เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Lucky Layoff โชคดีที่ตกงานBUNBOOKISH
คำนำ
  • คำนำสำนักพิมพ์


    Real-life Crisis

    หากนับจากวันนี้ที่เราลงมือเขียนคำนำสำนักพิมพ์จนถึงวันแรกของงานมหกรรมหนังสือฯ ที่จะถึง จะเห็นว่าเหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน ที่เราจะต้องทำงานที่เหลือคั่งค้างนี่ให้เสร็จ เพื่อให้หนังสือออกมาวางรอท่าคุณผู้อ่านได้อย่างทันท่วงที

    และพอเขียนมาถึงบรรทัดนี้ก็รู้สึกเหมือนกำลังพลีชีพ‑ไร้ประสิทธิภาพขนาดนี้ ถ้าเจ้านายรู้เข้า (ที่จริงก็รู้มาตลอด) แล้วเกิดอยากทำการลดจำนวนพนักงานในบริษัทขึ้นมาล่ะ...

    เคยคิดมั้ยว่า ถ้าวันหนึ่งนั่งทำงานอยู่ดีๆ แล้ววันรุ่งขึ้นมีคนมาบอกว่า “เสียใจด้วยนะ เธอตกงานแล้วล่ะ...” จะทำยังไง เก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานใส่กล่องกระดาษแล้วอุ้มเดินออกมาจากบริษัทเหมือนฉากในหนังในละคร หรืออาจไม่ได้ปุบปับอย่างนั้น แต่ระหว่างนั้นล่ะ จะทำตัวยังไง และจะจัดการกับอนาคตของตัวเองยังไงต่อไปดี

    แต่โลกนี้ก็มีคนตกงานตั้งเยอะแยะ เยอะพอๆ กับจำนวนหนังสือที่เชิญชวนให้พนักงานประจำทั้งหลายมาลาออกจากงานกันเถอะ การเป็นเจ้านายตัวเองนั้นมันดีที่สุดแล้ว ฯลฯ

    ความคิดนี้อาจจะจริง ถ้าไม่ใช่ว่างานประจำที่ทำเป็นงานที่เรารัก สำหรับคนที่กำลังทำงานที่รักอยู่อย่างมีความสุข อยู่ๆ จะให้มาคิดเรื่องตกงาน มันก็ใช่ที่...

    กระเป๋า เป็นเด็กสาวแบบนั้น เธอได้ทำงานที่รัก แถมงานที่รักก็ยังให้ค่าตอบแทนที่ดี (จนน่าอิจฉา) แต่เพียงข้ามคืน เด็กสาวชาวไทยที่ไปมีหน้าที่การงานและใช้ชีวิตสวยหรูอยู่กลางเมืองลอนดอน ก็กลับกลายเป็นคนตกงาน...

    กระเป๋าตกงาน, ไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่สถานการณ์บ้านเมืองประเทศเราช่วงหนึ่งทำให้บริษัทต่างชาติในบ้านเริ่มทยอยปิดตัว—กระเป๋าเองก็เป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบครั้งนั้น

    ตอนเจอกันครั้งแรก กระเป๋าเล่าชีวิตช่วงวินาศสันตะโรของตัวเอง ไปจนถึงงานใหม่ที่ต่างไปจากเดิมราวฟ้ากับเหวให้เราฟัง

    เราถาม—ทำไมไม่เขียนเรื่องนี้ เพราะเธอเคยส่งต้นฉบับเรื่องอื่นมาให้อ่าน

    เธอตอบ—เขียนไว้แล้วพี่ จะเอาจริงๆ เหรอ...

    วันถัดมา กระเป๋าก็ส่งต้นฉบับดราฟต์แรกมาให้เรา

    เขียนมาถึงบรรทัดนี้ ก็ยังนึกภาพตัวเองตอนตกงานไม่ออก รู้แต่ว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริง ก็คงจะนึกถึงสิ่งที่กระเป๋าพยายามบอกอยู่บ่อยๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดี อาจจะมาในรูปแบบของปัญหาชีวิตก็ได้

    ใครจะไปรู้...


    โชคดีที่ยังมีงาน

    BUNBOOKS

  • คำนำผู้เขียน


    เพราะเวลาเราสูญเสียอะไรบางอย่าง มันมีเหตุผลและโอกาสใหม่รอเราอยู่เสมอ

    เป็นปกติที่คนทั่วไปและตัวเราเองจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่สูญเสียไปมากกว่ามองหาโอกาสใหม่ เพราะความสูญเสียมีอานุภาพมากกว่าการได้มาเสมอ สูญเสียเงินหนึ่งล้านกับได้เงินหนึ่งล้าน ความรู้สึกยังไม่เท่ากันเลย

    พอโดนเล่นงานด้วยคำว่า ‘ตกงาน’ เราเลยอยากทดลอง ทำในสิ่งที่อยู่ตรงข้ามความสูญเสีย ถ้าเราลองใช้พลังทั้งหมดที่มีไปกับการค้นหาโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้น แทนที่จะเสียพลังไปกับการฟูมฟายหาสิ่งที่เสียไป แล้วมันจะเป็นยังไงนะ

    ...ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...

    โชคดีที่ตกงาน เลยเป็นการเรียบเรียงการเดินทางผ่านการขึ้นและลงของชีวิตในปีที่ผ่านมา จริงๆ แค่อยากมาเล่าให้ฟังสนุกๆ ว่าชีวิตมันช่างพลิกผันเหลือเกิน แต่ก็เป็นความตั้งใจที่จะรวบรวมหลายๆ บทเรียนที่เราได้ค้นพบระหว่างทางทั้งจากคนใกล้ตัวและคนแปลกหน้า บางสิ่งอาจจะชัดเจน แต่บางสิ่งนี่ต้องใช้เวลานานกว่าจะตาสว่าง ผ่านทั้งน้ำตาและการตรึกตรองมากมาย อย่างที่คุณกำลังจะได้อ่านในหนังสือเล่มนี้

    และถึงจะชอบในผลลัพธ์หลังจากเหตุการณ์นั้น แต่สุดท้ายแล้ว เรากลับชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางมากกว่า

    ทั้งวันที่รู้สึกแย่และวันที่รู้สึกดี มองย้อนกลับไปตอนนี้เรารู้สึกแค่ว่า... เออ ชีวิตก็มีสีสันดีนะ

    ขอให้การอ่านหนังสือเล่มนี้สร้างสีสันให้คนอ่านที่น่ารักเช่นกันค่ะ


    กระเป๋า











  • …19 พฤษภาคม พ.ศ.2557 …

    ---
    “เรามีเหตุจำเป็นต้องปิดออฟฟิศที่กรุงเทพฯ
    ต้องขอโทษด้วย แต่เราคงต้องเลิกจ้างคุณ…
    ผมแนะนำว่า คุณควรเดินทางกลับจากลอนดอน
    ให้เร็วที่สุด ภายในอาทิตย์นี้เลยยิ่งดี
    มันคงจะเป็นประโยชน์กับคุณมากกว่า
    ในการหางานใหม่”
    “...”

    นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!








เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in