หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกความคิดจริงๆ ในขณะที่อ่านค่อนข้าง 'อึดอัด' ไปกับความคิดของผู้เขียนที่ประกอบรูปร่างขึ้นมาไม่ได้ มีความสับสนในชีวิตเจืออยู่ในตัวหนังสือ 'เรากำลังหนีอะไรอยู่' คำถามที่พบบ่อยในหนังสือเล่มนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังวางไม่ลงเพราะอยากรู้ตอนจบ ตอนที่ผู้เขียนตอบคำถามได้ว่า 'กำลังหนีอะไร'
และเมื่ออ่านจบ ความรู้สึก 'ว่างเปล่า' ก็เข้ามาแทบจะทันที เพราะคิดว่า 'ชีวิตมันก็แค่เท่านี้เอง' ทุกสรรพสิ่งมีอยู่เพราะมันมีอยู่ และไม่สามารถสร้างสิ่งที่มันไม่มีได้ก็เพราะมันไม่มี (ตามแนวคิดแบบสปิโนซา, ประโยคนี้ติดอยู่ในหัวข้าพเจ้าทันทีหลังอ่านจบ)
เป็นหนังสือที่เปิดโลกพอสมควร ได้วิธีการมอง 'ธรรมชาติ' ในอีกสองสามมิติ ครุ่นคิดหลังอ่านจบ (สักพักที่ผ่านมา) หากมองตามแนวคิดของสปิโนซาที่ในหนังสือเล่มนี้กล่าวไว้แล้วนั้น แม้แต่ตึกรามบ้านช่องที่เป็นคอนกรีตก็ยังถูกมองว่าเป็น 'ธรรมชาติ' เพราะมองว่ามนุษย์คือธรรมชาติ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากมนุษย์ก็ย่อมเป็นธรรมชาติ
สุดท้ายแล้วความ 'สับสน' ก็เข้ามาแทนที่ความ 'ว่างเปล่า'
มนุษย์คืออะไร ? เราคือใคร ? เราเป็นส่วนหนึ่งของอะไร หรือเราเป็นอย่างที่เราเป็นแค่เพียงตัวเรา ?
หนังสือเล่มนี้ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้ข้าพเจ้ามีหัวใจที่ยอมรับความแตกต่างได้มากขึ้น เพราะ 'มันก็เป็นเช่นนั้น' ทั้งยังสรุปแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติไว้สองสามมุมมองอย่างที่กล่าวไป บอกเล่าถึงมายาเล็กน้อย ครบเครื่องไปด้วยการเล่าถึงความคิดและชีวิตประจำวัน การผจญภัยที่สอดแทรกมาของตัวผู้เขียน ผสานกันอย่างลงตัว
จะว่ากันตามที่ผู้เขียนบอกในส่วนของคำนำ หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่งานทางวิชาการ ไม่ใช่บันทึกการเดินทาง แต่คือบันทึกความคิด และมันส่งผลให้ข้าพเจ้าครุ่นคิดกับตัวเอง ครุ่นคิดกับความคิดของตัวข้าพเจ้าเอง ดูสิ แม้แต่ที่เขียนรีวิวหนังสือตอนนี้ยังเรียบเรียงไม่ได้ เพราะกำลัง สับสน และว่างเปล่า (ในความหมายของข้าพเจ้า) จากเล่มนี้ที่เพิ่งอ่านจบไป
อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าคิดว่า นี่แหละคือหนังสือที่คุ้มค่าต่อการอ่าน
-หนังสือเล่มแรกที่อ่านจบในปีนี้-
(ตื่นบนเตียงอื่น, ปราบดา หยุ่น)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in