เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber- Mastersasin_wine
Master 04
  • วันที่ 4 : แกงเผ็ดเป็ดย่าง



    ‘พารักษ์’ หรือ รักษ์ หนุ่มนักศึกษากำลังนั่งฟังบรรยายวิชาเรียนในห้องสโลปของคณะ อาจารย์หนุ่มดีกรีนอกที่เพิ่งจบมาเอกมาหมาดๆ ยืนบรรยายหน้าห้อง ท่วงทำนองและจังหวะการพูดไม่ได้นุ่มนวลแต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้าง อาจารย์สอนไม่น่าเบื่อแต่เพราะใบหน้าคมดุของอาจารย์ทำให้ไม่มีใครกล้าหยอกเล่นเท่าใดนัก


    แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่พารักษ์เห็น เมื่อใบหูสีส้มแซมดำโผล่ออกมาจากกลุ่มผมสีเขม่าไถข้างตามสมัยนิยม หางเรียวสีเดียวกันแต่มีลวดลายชัดเจนกว่าโบกไปมาช้าๆ ขณะที่เจ้าตัวสอนอยู่ราวกับกำลังเบื่อหน่ายช่วงเวลาอันน่าง่วงนอนนี้ พารักษ์ตะลึงค้างในครั้งแรกที่อาจารย์หนุ่มเดินเข้ามา ก่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นอาการกุมขมับเมื่อได้ทราบในเวลาต่อมาว่าอาจารย์ท่านนี้คืออาจารย์ที่ปรึกษาตัวจบของเขา


    เจอหมาไม่พอ ยังจะมาเจอเสืออีก!...


    ชายหนุ่มเจ้าของห้อง 206 เริ่มรู้สึกว่าตั้งแต่เจอกับคนแปลกหน้าที่ตอนนี้เข้ามาอยู่ในห้องเขาแล้ว รอบกายเขาเริ่มเกี่ยวข้องกับเหล่าสรรพสัตว์มากขึ้น นอกจากอาจารย์ที่ปรึกษาคนนี้แล้ว ยังมีเหล่าสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่อีกมากมายที่จ้องเข้ามาคลอเคลียเขา หากมีเวลาเขาก็หยุดเล่นด้วย แต่หากวันไหนที่เขาต้องรีบก็เป็นอันต้องเห็นสายตาละห้อยจากพวกมัน


    ชีวิตประจำวันของเขาวนซ้ำไปมาได้เกือบสองสัปดาห์ตั้งแต่ชายหนุ่มแปลกหน้ามาขอให้เขาเลี้ยง ตอนนี้กลายเป็นความเคยชินที่เขาแอบไม่ชอบใจนิดๆ ไปเสียแล้ว


    อย่าชินกับอะไรแบบนี้ดิวะ...


    “วันนี้มีเรียนเหรอครับ” หมาตัวใหญ่เอ่ยถามเจ้าของห้องเมื่อเห็นมือเรียวไล่เก็บของใส่กระเป๋าสะพายข้างใบโปรดในวันหยุดที่ปกติเจ้าตัวมักจะนอนเล่นอยู่ที่ห้องมากกว่า


    “อ้อ ไม่มี แต่นัดอาจารย์ไว้น่ะ พอดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่นัดกันอาจารย์แกไปสัมมนาต่างจังหวัด เลยไม่ได้คุยโปรเจคกัน” เสียงใสตอบไปพลางเก็บของไปพลาง ผมสีเงินสะบัดตามแรงขึ้นลงของศีรษะเมื่อร่างสูงพยักหน้ารับรู้


    พารักษ์กำลังเก็บเอกสารหัวข้อที่ตนเองสนใจและกำลังจะไปปรึกษาอาจารย์อีกครั้งหลังจากพบปะพูดคุยกันมาสองครั้งแล้ว ร่างสมส่วนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงข้อความจากโทรศัพท์เคลื่อนที่สีขาวของตนเอง  แอปพลิเคชั่นสีเขียวเด้งขึ้นบนหน้าจอแทนที่รูปแมวที่เขาให้ตั้งหน้าจอล๊อค ปกตินอกจากคนที่บ้านเขาก็แทบไม่คุยแชทออนไลน์กับใครเลย แต่กับอาจารย์บางคงก็จำเป็นต้องมีการสื่อสารกันทางนี้ เพื่อความสะดวกกับทั้งทางอาจารย์และนักศึกษา แต่ข้อความจากอาจารย์ที่ปรึกษาทำให้นักศึกษาหนุ่มต้องเลิกคิ้ว


    ...[ผมฝากซื้อแกงเผ็ดเป็ดย่างหลังมอมาด้วย ขอบคุณนะ]...


    …[ครับอาจารย์]...


    เขาตอบกลับไปก่อนเริ่มเก็บของ มองเวลาที่ยังเหลืออยู่อีก 20 นาทีก่อนบ่ายโมงตามที่นัดกับอาจารย์ไว้ ก็คิดว่าต้องออกไปก่อนเวลาที่นัดมากกว่าปกติเมื่อร้านที่ขายแกงเผ็ดเป็ดย่างนั้นคนมักเยอะอยู่เป็นประจำ แต่เขาไม่เคยเข้าไปกินเมนูนี้ซึ่งเป็นเมนูสุดเด็ดของร้าน เพราะหนึ่งคือเขาขี้เกียจที่จะรอ สองคือเขาไม่ค่อยชอบอาหารรสจัดนัก และสามคือเขาไม่กินเป็ด…


    พารักษ์ออกจากห้องพร้อมรอยยิ้มสดใสจากคนในห้องที่ยืนส่งเขา แม้จะแปลกใจกับชีวิตประจำวันที่วันๆ ไม่ทำอะไร ขลุกอยู่แต่ในห้องของคนตัวใหญ่ไม่น้อย มีช่วยทำงานบ้านทั้งที่ทำไม่ถนัดบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เคยต้องให้เขาเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน รวมถึงยังช่วยเรื่องค่าอาหารทุกมื้อที่ทานร่วมกันอีก


    ไม่ทำงานแต่ก็มีเงิน แล้วจะให้เก็บมาเลี้ยงทำไม…


    ชายหนุ่มสะบัดความคิดนี้ทิ้งไปอีกครั้ง ก่อนสตาร์ทรถจักรยานยนต์คู่ใจแล้วฝ่าแสงแดดที่ร้อนจัดในช่วงเที่ยงวัน (ที่แม้จะอยู่ในฤดูหนาวก็ตาม) แล้วปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา

    .

    .

    .


    สองเท้าพาร่างสมส่วนผิวแทนเข้ามาในคณะของตนเอง มือหนึ่งกำลังเก็บกุญแจไว้ในกระเป๋าเสื้อแขนยาวที่ใส่กันแดดไว้ ส่วนอีกมือถือถุงพลาสติกใส่กับข้าวที่เขาโชคดีมีคนน้อยเลยได้มาเร็วกว่าที่คิดไว้ พารักษ์ที่มาถึงก่อนเวลาถึงสิบนาทีเดินไปตามทางเดินที่แทบไม่เห็นใครเพราะเป็นวันหยุด ชายหนุ่มเดินตรงไปยังห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนเปิดประตูใหญ่เข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเดินเล็กที่มีห้องของอาจารย์แต่ละคนแยกย่อยไปอีกที


    แต่แล้วพารักษ์ก็ต้องชะงักขาตัวเองไว้เมื่อในห้องพักอาจารย์ที่เปิดไฟไว้ห้องเดียวในขณะนั้นคือห้องอาจารย์ที่ปรึกษาหนุ่ม แต่นอกจากอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาแล้วเหมือนจะมีอีกคนในห้อง และดูเหมือนจะมีการทุ่มเถียงกันอยู่


    “หยุดทำอะไรแบบนี้สักทีนะนพ จะให้ผมทำยังไง”


    “คุณบอกผมสิครับว่าจะให้ทำยังไง ผมคบกับคุณได้ แต่คุณคบกับผมไม่ได้งั้นเหรอ”


    “ผมเป็นอาจารย์คุณนะ”


    “ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมมาเป็นอาจารย์เหมือนคุณแล้ว ต่อให้คุณหนีผมไปเป็นหัวหน้าภาคแล้วแต่ผมก็จะไม่ยอม หรือต้องให้ผมไปอยู่ที่อื่นแล้วหาทางขึ้นมาเทียบเท่าคุณ”


    “มันไม่ใช่เรื่องนั้น… ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ”


    “ผมได้คุณมาครอบครองแล้ว ถ้าจะให้ผมต้องปล่อยมือจากคุณด้วยเหตุผลการเมืองภายของคณะ ผมจะลาออกจากที่นี่ แล้วคอยดูว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง”


    “นิลนพ!”


    โอเคครับ… ผมไม่ควรอยู่ที่นี่…


    ทั้งน้ำเสียงต่อว่าตัดพ้อ และน้ำเสียงของความเจ็บปวดบางอย่างทำให้พารักษ์เลือกที่จะเดินออกจากห้องพักอาจารย์อย่างเงียบเชียบทันทีหลังจากเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ร่างสมส่วนมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น กระทั่งมาถึงประตูใหญ่ของห้องพักอาจารย์เขาก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเพื่อกันทุกคนที่จะเข้าไปข้างในแม้จะเป็นอาจารย์ท่านอื่นที่จะต้องเข้าไปก็ตาม


    ถ้าจะเข้าไปเขาคงต้องตะโกนเสียงดังๆ จนกว่าคนข้างใน (ที่อยู่ในห้องของตัวเองอีกที) จะได้ยิน…


    ไม่นานนักเหมือนพารักษ์จะได้ยินเสียงเปิดประตูดังแว่วออกมาจากข้างใน ชายหนุ่มรีบวิ่งไปหลบหลังบันไดที่อยู่ไม่ไกลนักทันที แล้วร่างสูงของหัวหน้าภาควิชาหนุ่มใหญ่ก็เดินออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึงปนปวดร้าวก่อนหันหน้าพาตัวเองไปอีกทางที่ตรงกันข้ามกับเขา พารักษ์ระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเสียงเตือนข้อความจะดังขึ้น


    [พารักษ์ คุณยังอยู่ในคณะรึเปล่า]


    “...” ชายหนุ่มนิ่งงันเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งมาให้ ในหัวคิดหาเหตุผลที่จะทำให้ตัวเองมาตามนัดหมายช้ากว่าที่ควรจะเป็นจนวุ่นวาย แต่ข้อความถัดมาก็ทำให้เขาชาวาบ


    [ผมรู้ว่าเมื่อกี้คุณมาถึงหน้าห้องผมแล้ว ถ้ายังอยู่ในคณะก็เข้ามาที่ห้องผม]


    “...”


    ฉิบหายครับ…



    …….........








Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in