ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เราเป็นคนขี้ลืม
อาจเพราะอาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์สมัย ม.ปลาย เคยบอกว่าสมองของคนเราแบ่งความจำออกได้เป็นสามระดับ อันได้แก่ ความจำแบบฉับพลัน ความจำระยะสั้น และความจำระยะยาว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวลาจำอะไรไม่ได้ เราก็มักจะโทษการทำงานของสมองสองส่วนแรก หาว่าทำไมขาดตกบกพร่อง ดูสิ เรื่องแค่นี้ก็ปล่อยให้เราลืมได้ เสียชาติเกิดเป็นสมองจริงๆ
แต่บางครั้งยังไม่ทันที่สมองจะได้ทำงาน เราก็เลือกที่จะไม่จำสิ่งนั้นแล้ว
เราจดเบอร์โทรศัพท์ลงมือถือ ดูวันเกิดเพื่อนผ่านโซเชียลฯ ใช้เทคโนโลยีเท่าที่มีอำนวยความสะดวกแก่ชีวิต เพราะหวังไว้ว่าเมื่อต้องการสิ่งใด เราก็เพียงเปิดมันดู ไม่ต้องคิดต้องค้นให้มันเมื่อยสมอง เพียงเท่านี้เราก็ไม่ลืม แถมยังไม่ต้องจำมันอีกด้วย
น่าแปลกที่เราทำแบบนี้กับความสัมพันธ์ไม่ได้
ขณะที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคดิจิตอล
MISSED การ์ตูนเรื่องยาวเล่มแรกของ TUNA Dunn พาเราไปสู่วิถีของอนาล็อก เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินย้อนยุค หากเพียงแต่ตัวละครทั้งหลายยังใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นดึกดำบรรพ์ ติดต่อกันผ่านโทรศัพท์บ้าน ถ่ายรูปโดยไม่มีฟิลเตอร์ เมื่อหลงทางก็ไม่มีกูเกิลแมพ และมีความสัมพันธ์ที่ลืมไม่ลงติดอยู่ในความทรงจำ
ต่อให้ห่างกันไปเป็นปี หรือเจอกันแค่ชั่วพริบตา แต่หากมีเรื่องราวร่วมกัน ไม่ว่ามากหรือน้อย ไม่ว่าสำคัญหรือเปล่า สมองก็พร้อมบันทึกภาพเหตุการณ์นั้นไว้
อาจเพราะอาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์สมัย ม.ปลาย เคยบอกว่าสมองของคนเราแบ่งความจำออกได้เป็นสามระดับ อันได้แก่ ความจำแบบฉับพลัน ความจำระยะสั้นและความจำระยะยาว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวลาจำอะไร—ที่ต้องการลืม—ได้สักอย่างเราก็มักจะโทษการทำงานของสมองส่วนสุดท้าย หาว่าทำไมถึงจดจำเรื่องที่ไม่ต้องการได้ดีนัก รู้มั้ยว่าอยากจะลืมมันมากแค่ไหน ช่วยย้ายความจำส่วนนี้ไปไว้สองส่วนแรกได้หรือเปล่า เวลาเผลอมันจะได้หายไป ไม่ติดแน่นอยู่อย่างตอนนี้
ถ้าพูดให้น้ำเน่า มันก็คล้ายกับวลีที่ว่า ‘ยิ่งลืม ยิ่งจำ’ นั่นแหละ
หากแต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องเศร้าเสมอไปที่เราอยากจะลืม เพราะบางครั้ง เรื่องบางอย่างก็ดีมากเกินกว่าจะฝังไว้ในความจำระยะยาว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in