เรารู้สึกว่าทุกเพลงของวงต้องใช้พลังเยอะมากและสามารถถ่ายทอดพลังที่มีทั้งหมดถึงคนฟังจริงๆ ในไลฟ์นี้รวมไลฟ์ที่เราประทับใจไว้หมด และพลังเสียงของทากะในการลากโน้ตยังทำให้เราขนลุกได้ทุกครั้งที่ฟัง
2. C.h.a.o.s.m.y.t.h.
"Dream as if you will live forever and live as if you'll die today"
เพลงนี้เล่าเรื่องราวความทรงจำระหว่างเพื่อนที่ความสัมพันธ์เดินทางมาพบรอยต่อของชีวิต เป็นจุดที่ทุกคนต้องแยกย้ายและจากลากันไป ทำให้เรานึกถึงช่วงจบมัธยมหรือมหาวิทยาลัยที่เราทุกคนต่างต้องเลือกทางเดินของตนเอง และถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องทำตามความฝันของตัวเองแล้ว เป็นเป็นเพลงที่รำลึกถึงความทรงจำ ความฝัน หรือสิ่งที่มีร่วมกันกับเพื่อนเมื่อตอนยังเป็นเด็ก และเป็นเพลงที่ให้กำลังใจในการใช้ชีวิตว่า "จงใช้ความฝันให้เหมือนกับว่าเราจะดำรงอยู่ตลอดไป และจงใช้ชีวิตให้เหมือนว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต"
"We have to carry on
Our lives are going on
でも変わらずあの場所はあるから
So everybody ever be buddies
Days we grew up are days we will treasure
Show everybody show is beginning curtain has risen
Make your own story line
Dream as if you will live forever
And live as if you’ll die today"
3. Kanzen Kankaku Dreamer [Perfect Sense Dreamer]
'Dreamer is my name'
เพลงนี้คือเพลงแห่งความต้องการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อไปและมีความรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้นั้นยังไม่ดีพอเหมือนกับนักฝันวัยรุ่นที่มีไฟร้อนแรงเพื่อเติมเต็มความฝันและมีความต้องการเดินทางต่อไปบนจุดสูงสุดของชีวิตโดยที่ไม่หยุดที่เดิม อยู่ในช่วงเวลาที่เมื่อชีวิตมาถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าอิ่มตัวหรือที่ผ่านมาคิดว่าชีวิตยังไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการจนเกิดคำถามกับตัวเองว่าชีวิตจะอยู่ที่เดิมหรือจะก้าวต่อไป และเพลงนี้บอกให้นักฝันทุกคนตัดสินใจที่จะไปต่อจนกว่าจะได้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการโดยไม่ต้องสนใจคำพูดของใคร ถึงแม้ว่ามันจะยากและระหว่างทางอาจจะมีอุปสรรค แต่สิ่งที่สำคัญคือจงเชื่อในเป้าหมายและการตัดสินใจของตัวเองจนกว่าจะทำความฝันได้สำเร็จ
Don't be afraid to dream and achieve it.
เราคิดว่าเพลงนี้ค่อนข้างสะท้อนเรื่องความฝันของสมาชิกวงที่อยากจะมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จไปทั่วโลกไม่ใช่เพียงแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น และวันโอเคร็อคกว่าจะมาถึงจุดนี้นั้นก็ผ่านการทำงานหนักมาอย่างหนักหน่วงในการทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกา ยุโรปและเอเชียและสุดท้ายวงนี้ก็ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ฝันไว้จริงๆ
"Yeah when I'm caught in fire
When I rise up higher
Do you see me out there waiting for the next chance we get
Will we make it, IT'S NOT ENOUGH or just stand here longer
Say it "we can't end here till we can get it enough!!"
4. Decision
เป็นเพลงที่เกี่ยวกับการตัดสินใจที่จะทำตามความฝันอีกเช่นกัน ถ้าเปรียบกับดรีมเมอร์เป็นเพลงวัยรุ่นเลือดร้อนที่ยังรู้สึกชีวิตยังดีไม่พอ แต่เพลงนี้เป็นเวอร์ชันที่โตขึ้นต้องการเน้นย้ำในเรื่องการตัดสินใจ ที่คนอื่นมักจะคาดหวังเราว่าต้องทำแบบนี้หรือต้องเป็รแบบนี้ถึงจะดีที่สุดเท่านั้น แต่เพลงนี้บอกให้เราเชื่อในชีวิตตนเองว่าเรามีอิสระที่จะตัดสินใจถึงแม้ว่าจะตัดสินใจผิดพลาดและถึงแม้จะไม่มีใครยอมรับในการตัดสินใจ แต่จงมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองมากกว่าจะทำตามคนอื่นเพราะไม่มีใครที่จะช่วยเหลือเราได้นอกจากตัวเอง เพราะฉะนั้น จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะวันนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการ
"We'll never be as young as we are now"
5. We are
Never tell yourself you should be someone else
เพลงนี้เป็นที่สุดแห่ง motto การใช้ชีวิตสำหรับเรา เป็นเพลงที่ให้กำลังใจในการใช้ชีวิตที่พบเจอกับความกลัว ความกังวล ความผิดหวัง ความล้มเหลว การโดนดูถูกจากคนอื่นและบอกให้เราไม่ยอมแพ้ให้ยืนหยัดต่อสู้ต่อไปด้วยการเปลี่ยนพลังด้านลบที่พบเจอมาทั้งหมดเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราใช้ชีวิตต่อไปให้ดีขึ้น และยังมีสิ่งหนึ่งที่วงมักจะบอกผ่านหลายเพลงที่ผ่านมาอยู่เสมอคือการชีวิตที่เชื่อมันและอย่ากลัวที่จะเป็นตัวเอง
"When you’re standing on the edge
So young and hopeless
Got demons in your head
We are, we are
No ground beneath your feet
Now here to hold you
cause we are, we are
The colors in the dark"
6. 69
Sometimes, being a band means violently raising your middle finger While at better times it’s wishing for a tiny bit more of world peace
เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ให้กำลังใจในการใช้ชีวิตอย่างเกรี้ยวกราดตามฉบับวันโอเคร็อค โดยจะต่างจากเพลงอื่นตรงที่มีเนื้อเพลงที่ร้องเหมือนกึ่งแร๊ปกึ่งmc และยิ่งทำให้เพลงนี้เหมือนนักร้องกำลังร่ายคาถาการใช้ชีวิตที่ดูขลังๆชอบกล และชื่อเพลงอ่านตัวเลขตามภาษาญี่ปุ่นว่า roku หรือร็อค นั่นเอง
โดยส่วนตัวเราชอบเนื้อหาในท่อนแร๊ปของเพลงนี้มาก เป็นเพลงที่พูดถึงในแง่มุมของชีวิตวงดนตรีที่ต้องทำตามความฝันตัวเองต่อไปและต้องการทำสิ่งใหม่ๆที่ไม่จำเจเพราะมองว่าความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกยุคสมัย โดยหวังว่าวงดนตรีจะกลายเป็นความทรงจำที่เป็นตำนานให้คนจดจำ
ประโยคข้างล่างเป็นประโยคที่เราชอบมาก ทากะบอกว่าบางครั้งการเป็นวงดนตรีก็ต้องชูนิ้วกลางให้โลกอย่างเกรี้ยวกราดและชูนิ้วชี้ขึ้นมาอีกนิ้วเพื่อหวังให้โลกนี้สันติ เป็นการเปรียบเปรยที่แสดงถึงวงดนตรีที่เป็นกระบอกเสียงให้สังคมได้เห็นภาพมาก
"You can’t take your time, can’t waste a minute
So here’s another Wo Wo
I’m gonna take what I can and then give it
Then I’m gonna
Please you please me
Please you please me
That’s the 69(ろっく)"
7. Kimi Shidai Ressha
Yes, try to try, keep moving on
เป็นอีกเพลงที่บอกให้เราก้าวต่อไปอย่าจมอยู่กับความผิดพลาดที่ตัวเองทำจนเกินไปเพราะความผิดพลาดมันเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้ลองทำสิ่งใหม่ๆยังไงล่ะ ชีวิตต้องมูฟออนนะพวก เนื้อหาเพลงของวันโอเคร็อคที่ถ่ายทอดออกมาทำให้เรารู้สึกว่าวันโอเคร็อคเป็นเหมือนเพื่อนที่อยู่เคียงข้างและพร้อมที่จะเติบโตไปกับคนฟัง ซึ่งสิ่งที่พวกเขาพยายามจะบอกนั้นไม่ใช่เป็นเพียงลมปากแต่เป็นการบอกว่าฉันทำเป็นเพื่อนแกอยู่นะ แกก็ต้องทำได้ ถึงแม้ฉันจะเคยผิดพลาดมาก่อนแต่ตอนนี้ฉันก็ยังร้องเพลงให้แกฟังอยู่ตรงนี้ได้ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย (กอด)
"Don’t you take your times to blame yourself?
Times you’re taking back are times I’m taking back
I can do anything 24 hours a day
Are you ready now?
We’ve got nothing to be taken! "
8. Mikansei koukyoukyoku [Unfinished Symphony]
We are alive, we are alive!
เพลงนี้มีชื่อว่าบทเพลงประสานเสียงที่ยังไม่จบ ก็คงจะเปรียบเหมือนกับการใช้ชีวิตที่ยังไม่ถึงจุดจบและยังมีเรื่องราวที่ต้องสู้และเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆถึงแม้ว่าจะพบกับความล้มเหลว เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังระบายความรู้สึกอัดอั้นในใจออกมาและให้กำลังใจตัวเองในการใช้ชีวิตต่อ
เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ก็จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและรู้จักปลดปล่อยความเศร้าออกมาบ้างและทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการต่อเพราะสิ่งที่สำคัญคือการยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง because it is your life.
จบด้วยเพลงสุดท้ายที่เป็นเพลงในอัลบั้มแรกของวง เพลงนี้เป็นการย้อนกลับไปตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของชีวิต เป็นความรู้สึกที่สะท้อนความคิดที่พบกับความผิดหวังในชีวิตหรือความรัก และทำให้รู้ว่าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตเลยและกลายเป็นสิ่งนั้นที่ทำให้เรารู้สึกหมดกำลังใจที่จะต้องมีชีวิตต่อ เป็น borderline หรือ เส้นเขตแดนที่ทำให้ยึดกับสิ่งที่คิดและอยากจะก้าวข้ามผ่านเส้นนั้นออกมา และการตั้งคำถามกับชีวิตนี้เองที่ทำให้เรารู้สึกอยากจะค้นหาความสำคัญของการมีชีวิต เป็นเพลงที่บอกเราให้มองเห็นคุณค่าของชีวิตซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราอยากใช้ชีวิตต่อไป
"I didn’t know much about love and happiness
I didn’t know much about hope and fondness"
References
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in