วันที่ 16 : คนป่า
“โดนนายเหนือเขม่นเข้าให้แล้วล่ะ”
ร่างสูงใหญ่ของเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ เอ่ยขึ้น นิลนพกับปฏิพัทธ์ที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน
“นายเหนือ? มาที่นี่เหรอ” เสียงต่ำของนิลพพถามพี่ชาย อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนดึงเก้าอี้อีกตัวเข้ามานั่งรวมในโต๊ะเดียวกับน้องชาย
“เข้ามาเห็นว่ามีธุระ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว แล้วพาเด็กนายกลับไปเลย เด็กคนนั้นฝากขอโทษมาด้วยที่กลับไปก่อน” ทศอนันต์ร่ายยาว ฝ่ายนิลนพหรี่ตามองผู้เป็นพี่ชาย
“พี่ไปทำอะไรพารักษ์”
“...ก็เปล่า แค่ไปนั่งคุยด้วยเฉยๆ” พี่ชายเสมองไปทางอื่น นิลนพถอนใจพรืด
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าทำแบบนี้ไปทั่ว เด็กฝ่ายจัดระเบียบคนนั้นจะโมโหเอานะ”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับเด็กนั่น” ทศอนันต์พูดนิ่งราวกับไม่ใส่ใจ เป็นนิลนพเสียอีกที่เดาะลิ้นใส่ร่างสูงใหญ่พอๆ กับเขา
“ไม่เกี่ยว? อืม… พอมีคนเข้าใกล้เด็กคนนั้น ไม่เห็นว่าจะมีใครได้กลับไปแบบสภาพปกติเลยสักคน”
“แกพูดเหมือนฉันไปชอบเด็กนั่น ขอร้องเหอะ เกรี้ยวกราดโวยวายอย่างกับเป็นคนป่าหลุดเข้ามาในเมือง จะให้ฉัน…”
“พี่ชายครับ คนป่าที่ว่าเนี่ย ถ้าเป็นคนเดียวกับที่ลากพี่ออกจากวงสังสรรค์ได้เนี่ย ผมโคตรนับถือเลยนะ” นิลนพกระตุกยิ้มมุมปาก ภาพพี่ชายพุ่งออกจากวงเหล้าที่มีหนุ่มน้อยสาวน้อยคลอเคลียข้างกายไปหาเด็กหนุ่มแววตาก้าวร้าวที่กำลังโดนกรัชวาลกลุ่มหนึ่งกระชากลากตัวออกไปยังติดตาเขาจนถึงทุกวันนี้
พี่ชายของเขาเป็นพวกรักสนุก ไม่คิดผูกพันกับใครง่ายๆ จะมีก็กับคนนี้ที่พี่ชายจะมีความรู้สึกรุนแรงด้วยเป็นพิเศษ
“พอเลย ฉัยไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว แล้วเรื่องตระกูลใหญ่เป็นไงบ้าง ทำไมอยู่ๆ นายเหนือถึงมาหาฉัน” ทศอนันต์ตัดบท วกกลับเข้ามาเรื่องของนายเหนือแห่งกรัชวาลอีกครั้ง
“ตระกูลใหญ่สงบลงนิดนึง นายเหนืออาจจะส่งข่าวไปแล้วว่าจะกลับ… มั้งนะ ผมเดา” นิลนพเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เต็มหลัง มือใหญ่หยิบเอกสารอีกกองส่งให้ปฏิพัทธ์อย่างรู้งาน ปฏิพัทธ์เอ่ยขอบคุณเบาๆ แล้วก้มหน้าทำงานต่อเพื่อไม่ให้ขัดบทสนทนาที่กำลังคุยค้างกันไว้
“งั้นถ้านายเหนือกลับช้าเพราะฉัน ฉันก็ซวยสิ” ทศอนันต์ลูบแขนตัวเองเบาๆ “แต่ว่าก็ว่าเถอะ คนอะไรพูดปาวๆ ว่าไม่อยากเป็นนายเหนือ แต่พอเอาเข้าจริง ให้เอานายเหนือคนเก่าสองสามคนมายืนตรงหน้าฉันยังไม่รู้สึกกลัวเท่ากับคนนี้มายืนเลย”
นิลนพนิ่งไป ความเป็นนายเหนือใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้ แม้จะมีการสืบทอดอำนาจทางสายเลือดตระกูลใหญ่ แต่หากว่าคนนั้นไม่มีคุณสมบัติของความเป็นนายเหนือก็อย่าหวังว่าจะมีคนยอมรับ
.
.
.
“นายอารมณ์ไม่ดีอีกแล้ว” พารักษ์ที่เงียบมาตลอดทางเอ่ยขึ้นหลังจากเข้ามาในห้องแล้ว ร่างสูงข้างๆ ชะงักเล็กน้อยก่อนระบายยิ้มเช่นเคย
“แดดร้อนครับ รักษ์ไม่ร้อนเหรอ”
“ไปเรื่อยนะนาย” พารักษ์ส่ายหน้า เลิกซักไซ้เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตอบมาตรงๆ มือเรียววางกระเป๋ากับกองหนังสือไว้ที่ประจำก่อนถอดเสื้อแขนยาวออก
“สุนัขมันขี้หวงครับ...”
“?”
“...กลัวว่าเจ้าของจะโดนใครแย่งไป”
“นี่นาย…” พารักษ์อ้ำอึ้ง เขาไม่ได้อยากเข้าข้างตัวเองว่าคนร่วมห้องหวงเขา แต่ทั้งสายตาที่มองตรงมาทางเขา ทั้งน้ำเสียงที่หนักแน่นทำให้เขาใจสั่นไม่น้อย
“แล้วผมก็กำลังจะไป ผมกลัวรักษ์จะมีสุนัขตัวอื่น” ใบหูสุนัขสีเทาลู่ลงอีกครั้ง พารักษ์ส่ายหัวรัวๆ พร้อมนั่งลงที่ขอบเตียงที่เดิม
“ลืมแล้วรึไงที่ฉันเคยบอก ฉันไม่เลี้ยงสัตว์”
“แต่รักษ์ก็เลี้ยงผม…”
“เดี๋ยวๆๆๆ ไม่ได้เลี้ยงโว้ย! นายมาอยู่ด้วยเฉยๆ” พารักษ์รีบหยุดความคิดประหลาดของอีกฝ่าย คนเป็นๆ นะเฮ้ย มาลงมาเลี้ยงอะไรกัน!
“รักษ์เลี้ยงผม”
“ไม่ใช่!”
“รักษ์เลี้ยง”
“ก็บอกว่า…” พารักษ์ชะงักกึกเมื่อคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนพื้นก่อนหน้านี้เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เขามาก… ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ถ้าผมกลับมาแล้ว จะยอมเลี้ยงผมอีกครั้งมั้ย” เสียงทุ้มพูดเบาๆ แต่เพราะระยะที่ใกล้กันมากพารักษ์จึงได้ยินชัดเจนเสียยิ่งกว่าชัด ชายหนุ่มเจ้าของห้องย่นคอถอยหลัง หันหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ต้องสบสายตาสีทองของอีกฝ่าย
“ถ… ถึงตอนนั้น… ค่อยมาว่ากัน…”
“...เข้าใจแล้วครับ”
ขอบคุณนะครับ พารักษ์…
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง…
ขอบคุณจริงๆ…
…………….
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in