ประโยคนั้นทำให้เรารู้สึกจุกขึ้นมาในอก จนต้องพยายามลดความหงุดหงิดของตัวเองลง แล้วถามตัวเองว่าการที่แม่ทำผลไม้หล่นนั้นมันทำให้เราลำบากมากเลยเหรอ ซึ่งคำตอบจริงๆก็คือ ไม่...
การดูแลแม่ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงของเราเลย เรายังเด็ก ยังมีแรงทำอะไรได้อีกมาก แต่ที่ลำบากคือการปรับตัวจากจุดที่เคยสบายในอดีตมาอยู่ในจุดที่ยากกว่าในปัจจุบันต่างหาก
เราน้อยใจที่ตัวเองไม่มีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่เหมือนแต่ก่อน และผิดหวังที่ต้องกลายมาเป็นคนดูแลทุกอย่างเสียเอง
วิน (แฟนของเรา) บอกว่าสถานการณ์ของเราก็เหมือนกับการที่เราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าบ้านไม่มีต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมที่เคยให้ร่มเงาอีกต่อไป และบ้านที่ไม่มีร่มเงาก็ทำให้เราร้อนและเต็มไปด้วยความทุกข์ แต่ที่จริงแล้วต้นไม้ใหญ่นั้นไม่ได้หายไปไหน มันแค่เปลี่ยนสถานะของตัวเองมาเป็นเมล็ดพันธุ์ให้เราปลูกและดูแลจนกว่าจะกลับมางอกงามอีกครั้ง เราอาจเหนื่อยที่ต้องออกแรงลงมือขุดดิน รดน้ำ ดูแล ใส่ปุ๋ย แต่วันที่เราได้ต้นไม้ใหญ่กลับมา เราจะรู้ว่าสิ่งที่ได้มานั้นมันคุ้มค่ากับแรงที่เราลงไปเหมือนกัน
พาย: ไม่จริงหรอก หนูรู้ว่าแม่ไม่มีทางกลับไปเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ หมอเองก็บอก หนูแค่รู้สึกย้อนแย้งในตัวเอง เหมือนรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังอยากจะให้มันเป็นแบบนั้น
วิน: ที่จริงมันไม่สำคัญเลยว่าต้นไม้ของหนูจะกลับมาให้ร่มเงาได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ วันนั้นหนูจะกลายเป็นคนที่ปลูกต้นไม้เป็น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in