ก็อย่างที่บอกไว้ ว่าเมื่อวานเป็นวันเกิดน้องสะใภ้ ก็แวะร้านเค้ก ไปเอาเค้ก มีคนถาม ทำไมซื้อเค้กให้น้องเล็กจัง เอาจริงนะ บ้านกุไม่กินเค้กค่ะ ที่จริง ที่ต้องเป่ามันทุกงานวันเกิดของคนในบ้าน เพราะกุมารสองหน่อนี่แหละ พวกนางรอคอยให้ถึงทุกๆวันเกิด รอร้องเพลง รอเป่า จึงกลายเป็นธรรมเนียม ว่าอย่างไรก็ตาม เราต้องเป่าเค้กและอวยพรกัน แม้จะไม่ได้อยากกินเค้กเลยก็เหอะ แต่การเห็นสองกุมาร ว้าวว เวลาเปิดกล่องเค้ก มันก็เป็นอารมณ์ความสุขจริงๆนะ ^^
ก่อนเป่าเค้ก ได้ยินว่าวัยรุ่นท้องเสียและอาเจียน อินี่ก็กลัวว่าจะไปติดไวรัสอะไรมาหรือเปล่า คนแก่ 67 ก็จะพอๆกับเด็ก 7 ขวบนะเฮ้ยย มาถึงบ้าน วัยรุ่นก็นอนงอแงที่โซฟา ก็ไปจับตัวดู ตัวร้อน ถามว่าทานยายังก็ครางฮื้อๆ คือคนแก่บ้านอื่นเป็นป่ะวะ แบบแก่แล้วพยศกันจน เฮ้ยยยย พ่อเป็นข้าราชการนะ เบิกได้ ถ้าต้องไปเอกชน ลูกก็ยังเบิกได้อยู่ กลัวไรเนี่ย ทำไมไม่ไปหาหมอ พูดไปงั้น คือก็รู้ว่าแกกลัวเข็ม ไปเนี่ย โดนเข้าน้ำเกลือแน่ๆ ก็งอแงจ้า ไม่ไป ไม่เอา จะนอนที่บ้าน ก็เลยต้องยื่นคำขาด ถ้าทานน้ำขาว แล้วยังถ่ายหรืออาเจียน ลูกจะอุ้มคุณพ่อ ไป Er จรืงๆด้วย เออ แล้วแกก็รู้นะ เวลากุดุ กุก็ดุจริงๆ (ไม่งั้นจะลากแกไปตรวจต่อมลูกหมากคราวก่อนได้เรอะ) กินข้าว กินน้ำแร่ เช็ดตัวให้แก แล้วก็นอนเฝ้าให้กินยาแก้ไขตอนตี 2 เจ้าโอ๋ น้องก็วนมาดูว่าโอเคไหม แกนอนหลับได้ ก็น่าจะโอเค กลัวเข็มขนาดไหนคิดดูํวววว
ด้วยความที่ตัวเองเป็นลูกคนโต ไม่ค่อยได้เจ็บได้ป่วยเท่าไหร่ เคยนอน รพ กับชาวบ้านเป็นเรื่องเป็นราวแค่สองหน ครั้งแรกวัยรุ่น พ่อแม่วุ่นวายฉิบหาย แต่ตอนนั้นเค้ายังไม่แก่มีเรี่ยวแรง ก็เป็นเรื่องหนึ่ง อีกครั้งเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่นอนแค่สองคืน แต่เป็นครั้งประวัติศาสตร์ว่า กุจะไม่ทำตัวเองเป็นภาระครอบครัวอีก คือ ตอนนั้นน้องสะใภ้ท้องเจ้าตัวเล็ก เจ้าตัวโตได้ห้าขวบ แม่ตามองไม่เห็น เพื่อนมีครอบครัว ไอ้ที่ไม่มีครอบครัวที่เคยดูแลกันก็อยู่ไกล ระหว่างที่นอน มองเห็นแม่แก่ๆมาเฝ้าเรา อิเชี้ย!!! มันต้องไม่ใช่แบบนี้ หลังจากนั้น วันผ่าเช้า สายหน่อยเคลียร์ค่าใช้จ่ายเอง เดินข้ามตึกเอง แล้วออกไปทำงานต่อ มีแต่คนบอก อีบ้า ไม่บ้า ถ้ามึงมาเห็นพ่อแม่แก่ๆดูแลเรา มึงก็จะทำอย่างกุ
ล่าสุด กันยา ปีก่อน ผ่าเล็กหน้าอกที่ขอนแก่น ไป รพ คนเดียว ตัดสินใจผ่าคนเดียว ผ่าเสร็จ 11.30 ขับรถยนต์กลับจากขอนแก่น มานครพนม ข้ามภูพานเอง มีคนบอกทำไมไม่ให้คนอื่นขับ คนอื่นน่ะใคร?? ่พ่อตามองไม่เห็นวัย 66 หรือ แม่ ที่ไม่เคยขับขึ้นภูพาน? ตอนแรก หมอบอกเอายาแก้ปวดไหม ปากดีด้วย ว่าทนได้ หมอหัวเราะแล้วจ่ายยามาสิบเม็ด พอลงภูพานยาชาหมด อิห่า!!!!!!! แผล 5 เข็ม สองชั้น เป็นอะไรที่ร้าวระบมดีมาก วัยรุ่นถาม ให้พ่อขับมั๊ย? สั่นหน้า เพราะตอนนั้นเริ่มทุ่ม มืดละ พ่อจะมองยากละ แล้วรถเยอะ ก็ขับกลับนครพนม สวัสดิภาพ ท่ามกลางเสียงสรรเสริญคนรอบข้าง มึงบ้า!!!!!! 5555555
ไม่รู้สิ แต่สัญญากับตัวเองแล้ว ต้องไม่มีภาพนั้นอีก ภาพพ่อแก่ๆมาดูแลเรา หรือแม่แก่ๆมาประคองเข้าห้องน้ำ ไม่เอา ขนาดเมษา มีนัดผ่าตัดใหญ่ มาดี้ถาม ใครจะไปเฝ้าแก?? แม่ มีพยาบาลพิเศษ ที่ไม่ผ่าใกล้ๆ ที่ยอมไปผ่ากรุงเทพ ที่ยอมจ่ายเป็นแสน เพราะไม่อยากเป็นภาระ ผ่านเสร็จ พัก 14 วัน ก็กลับมาเดินปร๋อละ ไม่ต้องมาเฝ้า ไม่ต้องมาเห็นสายตาเป็นห่วง ไม่ได้หมายความว่าการห่วงของเค้าเป็นภาระนะ แค่ ไม่เอา มันทุกข์ เวลาเห็นอายุขนาดเค้าต้องมากังวลเรื่องเรา เคยบอกว่า จะไม่ให้กังวล ขนาดศพ ถ้าพ่อกับแม่ไปก่อน ก็จะบริจาค เพราะตาก็บริจาคแล้ว ร่างกายที่ยังไม่บริจาค เพราะแม่บอกว่า ตอนเผาไม่ได้เผาลูก แม่คงใจไม่ดี ก็บอกแม่ไว้ งั้น จะยังไม่บริจาคนะ แต่ถ้าพ่อกับแม่ไม่อยู่ ก็จะยกให้เค้าใช้ประโยชน์ รพ เค้าเผาให้ด้วย ไม่มีค่าใช้จ่าย ลูกหลานเองก็ไม่เป็นภาระ เห็น กุอย่างเตรียมพร้อมเลยแสรดดดด
เมื่อเช้าไปตรวจเกร็ดเลือดกับบริจาคเลือด ก็โอเคนะ งดยางดเหล้ากัน 7 วัน หลังผ่าตัดแล้วคงบริจาคไม่ได้ยาวเลย ให้เหอะ ถ้าให้ได้ก็ให้เหอะ คือ ของแบบนี้ มันซื้อบริจาคไม่ได้อะ เลือด ตา ตับ ร่างกาย มันต้องใช้การให้ อย่างเดียว ถ้าให้ได้ ก็ให้ ยิ่งให้ยิ่งได้รับ เคยได้ยินป่ะ นี่ก็พยายามบิ้วโอ๋ให้ไปบริจาคเลือด ผู้ชายบ้านกุนี่ยังไงวะ กลัวเข็ม สักเต็มตัว แต่บริจาคเลือดกลัว!!!! คงเหลือแต่อิอ้วนละ ต้องค่อยๆบิ้วฮีตั้งแต่ 18 ให้ฮีรักการบริจาคเลือด ให้ฮีทำเป็นกิจกรรมไปเลย จะได้ดูแลสุขภาพด้วย ดีมะ??
ไม่มีเรื่องไอ้ฉ่ำ เบื่อแม่ง เบื่อสเตตัสนาง เลยออกไปแรดแต่เช้า ให้มันรู้ซะบ้าง
เป็นหมีง่ายๆที่แบบวันไหนเจ้าของไม่ค่อยสนใจใยดี
ดูแลเกาหูเกาคางให้ ต่อมแรดมันก็จะพองๆ มุดรั้วออกไปแถดแถบ้าง
ยังไงเธอก็ไม่ให้ปลอกคอฉันอยู่แล้วนิ งั้นเดี๋ยวไปเที่ยวปากซอยสักแป๊ปนะ
ถ้าไม่โดนเทศกิจจับหรือไม่โดนใครที่ไหน " เห่า" จะกลับมา
เชอะ!!!!
ทางนี้บริจาคเลือดไม่ได้ เป็นแม่นางเลือดจาง แต่พวกเครื่องในอะไรก็กินไม่ได้เหม็นคาวอ่ะนะ แต่เรื่องร่างกายคือบริจาคไว้ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยโน่น ไม่ได้ปรึกษาใคร เข้าไปบริจาคเลย คนที่บ้านก็มารู้เอากันทีหลังแหละ แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร ที่บ้านมันตัวใครตัวมันกันมานานแล้วไม่ใช่ครอบครัวใหญ่แบบพี่หมี
ว่าแต่ฉ่ำเงียบ พี่หมีแรดอีกละ คริ ๆ ระวังนางมารู้ทีหลังนะ คริ ๆ คริ ๆ สงสัยว่าจะได้มาอ่านชีวิตงอนง้องึกงักแถวนี้เร็ว ๆ นี้ชัวร์ ๆ