สวัสดีค่ะ หลังจากทวีตแจกเงินแก้บนไปเนื่องในโอกาสสอบติดก็มีเพื่อน ๆ
(ขออนุญาตเรียกว่าเพื่อน ๆ ? ) เมนชั่นเข้ามาถามถึงวิธีการเตรียมตัวสอบและอ่านหนังสือ
เราติดในรอบ Admission 3.1 ซึ่งใช้คะแนน GAT 30 % คะแนนวิชาเฉพาะที่ต้องไปสอบที่มธ.อีก 70 %
GAT 30 %
ในส่วนของแกทไทย เราได้คะแนนพาร์ทนี้ 131.75 คะแนน เราเตรียมตัวโดยการทำ
เล่มสีชมพูของ อ.ขลุ่ย ซึ่งสอนตั้งแต่สัญลักษณ์ อ่านง่าย เข้าใจง่าย แบบฝึกหัดเป็นแบบไต่ระดับ ส่วนของบทความก็มีการสุ่มยากง่าย และทำข้อสอบย้อนหลังไปของทุกปี ( แม้ว่าเราจะไม่สมควรต้องมาสอบแกทไทยที่ไม่เคยสอนแม้กระทั่งในห้องเรียน และบทความข้อสอบจริงก็ยังชวนเวียนหัวด้วยการ romanticize เหตุการณ์ที่ค่อนข้างปัจจุบันทันด่วนในขณะนั้น แนะนำว่าตอนทำอย่าคิดอะไรมาก จนเสร็จแล้วค่อยด่าฝึก critical thinking ของจริง55555)
ใครไม่เคยเห็นเล่มนี้ลองเสิร์ช
gat อ.ขลุ่ย เลยค่ะ เล่มสีชมพูลายตาราง
ส่วนข้อสอบย้อนหลังเราหาจากเพจ
GAT community ค่ะ มีทั้งในเฟซและทวิต เราแนะนำแอคเคาท์นี้มาก ๆ เลย ทั้งในส่วนของทั้งแกทไทยและอังกฤษ
และแกทอังกฤษเราทำได้ 125 คะแนน เราทำแค่
GAT เล่มสีแดง (เสิร์ชตามนี้ได้เลยค่ะ) สำหรับเราคิดว่าเล่มแดงมันยากเกินข้อสอบจริงไปสักหน่อย แล้วในเล่ม (ที่เราซื้อ) ก็ยังไม่ตัดพาร์ทที่ไม่มีแล้วออก คำศัพท์ยากมากกก บทความบางบทไม่รู้ว่าคนเขียนคิดเองหรือว่าเอามาจากไหน แต่ถ้าใครเคยเห็นที่มีเรื่องในทวิต ก็ตามนั้นค่ะ555555 ข้อสอบเก่าเหมือนเดิมเช่นเคย แนะนำทั้งสองอัน คือจดคะแนนแต่ละครั้งที่ทำไว้
ถ้าจะให้แนะนำส่วนนี้จริง ๆ พวกการไปสอบจำลองถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้สอบเพื่อเทียบความพัฒนาและเก็บจุดอ่อน + แก้ตื่นสนาม (ส่วนเราสมัคร แต่ไม่ได้ไปสอบ เพราะวันนั้นตื่นสายเลยไม่ไปเลย ? เราเลยค่อนข้างเคว้งเลย ไม่ค่อยมั่นใจ แต่มันก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตรงนี้อีก)
วิชาเฉพาะ 70 %
ตรงนี้เราต้องบอกก่อนว่า เราซื้อคอร์สเรียนพิเศษของ tutorrus เพราะถ้าจะให้พูด เราขี้เกียจมากค่ะ เราไม่สามารถอ่านหนังสือต่อเนืื่องได้ทุกวัน ด้วยทั้งปัจจัยโควิดที่ทำให้การเรียนกินเวลาเกินมาในช่วงเวลาที่ิยู่บ้าน และตัวเราเองที่ลืมง่ายมากถ้าไม่อ่านต่อเนื่อง ในตอนแรกที่ว่าจะอ่านเองก็คงทัน มันไม่ทันค่ะ555555 เลยตัดสินใจซื้อคอร์สโค้งสุดท้าย เป็นแบบออนไลน์ ทั้งคอร์สพื้นฐาน ตะลุยโจทย์ และเรียงความ เพื่อเสริมความมั่นใจค่ะ ซึ่งคอร์สเขาก็โอเคเลยค่ะสำหรับเรา มีอัพเดตข่าวให้ แต่ถ้าเกิดเพื่อน ๆ อ่านทันและมั่นใจ อาจจะซื้อเป็นแค่พาร์ทเรียงความ สถาบันไหนก็ได้ ที่รู้สึกว่าเหมาะกับตัวเอง เราว่าเรียงความถ้ามีคนตรวจให้ยังไงก็ดีกว่า
ที่เราค่อนข้างแนะนำอย่างมากเลยคือ การเข้าค่ายที่ทางรุ่นพี่ในคณะจัดขึ้นมา เท่าที่เราทราบ คือจะมี
- สู้สอบตรง
- เปิดถ้ำสิงห์
- สิงห์แดงสัญจร
เราสมัครของเปิดถ้ำสิงห์ไปค่ะ ในตอนแรกมีประกาศยกเลิกเพราะสถานการณ์โควิด แต่ตอนหลังก็มีการจัดติวแบบออนไลน์ให้ค่ะ พี่ ๆ สู้มาก5555555 เราแนะนำเพราะเขาก็ปูพื้นฐานให้เช่นกัน มีเพื่อน ๆ เรียนด้วย ถึงจะออนไลน์ก็รู้สึกว่าต้องตั้งใจฟัง หลังจากติวเสร็จแล้วพี่ ๆ ก็ยังตรวจเรียงความให้ส่วนตัว เก็งข้อสอบ ตอบคำถาม แนะนำหนังสือ อัพเดตข่าว
และส่วนที่สำคัญคือยังไงก็ต้องอ่านหนังสือค่ะ หนังสือเชิงรัฐศาสตร์ทั้งของแต่ละสาขาและพื้นฐาน เพื่อเป็นแนวทางในการเขียนเรียงความและข้อมูลอ้างอิง แต่ยังไงก็ต้องคอยรีเช็คข้อมูลอัพเดทด้วย เพราะหนังสือที่เราแนะนำ ข้อมูลบางอย่างก็ไม่อัพเดทค่ะ
หนังสือรัฐศาสตร์พื้นฐาน
หนังสือสาขาระหว่างประเทศ
แนะนำได้ไม่มากนัก เพราะเราอ่านไม่ทันแต่ขนาดเราอ่านไม่เยอะก็ยังรู้สึกว่าช่วยได้เยอะเลย5555555
ส่วนสุดท้ายที่รู้สึกว่าสำคัญมาก (ๆ) หลังจากเจอข้อสอบจริง คือข่าวและบทความวิเคราะห์สถานการณ์
ที่อัพเดทค่ะ ข้อสอบที่ออก ออกข่าวใหม่มากจริง ๆ ต้อง catch up ให้ทัน แม้ว่าเราจะอ่านเนื้อหาพื้นอยู่จนหัวบวม55555 แนะนำเป็น
BBC (แอพมือถือตั้งแจ้งโนติ),
CNN (แอพมือถือตั้งแจ้งโนติ),
อีกอย่างนึง (additional) คือเราแนะนำให้ฟอลคนที่ทำ studygram ในคณะที่เราอยากเข้า ค่อนข้างสร้าง motivation สำหรับเราเลยยย หลาย ๆ อย่างเราก็ได้มาจากการฟอลเพื่อน ๆ หรือรุ่นพี่ที่เขาทำแอคเคาท์แนะนำเกี่ยวกับการอ่านสอบและการเรียน
พูดด้วยความสัตย์จริงคือข้อสอบมันก็พูดได้ว่า beyond กว่าที่เราเรียนในห้องเรียนพอสมควร ต้องหาอ่านหามาเสริมเยอะอยู่555555 ทั้ง ๆ ที่เราก็รู้สึกว่าอาจจะเป็นเรื่องที่เราน่าจะรู้หลังจากเราเข้าไปเรียน (?? )
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ เพื่อน ๆ ที่ยังต้องฝ่าฟันระบบการสอบน่าเซ็งน่าโมโหนี่อีก
แล้วระบบก็เปลี่ยนทุกปี แถมงงอีก ค่าสอบแพงหลาย ถ้ามันเหนื่อยมันไม่ไหว
ก็อย่าลืมพักนะคะ ยังไงสุขภาพจิตและร่างกายเราก็สำคัญมาก ๆ ไม่อยากให้โทษตัวเองเมื่อพลาดหรือรู้สึกไม่เต็มที่ คนเราก็มีเงื่อนไขที่ต่างกันไป ยังไม่รวมถึงระบบที่ไม่ได้คำนึงถึงทุกคนอีก ไม่อยากบอกว่ามันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เราเคยได้ยินคำนี้ก็รู้สึกว่า คนที่ผ่านมาแล้วก็พูดได้ ระหว่างทางมันเหนื่อยจริง ๆ ขนาดเราอ่านน้อยกว่าคนอื่นแต่ที่เราเหนื่อยมากคือความเครียดและความกดดัน
ขออวยพรให้ทุกคนฟันฝ่ามันไปได้ และมีความสุขนะคะ ❤
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in