เข้าสู่เดือนธันวาแล้ว ฉันพยุงรักหักๆของฉันถึงตอนนี้ ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งจะเขาจะกลับไปเป็นพี่ภูคนเดิม ฉันอยากให้เขาเป็น Lover ไม่ใช่ Monster
ทุกครั้งที่เขาไปต่างจังหวัด น้อยครั้งที่เขาจะถ่ายรูปมาให้ดู บอกกับฉันว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไร ไปเที่ยวเป็นยังไง เขาไม่แชร์ประสบการณ์หรือสิ่งใหม่ๆที่เขาเจอให้ฉันรู้บ้างเลย เพราะ ข้ออ้างเพียงข้อเดียว
" ถึงกลับไปภูก็เล่าให้ฟังอยู่ดี "
สัปดาห์นี้ เขาไม่เคยทักแชทฉันมาเลย มีแต่ฉันที่ทักไป พอตกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เขาก็ไปขอนแก่น ตัวฉันนั่งรออยู่ในห้องนอนของเขา เมื่อเขากลับมาถึง เขาดูท่าทางหงุดหงิดและบอกว่าจะนอน แต่เขาก็นอนเล่นมือถือ พอฉันเข้านอนใกล้ๆถามว่าเหนื่อยไหมเขาก็รีบปิดแชทแฟนเก่าทิ้งทันที
"พี่ภูคุยกับแฟนเก่าอีกแล้วหรอ ไหนบอกว่าไม่ติดต่อไปแล้วไง "
" ภูจะนอน! "
" พี่ภูเอาแชทมาดู คุยอะไรกันนักหนา "
" ก็บอกแล้วไง ภูจะนอนๆ พูดไม่รู้เรื่องหรอฝ้าย " เขาหงุดหงิดใส่ฉัน แล้วเดินหนีไปนอนที่ห้องพี่เปอร์ฉันตรงดิ่งไปหาเขาเพื่อขอดูแชท เขากลับลบมันออกจนหมด แล้วยื่นให้ฉันดูเหลือเพียงประโยคสุดท้ายที่ฉันเห็นข้อความของผู้หญิงคนนั้นคือ
"วันนี้เรามีความสุขมากๆเลย ขอบคุณมากนะภู "
ฉันเจ็บปางเจียนตาย ฉันไม่รู้ว่าปกปิดฉันเพื่ออะไร ที่ผ่านมาฉันถูกสวมเขาหรอ?น้ำตาของฉันพลั่งพรูจวนจะเป็นสายเลือด ฉันกรีดร้องที่หลังบ้านจนสุดเสียง ฉันเหนื่อยมากจนจะหมดแรงอยู่แล้ว ที่หน้าอกของฉันเหมือนมีดปลายแหลมปักตรงกลางใจ ต่อให้ดึงสุดแรงเท่าไหร่ก็ไม่มีทางออก
ฉันร้องไห้ได้ 1 ชั่วโมง เขาส่งข้อความมาหาฉัน มันเป็นเพียงไลฟ์สดที่เขาไปค่ายมาที่ขอนแก่น ในนาทีที่13 พี่ภูพูดว่ามีแฟนแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าแฟนคนไหน เพราะมันเยอะเหลือเกิน
ฉันกลับเข้ามาในห้อง เขาบอกว่า ไม่อยากให้ฉันร้องไห้และทรมานแบบนี้แล้ว แต่ฉันกลับสู้แล้วโผกอดเขาเพราะไม่อยากเสียเขาไป ฉันไม่พร้อมจะเสียเขาไปจริงๆ ฉันอ้อนวอนให้เขาอยู่ต่อ ฉันอ้อนวอนและร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา
ไม่มีอะไรที่ฉันเคยทำและน่าสมเพชได้ถึงขนาดนี้ ฉันกำลังอ้อนวอนขอให้คนที่ไม่เคยรักฉันเลยอยู่ด้วยกันต่อ ฉันอ้อนวอนคนที่มองฉันว่า ฉันน่ะไร้ค่าเท่าเศษฝุ่น เพราะให้ฉันหายใจต่อไปได้ สุดท้ายแล้วเขาก็อยู่ต่อ...
ฉันมาถึงจุดที่หัวใจของฉันเคยเป็นสีรุ้ง จนมันกลายเป็นสีดำหมดแล้ว โลก Wonderland ที่ฉันเคยอยู่ มันกลับตลปัตรกลายเป็นนรกที่พร้อมจะเผาร่างฉันให้กลายเป็น คนไร้หัวใจไปแล้ว
ฉันลืม ฝ้ายคนเดิม คนที่เคยร่าเริงคนนั้น ฉันกลายเป็นหุ่นกระบอกเต็มรูปแบบ ในแบบที่เขาชอบ ฉันหุบปากทุกครั้งและพูดทุกอย่างที่เขาอยากได้ยิน และฉันก็ยอมให้เขากระตุก แขนขา หัวใจ และสมองทุกวินาที ทุกถ้วงท่าที่เขาสั่งให้ฉันเดิน
จนถึงวันก่อนคริสมาสต์ 24 ธันวา เขานัดฉันไว้สองทุ่ม เพื่อมาซักเต้นท์เขียวของพี่ไปป์ ตอนแรกฉันไม่เห็นเขาในบ้าน เขาคงออกไปที่ไหนสักแห่ง และอาจมาสายทุกๆครั้งไป ฉันนั่งรอเขาอยู่นานนับครึ่งชั่วโมงจนตัดสินโทรหาเขา
"พี่ภู อยู่ไหนคะ ฝ้ายมารอซักเต้นท์ เตรียมงานคริสมาสต์แล้วน้า "
" เออ จะบอกว่าไม่ต้องซักแล้วนะ ภูอยู่ปาร์ตี้กับอาจารย์ เดี๋ยวภูกลับไปซักเอง "
" ทำไมพี่ภูชอบลืมนัดตลอดเลย แถมยังชอบมาสายตลอด แผนฝ้ายพังหมดแล้ว วันนี้ฝ้ายวาง Plan ไว้จะโน้นนี่ในแบบที่เราตกลงกันแล้ว ทำไมถึงมาเทแบบนี้ล่ะ "
" เออ งั้นภูจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ " ตู๊ดๆๆ เขาตัดสายฉันทิ้ง
เขากลับมาหน้าตาบูดบึ้ง ไม่พอใจฉันและไม่พูดกับฉันสักคำ ฉันเดินซักเต๊ณท์กับเขาด้วยความอึดอัดและแล้วเขาก็เอาเรื่องนี้มาพูดในวันคริสมาสต์อีกครั้ง
25 ธันวา เขาตัดสายผู้หญิงที่ชื่อตอง นางโทรจิกๆมาถึง 5-6 สาย ตอนเที่ยงคืน ฉันบอกให้เขารับ แต่ภูกลับตัดสายผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเฉย
" ฝ้ายเชื่อใจพี่ภูนะ เรื่องผู้หญิงคนนั้น"
ทั้งๆที่จริงฉันโกหกเพราะฉันไม่อยากทะเลาะด้วยฉันเจ็บจนด้านชา มันเอือมระอาจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเขากอดฉัน เขาบอกว่า นอนได้แล้ว ฉันเลยลุกขึ้นมาขอบคุณที่เมื่อวานเขากลับมาซักเต๊ณท์ด้วย
" เรื่องนี้ ภูว่าภูอึดอัดว่ะ ภูอึดอัดที่ฝ้ายตรงเวลา อึดอัดที่มี Planner ต้องเป๊ะๆ ไปหมดทุกอย่าง เมื่อวานนี้แทนที่ภูจะได้คุยกับผู้ใหญ่ กลับต้องมาซักเตณท์เพราะเรื่องแค่เนี้ย มันซักเมื่อไหร่ก็ได้เว้ยฝ้าย อย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม หัดเรียงลำดับความสำคัญซะบ้าง "
"ใช่ ฝ้ายทำตัวเป็นเด็ก แต่เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบพอที่ใส่ใจการนัดคนอื่น ไม่เบี้ยวนัดเลย ตรงเวลาตลอด แบบนี้แหละที่เด็กๆเขาทำกัน " ฉันยืนยันเสียงแข็ง เขาลุกไปหยิบกล่องตุ๊กตาโพนี่มา แล้วบอกกับฉันว่า ถ้าฉันทายถูกว่าจะไม่มีตัวไหนในกล่อง เขาจะไม่เลิกกับฉัน ฉันนั่งซังกะตายไร้วิญญาณข้างๆเขา แล้วยอมเป็นกระบอก ยอมเลือกมั่วๆเพื่อให้จบๆไปสักที และแล้วฉันก็ทายถูก ฉันอยากจะอ้วกช่วงเวลานั้นออกมาเป็นตัวอักษร มันช่วงเวลาที่ฉันขมขื่นที่สุดในชีวิต มันบีบคั้นหัวใจจนอยากวิ่งหนี แต่ฉันสู้มาได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าบุญเท่าไหร่แล้ว
เช้าวันถัดมา เขาส่งฉันที่สถานีรถไฟ ฉันจะกลับศรีสะเกษ แต่เขาก็ร่ำลาด้วยประโยคสุดท้าย "ภูจะใช้เวลานี้จีบๆ ผู้หญิงให้หมดเลย " ฉันได้แต่มองหน้าเหมือนคนตายไร้วิญญาณแล้วตอบว่า " อือ " จากนั้นฉันก็ขึ้นรถไฟกลับ
ฉันนั่งคิดทบทวนอยู่นานว่าทำไมฉันถึงวิ่งมาไกลขนาดนี้ได้ ฉันพบคำตอบแล้ว ฉันกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่าเขาเป็นคนที่ใช่ เพราะเดี๋ยวสักวันเขาก็คงดีขึ้นมั้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in