รีวิว บรอดเวย์ครั้งแรกค่ะ (หวังว่าจะมีครั้งต่อไป555) เรื่องของเรื่องคือมหาวิทยาลัยปิดช่วงวันขอบคุณพระเจ้า 5 วันค่ะ แล้วรุ่นพี่บอกว่า มหาลัยจะน่าเบื่อมาก โรงอาหารปิด คนหาย กลับบ้านกันหมด ด้วยความที่ปิดแค่ 5 วัน กลับไทยก็ไม่ได้ ก็เลยไปเที่ยวกับเพื่อนดีกว่า แต่ไปไหนดีล่ะ... ด้วยความที่มหาวิทยาลัยที่มาเรียนตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่แทบไม่มีอะไรเลย วันหยุดทั้งทีเลยอยากไปเมืองใหญ่ๆ ไปหาแสงสีบ้าง คิดว่าอยากไปมหานครนิวยอร์ค คิดเอง เอออกันเอง ก็จองตั๋วบัสกันเลยเสร็จสรรพ (เป็นคนงกอยู่ในระดับหนึ่ง ยอมนั่งบัส 5 ชม เพราะถูกกว่า ส่วนเพื่อนคนอื่นนั่งเครื่องบินไปกันจ้า) เรียกว่าเป็นทริปทรมานตนเองที่แท้ทรูค่ะ จองที่พักเรียบร้อย วางแผนเที่ยวอย่างดี ตารางแน่นกว่าทัวร์จีน ตั้งแต่เก้าโมงเช้ายันห้าทุ่ม แต่สุดท้ายตารางพังค่ะ 5555 ไม่ไหว เมืองใหญ่เกิน แถมยังงกไม่ยอมนั่งแท็กซี่ เดินขาลากกันไปอีก มานิวยอร์คทั้งที ก็ต้องไปดูบรอดเวย์มิวสิคัลสิคะ ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบหนังมิวสิคัลอยู่แล้ว แต่ไม่เคยดูสดสักที ตั้งความหวังว่าต้องได้ดูสักครั้งในชีวิต เลยรีบเปิดเว็บบรอดเวย์ หาข้อมูลว่ามีเรื่องอะไรแสดงบ้าง ที่น่าสนใจมี wicked กับ waitress ค่ะ wicked นี่เป็นโชว์คลาสสิค โปรดัคชั่นอลังการ ราคาก็เลยแพงขึ้นตามไปด้วย ส่วน waitress นั้น เคยเห็น Elizabeth Henstridge จาก agents of shield ไปดู แล้วนางดูชอบมาก ราคาบัตรก็ถูกกว่า เพลงและเนื้อร้องแต่งโดยนักร้องดัง Sara Bareilles (ที่ร้องเพลง Brave อะ) ก็เลยว่าน่าสนใจอะ แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อทันที คือ... Jason Mraz จะมาเป็นพระเอกช่วงที่ไปดูพอดี ก็เลยแบบ เฮ้ย คุ้มอะ ได้ดูการแสดง ได้เห็นนักร้องดังตัวเป็นๆ ว่าแล้วก็กดซื้อเลยจ้าาา แต่ด้วยความงบน้อยและงก ก็เลยเลือกที่ที่ถูกที่สุด คือบนดอยแถวเกือบสุดท้าย ตอนดูนี่ไม่เห็นหน้านักแสดงเลยค่ะ เห็นเป็นตัวๆ แต่ถือว่าไปฟังกับไปเก็บบรรยากาศละกันเนาะ (ถ้าใครพอมีตัง ก็ทุ่มไปเลย มั่นใจไม่ผิดหวัง) แต่ที่นั่งถูกที่สุดยังราคา 108 ดอลลาร์เลย (ราวๆ 3800 บาท) การแสดงเริ่มประมาณ 1 ทุ่มค่ะ เราก็ไปที่ Brooks Atkinson Theater อยู่ที่ 47th street (ใกล้ Time square) ไปถึงคนต่อแถวเข้ายาวมาก ไปถึงมุมถนนเลย พอเข้าไปได้โรงละครก็จะเป็นแบบ slope มีเวทีใหญ่ตรงกลาง เราก็ไปนั่งที่บนดอยของเรา แล้วการแสดงก็เริ่มค่ะ
บรอดเวย์เรื่องนี้เคยเป็นภาพยนตร์มาก่อนในชื่อเดียวกันค่ะ แล้ว Sara Bareilles ก็เอามาดัดแปลงเป็นมิวสิคัล เรื่องนี้เกี่ยวกับ Jenna สาวเสิร์ฟที่ท้องแบบยังไม่พร้อมกับสามีที่แสนจะไม่เอาถ่าน และเอารัดเอาเปรียบเธอเสมอ Jenna ทำพายเก่ง เธอคิดจะประกวดทำพาย แล้วเอาเงินพาตัวเองกับลูกหนีไปจากสามีคนนี้ แล้วเธอก็ได้เจอกับคุณหมอหนุ่มหล่อ (เจสันนนน) ผู้ติดใจพายของเธอ (และตัวของเธอ) เรื่องนี้ติดตามการก้าวผ่านอุปสรรคของ Jenna พร้อมความช่วยเหลือของเพื่อนสาวเสิร์ฟ Betty กับ Dawn โดยที่เพื่อนๆ ก็มีปัญหาของตนเองเหมือนกัน (เราชอบ Dawn มาก เป็นสาวย้ำคิดย้ำทำ ไม่มั่นใจในตนเอง จนสิ้นหวังที่จะตามหาคนที่ใช่ แต่สุดท้ายก็ได้เจอ คู่นี้น่ารักมากกก) เนื้อเรื่องก็เรียบๆ แต่ก็สอดแทรกข้อคิดเล็กๆน้อยๆ แบบ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้ที่ดีกว่า อะไรเทือกๆนี้ ดูแล้วอบอุ่นใจ
การแสดง นักแสดงร้องสด เต้นสด ดนตรีสด พลังเสียงแต่ละคน ไม่มีผิดคีย์ แค่ไปฟังเพลงก็คุ้มละค่ะ แล้วคือนักแสดงบรอดเวย์ต้องร้องสด แสดงสดเกือบทุกวัน นับถือในความสามารถจริงๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นตั๋วก็เลยแพงเป็นธรรมดา เพลงติดหูมาก กลับมานี่ฟังทุกวันเลย จนจะร้องได้แล้ว (อินเบอร์ไหน ถามใจดู) ฉากและแสงสีก็ดีค่ะ ฉากเขาเซ็ตให้เลื่อนอัตโนมัติ นักแสดงต้องเป๊ะกับเวลาของฉาก แสงสีก็สำคัญ ถ้านางเอกคิดอยู่ก็จะเป็นอีกแสง ถ้าดราม่า ร้องเพลงก็จะทำให้รอบข้างมืด แล้วฉายไฟแค่นางเอกอะไรแบบนี้ เป๊ะทุกรายละเอียด
ด้วยความที่วันที่ไปดูเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ทางคณะนักแสดงเลยประมูลลายเซ็นของเจสันบนเนื้อเพลงที่เขาใช้ สมทบทุนมูลนิธิเด็ก เจสันก็เซ็นสดบนเวทีเลย งานนี้น้องไม่สู้ค่ะ ไม่มีเงินแล้ว 555 จบประมูลที่ 2000 ดอลลาร์ (70000 บาท) อหหหห
หลังดูจบ ต้องไม่อ้อยอิ่งค่ะ รีบออกมาหน้า stage door รอนักแสดง มาทั้งทีต้องได้เจอตัวเป็นๆ stage door จะเป็นประตูที่นักแสดงใช้เข้าออกหลังเวที อยู่นอกโรงหนังติดถนนค่ะ แล้วแต่โรงหนังเลย นี่ก็หาข้อมูลมาพร้อม ต้องได้เจอ!! ตอนไปถึงมีคนมารออยู่จำนวนหนึ่งแล้ว การ์ดก็จะเอาที่กั้นมากั้นเป็นทางเดินเล็กๆให้นักแสดงเดินออกไปที่รถที่จอดรอ นักแสดงสมทบจะออกมาก่อน นักแสดงหลักจะออกมาท้ายๆ (เจสันออกมาท้ายสุด) นักแสดงก็จะออกมาพูดคุย แจกลายเซ็น บางคนก็ให้เซลฟี่ (แต่ครั้งนี้การ์ดบอกไม่ให้เซลฟี่กับเจสัน /ก็ต้องเชื่อฟังการ์ดนะคะ ไม่งั้นโดนเชิญออกเด้อ) นี่ก็รีบไปยืนรอแถวติดรถนักแสดงเลย ตอนแรกอยู่แถวสองจากที่กั้น ก็คิดว่าจะไม่ได้ลายเซ็นแน่เลย ก็เลยตีเนียนคุยกะคนข้างหน้า จนนางเปิดทางให้ไปแทรกแถวนางได้ 555 (จงมีมนุษยสัมพันธ์ค่ะทุกคน) นางเป็นเด็กมหาลัยเหมือนกัน ชอบละครบรอดเวย์มาก เคยมาดูเรื่องนี้ตอนปีที่แล้ว แล้วนางก็เอาหมวกใบเดิมจากปีที่แล้วมาให้นักแสดงเซ็นอีก แต่นักแสดงคนละชุดกันนะ นักแสดงเฟรนด์ลี่มาก ทักทายพูดคุยกะคนดู ตามมารยาท เราคนดูก็ควรขอบคุณ และชมการแสดงของเขาในวันนี้
นักแสดงคนแรกที่เดินออกมาแสดงเป็นเจ้าของร้าน Eric Anderson
คนที่สอง Christopher Fitzgerald แสดงเป็นแฟน Dawn ตอนที่เขาออกมาแรกๆ เราก็แบบลุงนี่คือใคร คือเขาเหมือนคนทั่วไปเลย ถถถ แต่เป็นคนตลกมาก เขาบอกว่า ส่วนที่ดีที่สุดในการแจกลายเซ็นคือได้เซ็นบนหน้าเจสัน แล้วก็เซ็นไปเต็มๆเลยจ้า (ทำร้ายเจสันของน้อง)
นักแสดงบางคนก็ไม่ออกมา อาจจะเหนื่อย ยังไม่พร้อมเจอแฟนๆ
นางเอกออกมาเป็นคนที่ 3 จ้า Betsy Wolfe ดูใกล้ๆสวยมาก ออกมาทักทายทุกคน แล้วก่อนหน้านี้เราเคยบอกคนข้างๆที่ตีเนียนคุยด้วยว่านี่เป็นบรอดเวย์เรื่องแรกที่ดู พอเราขอบคุณนางเอกเสร็จ คนข้างๆรีบบอกนางเอกว่า นี่เป็นบรอดเวย์เรื่องแรกที่เรามาดูเลยนะ นางเอกดูดีใจที่เลือกมาเรื่องของนาง เราก็ชมว่าสนุกมาก แสดงดีมาก บลาๆ
คนสุดท้ายปิดโรง คือ Jason Mraz ของเรา ก่อนเขาจะออกมามีผญ ทำหน้าตึงๆ เดินออกมาแล้วขึ้นไปนั่งบนรถเลยเฉยๆ เราก็งง ใครนะ จนคนข้างหลังบอก นั่นภรรยาเจสันนิ ก็ถึงบางอ้อเลย
เจสันก็ออกมาทักทายทุกคน ห่างกับน้องเพียงที่กั้น อร้ากกก คุ้มค่าแล้ว 3800 บาท นี่ก็ให้เซ็นเพลย์บิล (สูจิบัตร) กล่าวขอบคุณ ชมการแสดงของเขา แล้วก็ขอให้เขาเซ็นการ์ดวันเกิดของเพื่อนให้หน่อย บอกว่าเพื่อนเป็นบิ๊กแฟนเลยนะ แต่อยู่ไทยแลนด์ นางก็เซ็นให้ด้วยความยินดี เซ็นบรรจงกว่าที่เซ็นบนเพลย์บิลของน้องอีก แถมเขียนว่า I'm yours ให้ด้วย (นี่อยากได้ไว้เอง ว่าจะเอาไปถ่ายเอกสารเก็บไว้) ทักทายแฟนๆเสร็จก็ขึ้นรถกลับ ที่แปลกคือพอเจสันขึ้นรถ ฝูงชนก็เดินออกไปเลย ทั้งๆที่รถยังอยู่ ส่วนเราก็ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ มีแค่เรากับพื่อนอีกคนยืนโบกมือให้รถเขา ตอนเขาขับออกไป /เขาโบกมือกลับด้วยยย
แฟนคลับที่นี่ดีอย่าง มีความเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของศิลปินค่อนข้างสูง ตอนที่รอไม่มีใครผลักหรือเบียดกันเพื่อจะไปหาศิลปินเลย ทุกอย่างอยู่ในความสงบ พอศิลปินออกไปก็ไม่ไปตามเป็นปาปารัซซี่ ถือว่าเป็นอะไรที่เป็นระเบียบ
มีคุณป้าข้างหลังบอกว่าเป็นแฟนเพลงเจสันมาตั้งแต่ 2003 แล้วได้คุยกะเจสันแบบปรื้มปริ่มสุด พอจบงานคนข้างๆทักกระดุมเสื้อหลุด นางบอกเขาฮอตมากอะ เห็นไหมกระดุมหลุดเลย ถถถถ
สำหรับใครที่อยากจะมาดูละครบรอดเวย์ก็ฝากเรื่อง Waitress ไว้ในอ้อมใจด้วยค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in