วันที่ 2 :ภูมิแพ้
บนโลกนี้นอกจากมนุษย์ผู้ซึ่งมาสองตา สองหู สองแขน สองขา ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตบางประเภทที่เกิดมาพิเศษกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น แต่สิ่งที่พิเศษเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วไป...
.
.
กลิ่นดอกไม้สีขาวจากไม้ยืนต้นต้นใหญ่ส่งกลิ่นฉุนจัดจนชายหนุ่มร่างสมส่วนต้องบีบจมูกปิดไว้แม้จะอยู่ในห้องส่วนตัวภายในหอพักก็ตาม ต้นพญาสัตบรรณต้นใหญ่ต้นเดียวที่เหลืออยู่ในบริเวณนี้ยังคงตั้งตระหง่านงามเด่นให้ความร่มรื่นแก่เจ้าของบ้านที่ปลูกไว้ และเพราะเหตุนั้นเจ้าของต้นไม้ซึ่งปลูกบ้านใกล้ๆ หอพักจึงไม่ยอมตัดมันออกไป ทำให้ดอกไม้กลิ่นฉุนส่งกลิ่นอบอวลจนคนทั่วบริเวณร่วมกันเวียนหัวไปตามๆ กัน แต่ก็ยังถือว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นใจดีอยู่บ้างเมื่อเจ้าตัวก็พยายามตัดดอกไม้ที่แตกดอกส่งกลิ่นฉุนออกไปจนกลิ่นเบาบางลง
อากาศเริ่มเย็นลงทั้งที่เมื่อวานร้อนจัดจนเหงื่อไหลชุ่มเสื้อผ้า ส่งผลให้อาการภูมิแพ้ของชายหนุ่มผิวสีแทนเริ่มกลับมาอีกครั้ง ผื่นแดงแผ่นใหญ่เริ่มลามไปตามแขนและขาเมื่อเจ้าของร่างกายอดใจไม่ได้และลงมือเกาอย่างจริงจัง
“ลมพิษเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนตวัดมองคนแปลกหน้าที่เข้ามาอยู่ในห้องเขาตั้งแต่เมื่อวาน
ใช่ ตั้งแต่เมื่อวาน...
นักศึกษาหนุ่มชั้นปีที่ 3 ระบายลมหายใจพรืดใหญ่ มองคน(?)ตัวใหญ่กว่าที่นั่งปุลงบนพื้นอย่างไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร
เมื่อวานหลังจากเห็นหู… หูสุนัขบนศีรษะของชายหนุ่มแปลกหน้าเขาก็ใบ้กินไปทันที นี่มันปี 2018 นะ ไอ้ที่โผล่มาให้เห็นเนี่ย… มันจะแฟนตาซีเกินไปแล้ว!!
เอาจริงๆ เขาจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกสักทีเดียว เพราะเขาก็เคยเห็นมาก่อน…
ใช่ แต่นั่นนานๆ ทีและเห็นในระยะไกลๆ เท่านั้น จะเพราะเขามีสัมผัสที่แปลกไปกว่าคนอื่นหรืออย่างไรไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ก็เคยเห็นผ่านตามาบ้าง แต่เขาไม่กล้าบอกใคร เพราะคนอื่นๆ ไม่มีใครเห็นเช่นเขา มีแต่จะว่าเขาเป็นบ้าเสียเปล่าๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ที่เขาเคยเห็นนั้น... ไม่ได้มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วขอให้เขาเก็บไปเลี้ยง!
.
.
.
หลังจากที่ชายหนุ่มร่างสูงกว่าเขาเปิดฮู้ดที่ปกปิดใบหูประหลาดให้เขาได้เห็น เขาก็ลากคนแปลกหน้าเข้าห้องพักทันทีอย่างลืมความกลัวดังที่ควรจะเป็น มือเรียวปิดประตูดังปังจนคิดว่าถ้าคนที่พักอยู่ห้องข้างๆ อยู่ในห้องคงด่าสาปส่งเขาเป็นแน่
เมื่อซักไซ้ไล่เรียงจนรู้ความก็สรุปได้ว่า…
ตามมาเพราะกลิ่นเขาเป็นมิตร…
กลิ่น… อีกแล้ว!…
ชายหนุ่มคิดว่าเขาควรเข้าไปอาบน้ำอย่างจริงจังสักสองชั่วโมงเพื่อให้ ‘กลิ่น’ ที่ว่าหายไปจากตัว จะตามมาเพราะกลิ่นหรืออะไรก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่มันไม่ควรมีการขอให้มาเลี้ยงแบบนี้สิ!!
‘ที่ว่าขอให้เก็บไปเลี้ยง ฉันขอปฎิเสธนะ ฉันไม่เลี้ยงสัตว์’ ชายหนุ่มบอกออกไป จริงอยู่ที่พวกสัตว์ชอบมาคลอเคลียกับตัวเขา และแม้ตัวเขาจะเอ็นดูพวกมันไม่น้อย แต่เขาก็ไม่อยากเลี้ยงสัตว์ใดๆ เพราะมันต้องใช้ความรักและความรับผิดชอบที่มากเกินกว่าที่เขาจะแบกรับไหว
‘แค่ให้ผมอยู่ด้วย’ อีกฝ่ายตอบเบาๆ
ชายหนุ่มกุมขมับ นี่คิดว่าจริงๆ หรือว่าเขาจะให้อยู่ด้วย ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นใครก็ไม่รู้ ที่มาที่ไปมาจากไหนก็ไม่รู้ มีหูหมาอีกต่างหาก!
‘ไม่ได้’ ชายหนุ่มเจ้าของห้องเสียงเรียบ ก่อนเหลือบเห็นหูที่เคยตั้งเด่นเริ่มลู่ลง ใจชายหนุ่มอ่อนยวบ
อย่าทำอย่างนี้สิวะ!!
คนในชุดนักศึกษาร่ำร้องในใจ เขาจะไว้ใจคนสมัยนี้ง่ายๆ ไม่ได้ เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเยอะพอๆ กับร้านสะดวกซื้อที่เขาเพิ่งเข้าไปซื้อของมา เขาไม่ควรใจง่ายเก็บหมาที่ไหนก็ไม่รู้ว่าเลี้ยง
แต่…
โครก...
‘...’
โครก...
‘...’
‘ข… ขอโทษครับ…’
‘โอ๊ย! นาย… กินบะหมี่ได้มั้ย’ เสียงใสถามออกมาอย่างอับจนปัญญา อีกฝ่ายพยักหน้ารัวราวกับกลัวเขาจะเปลี่ยนใจเสียด้วย
ให้มันได้อย่างนี้สิ!!..
.
.
.
“เดี๋ยวก็หาย” ชายหนุ่มเจ้าของห้องเอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่มือเรียวไม่หยุดเกาจนคนแปลกหน้าต้องจับแขนเอาไว้ มือที่กำลังเกาแขนอย่างเอาเป็นเอาตายชะงักกึก ดวงหน้าเรียวเงยขึ้นมามองคนแปลกหน้าในห้องติดหงุดหงิด
“ทายาเถอะครับ ยิ่งเกามันจะยิ่งลามนะ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ราวกับกลัวโดนโกรธ หูสีเทาลู่ลงมาอีกครั้งจนดูน่าสงสาร ครั้งนี้หางฟูสวยที่เจ้าตัวเอาออกมาให้เห็นก็เริ่มราบลงกับพื้นเพิ่มระดับความน่าสงสารจนถึงขีดสุด เจ้าของห้องได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ภูมิแพ้ที่ว่าน่าหงุดหงิดแล้ว ยังไม่เท่ากับอาการหูตกหางตกที่ทำให้เขาต้องใจอ่อนจนยอมทุกอย่างแบบนี้เลย!!
………….
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in