วันที่ 23 : พู่กัน [END]
ร้านกาแฟเล็กๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยแคบไม่เป็นที่สะดุดตา ทำให้ดูแล้วไม่น่ามีคนเข้าร้านมากมายนัก แต่กลับมีผู้คนเดินเข้าออกร้านตลอด บ้างกล่าวทักทายเจ้าของร้านที่กำลังชงกาแฟอย่างขะมักเขม้นหลังเค้าเตอร์บาร์ด้วยความสนิทสนม บรรยากาศร้านอบอุ่นด้วยการตกแต่งสีเอิร์ธโทนและดวงไฟสีส้มนวล กลิ่นกาแฟอ่อนๆ หอมหวนไปทั้งร้านชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย
ยกเว้นคนคนหนึ่ง…
ร่างสมส่วนผมสีน้ำตาลอ่อนนั่งเหม่ออยู่ตรงมุมร้านที่เขาไม่ได้มานานมากแล้ว มือเรียวเท้าคางมองออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย แม้รอบกายจะมีผู้คนที่เป็นกรัชวาลเดินกันขวักไขว่ แต่เขาก็ไม่อยากจะสนใจ… ไม่อาจจะสนใจ…
พารักษ์ระบายหายใจ วันนี้ทั้งวันตั้งแต่เขาออกมาจากหอเก่าที่เขาเคยอาศัยอยู่ 3 ปีเต็มเขาก็ถอนหายใจไปไม่รู้กี่ครั้ง จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเข้ามาเยี่ยมเยียนร้านกาแฟที่อาจารย์ที่ปรึกษาเคยพามาก่อนจะกลับที่พักปัจจุบัน
แต่ก็มานั่งถอนหายใจอยู่ดี…
ทศอนันต์มองลูกค้ามนุษย์อยู่เป็นระยะ ในใจนึกอยากจะพูดคุยด้วย แต่ลูกค้าที่ร้านวันนี้มากเกินกว่าที่จะทิ้งไปได้ มือใหญ่รวบผมสีเทาของตนที่ปรกลงมาแล้วรวบเกล้ามวยก่อนหยิบพู่กันใกล้มือที่เคยใช้วาดรูปมาปักต่างปิ่นปักผม ร่างสูงใหญ่กลับไปหยิบแก้วออกมาเพื่อบรรจุน้ำหวานหลากชนิดให้ลูกค้าอย่างคล่องแคล่วแต่ก็ไม่วายเหลือบมองพารักษ์บ้างจนพนักงานในร้านอดแซวไม่ได้
“มองขนาดนั้น เดี๋ยวผมดูแลตรงนี้ให้เองก็ได้นะเฮีย” ชายหนุ่มหน้าตาขี้เล่นยิ้มยิงฟันให้เจ้าของร้าน
“หือ... พูดอย่างนี้ เดี๋ยวตายไม่รู้ตัวนะ” ทศอนันต์ตอบกลับช้าๆ พร้อมรอยยิ้มบาง
“หูย… เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเฮียเกรงใจแฟนขนาดนี้” พนักงานหนุ่มยังเย้าไม่เลิก เจ้าของร้านถึงกับส่ายหน้า
“พี่ยังไม่มีแฟนซะหน่อย…” ทศอนันต์เปลี่ยนเป็นยิ้มเย็นให้พนักงานรุ่นน้อง “...และไม่ได้พูดถึงตัวพี่ด้วย”
พนักงานจอมทะเล้นกำลังจะโต้กลับ แต่ลมก็พัดวูบเข้ามาเมื่อมีคนเปิดประตู เสียงกระดิ่งดังต้อนรับลูกค้าด้วยความสดใส แต่บรรยากาศในร้านอยู่ๆ ก็หนักอึ้งขึ้นฉับพลัน
เป็นอีกครั้งที่ร้านกาแฟแห่งนี้เกิดความเงียบชั่วขณะ เหลือเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอบรรยากาศที่ยังคงดังต่อไป
ร่างสูงในเสื้อโค้ทสีเทาเดินเข้ามาในร้านช้าๆ สองขาวยาวหยุดอยู่หน้าประตูกระจกก่อนกวาดสายตาคมไปรอบๆ อย่างมีเป้าหมาย ผู้ติดตามสองคนยืนเยื้องซ้ายขวาหันมองหน้ากันช้าๆ และเมื่อเจ้านายของพวกเขาขยับตัวทั้งสองก็ขยับตามทันที แต่มือใหญ่ของคนข้างหน้ากลับยกขึ้นหยุดการเคลื่อนไหวของผู้ติดตาม แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะมุมของร้านกาแฟ
กลิ่นที่คุ้นเคย…
ใบหน้าที่คุ้นเคย…
นัยน์ตาที่คุ้นเคย…
คน… ที่คุ้นเคย…
“นั่งด้วยได้มั้ยครับ” เสียงทุ้มเอ่ยนุ่มเมื่อขออนุญาตนั่งฝั่งตรงข้ามกับคนที่นั่งมาก่อน พารักษ์ที่กำลังมองออกไปข้างนอกหันมาหาคนแปลกหน้าที่เข้ามาหาแล้วเบิกตากว้าง
“...นาย”
“ผมกลับมาแล้วครับรักษ์” รอยยิ้มสดใสถูกระบายเต็มใบหน้าคมคาย ผมสีเงินสะท้อนแสงไฟระยิบระยับสั้นลงกว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น หูสุนัขสีเทาที่พ้นออกมาจากกลุ่มผมนุ่มกระดิกเบาๆ ขณะเดียวกันหางฟูก็ส่ายไปมาอย่างดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง
“...”
“ผมได้กลิ่นรักษ์ตอนไปที่หอ… ผมเลยตามมาที่นี่”
“...”
“ไม่เจอรักษ์ตั้งนาน รักษ์ไม่เปลี่ยนไปเลย”
“...”
“ผม… ดีใจจริงๆ ครับ”
“...”
ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองเมื่อพารักษ์ได้แต่มองหน้าคนตัวสูงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา บรรยากาศรอบกายคนแปลกหน้าต่างจากเดิมเล็กน้อยเพราะมันดูสงบ สุขุม และลึกล้ำขึ้น แต่ก็ยังอบอุ่นและทำให้ผ่อนคลายได้เหมือนเดิม
และเพราะพารักษ์นั้นนิ่งเงียบไปนาน ไม่แม้แต่จะยอมพูดกับคนที่ทักทายเมื่อครู่สักคำ ใบหูสีเทาจึงค่อยๆ ลู่ลง นัยน์ตาสีทองหม่นเศร้าไร้ซึ่งความแวววาวต่างจากตอนแรก
“ขอโทษนะครับรักษ์… ที่หายไปนาน”
7 ปี…
“ขอโทษที่ไม่ได้ส่งข่าวให้เลย…”
ไม่มีเลย…
“ขอโทษที่… กลับมาอีกครั้งครับ”
ไอ้หมาบ้า!
พารักษ์ลุกขึ้นประจันหน้ากับคนตัวสูง มือเรียวเอื้อมไปข้างหน้าทันทีหลังกรัชวาลพูดจบ นิ้วสีแทนสัมผัสแก้มลื่นมือก่อนบิดเนื้ออย่างแรงในเวลาไม่กี่วินาที เรียกเสียงร้องโอยจากคนที่โดนทำร้ายดังลั่น
“โอ๊ย! จ… เจ็บ…เจ็บนะครับรักษ์” เสียงทุ้มร้องออกมาพลางลูบแก้มตัวเองป้อยๆ ใบหน้าคมก้มมองคนสูงน้อยกว่าที่ยังไม่ยอมพูดอะไร
“รักษ์…”
“...ตัวจริง”
“หือ?”
“ตัวจริง… จริงๆ ด้วย” พารักษ์พูดล่องลอยราวกับละเมอ มองมือที่สัมผัสคนตรงหน้าเมื่อครู่สลับกับใบหน้าขาวที่บิดเบี้ยวไปเพราะความเจ็บปวดจากแรงหยิกของเขา
“รักษ์...”
“นาย… ทำธุระเสร็จแล้วเหรอ”
“...”
“นายเปลี่ยนไปนะ… แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่ดี”
“...”
“ดีจังที่ยัง… แข็งแรงดี” พารักษ์ส่งยิ้มให้คนตรงหน้า อันที่จริงเขาก็อยากตะโกนใส่ว่าหายหัวไปไหนตั้งนาน ลืมสัญญาที่เคยให้แล้วรึเปล่า หรือมีเจ้านายคนใหม่แล้วหรือยัง แต่ความโล่งใจที่คนตรงหน้ายังอยู่ดีกลับทำให้เขารู้สึกดีใจเกินกว่าจะถามคำถามพวกนั้นออกมา
ดีใจ…
ดีใจมากจริงๆ…
“ผมแข็งแรงดีครับรักษ์...”
“อื้ม”
“ผมกลับมาแล้ว…”
“อือ”
“จำชื่อผมได้รึยังครับ…”
“...อืม”
“งั้น… ช่วยเก็บผมไปเลี้ยงอีกครั้งได้มั้ย”
“...”
“ได้มั้ยครับ… เจ้านาย”
“อือ…
…...
ได้สิ…
…….
….
...พี่สิธาน”
… [END] …
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in