะ ยังไงก็ผ่านมาแล้ว ก็ตรงตามที่คิดตอนแรกละกัน
ถ้ามันผ่านไปได้ด้วยดีหมดก็คงไม่ได้รู้อะไรขึ้นมา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in