“ผมชอบมีความรัก เมื่อไหร่ที่ผมมีความรัก ผมจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย”
ตัวละครตัวหนึ่งในซีรี่ย์ที่เราชอบพูดประโยคนี้ออกมา
แล้วเราก็ค้นพบว่า
จริงแฮะ…
เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มักจะมีความรักให้กับมากมายหลายอย่างเหลือเกิน
มักจะหาคนที่ชอบ ดารานักแสดงที่ชอบ หรือแม้แต่ซีรี่ย์ที่ชอบ หนังที่ชอบ อาหารที่ชอบ รายการที่ชอบ ประโยคที่ชอบ เสื้อผ้าที่ชอบ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
…อะไรบางอย่างที่ชอบ
หัวใจดวงนี้ไม่ค่อยได้ว่างได้เว้น
เคยได้ยินว่าความรักเหมือนสิ่งเสพติด เพราะเวลาที่เรามีความรัก ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟีน แล้วเราก็จะเสพติดเวลาที่มีความสุขเหลือเกินเหล่านั้น
เหมือนความรักเป็นแหล่งเดียวที่น่าสนใจ และทำให้เรามีความสุขมากพอ
แค่มีสิ่งที่รักอยู่
ซึ่งจริงๆ เราก็ว่ามันไม่ผิดที่จะเป็นแบบนั้น กับคนที่มีความสุขในแบบนั้นนะ เหนื่อยก็กินไอศกรีมรสชาเขียวที่ชอบ แล้วมีความสุข
แต่ทุกอย่างก็มีผลกระทบกลับมา
ถ้าวันหนึ่งไอศกรีมรสชาเขียวไม่ช่วยให้มีความสุขมากขึ้นเหมือนเดิมล่ะ
หรือแม้กระทั่งตัวละครในซีรี่ย์ ที่เคยบอกว่าความรักช่วยให้ตัวเองไม่รู้สึกเหนื่อยเลย แต่ถ้าวันหนึ่งอกหัก หรือผิดหวังกับความรักขึ้นมา คงมีอยู่สองทาง คือหาความรักครั้งใหม่แล้วพบเจอกับหญิงสาวคนใหม่ หรือหาความรักครั้งใหม่และพบเจอกับความผิดหวัง
เวลาเราเจอสายตาของคนที่มองเราด้วยความรัก เราเคยคิดอยากแคปเจอร์เก็บไว้ หรือถามว่าสายตาแบบนี้มีขายที่ไหนไหมคะ เพราะรู้ดีว่ามันหายากเหลือเกิน
แต่วันหนึ่งสายตาแบบนี้ก็ต้องมีวันหายไป
จนกระทั่งเราตัดสินใจที่จะปล่อยวาง
ไม่เป็นไร เราอยู่ด้วยตัวเองได้ มีความสุขด้วยตัวเองได้
ปล่อยให้ตัวเองห้อมล้อมไปกับสิ่งจรุงตาจรุงใจ
แต่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองก็ยังติดในกับดักเดิม
หันหน้าเข้าหาดาราที่ชอบ ซีรี่ย์ที่ชอบ อาหารที่ชอบ โซเชียลมีเดียกับอะไรที่ชอบ
เราพยายามค้นหาสิ่งที่ชอบ ปล่อยให้ตัวเองอยู่ท่ามกลางมัน
แต่กลับค้นพบว่าจริงๆ เราไม่ชอบชีวิตตัวเอง…
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยววิ่งเข้าไปในห้องดำ ในนั้นมีน้ำมีขนมที่เธอชอบ มีซีรี่ย์ที่เธอชอบ มีดาราที่เธอชอบ มีคนที่เธอชอบ เดี๋ยวออกมาเธอจะรู้สึกดีขึ้น
แล้วปัญหานี้ก็ยังขยายขึ้น เพราะมันอาจจะลดลงชั่วครู่ แต่มันไม่เคยแก้ได้แบบถาวร
เหมือนกับไอศกรีมรสชาเขียว ที่กินแล้วมีความสุข แต่พอกินไอศกรีมหมดโคนก็รู้สึกว่าความสุขหมดแล้ว ไม่มีเพิ่มแล้ว ค่อยๆ กลับไปสู่สภาวะจริงตอนยังไม่ได้กิน
ความรู้สึกเหล่านั้นก็ยังคงแฝงอยู่ ไม่ได้หายไปไหน
จนเราเริ่มรู้สึกว่า วันนี้ ตัวเองต้องเริ่มตามหาต้นเหตุทั้งหมดแล้ว
แทนที่จะหนีไปในห้องมืดที่เป็นเซฟโซนของตัวเอง ที่มีทุกอย่างที่อาจช่วยให้เรามีความสุขขึ้นได้
วันนี้เราคงต้องเตรียมออกเดินทาง เก็บของแล้วออกไปตามหา ไปเผชิญหน้ากับความลับในจิตใจของตัวเอง ในที่ๆ ยังไม่เคยผจญภัยถึง
ในนั้น อาจมีมังกรหรือสัตว์ประหลาดแฝงอยู่
แต่เราไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไร
วันนี้คงได้เวลาส่องไฟฉายใส่มันทั้งหมดแล้ว
จะได้รู้ว่ามาจากอะไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ต่อให้กลัว ก็คงต้องถึงเวลาเผชิญหน้ากับมันแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in