ขอบอกก่อนว่าโพสต์นี้ไม่ได้เป็นการโจมตีใคร เดี๋ยวจะเข้าใจผิด
เราจะพูดถึงสภาพจิตใจกับการเทรนด์ร่างกายดูแลอาหารออนไลน์
มีผลวิจัยมากมายว่าการออกกำลังกายช่วยต้านซึมเศร้า ต้านความเศร้า เพิ่มความสุข ซึ่งจริงนะ
แต่ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาในฐานะ health coach ลูกค้าเราส่วนใหญ่จะผ่านการเทรนออนไลน์มา 90% และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่รอด ไม่สำเร็จ หรือบางคนก็คือรู้สึกท้อแท้ในชีวิตไปเลยเพราะไม่ได้น้ำหนักที่ต้องการ แย่สุดคือจากหายซึมแล้วกลับไปซึมเศร้าใหม่ หรือ สุดท้ายแทนที่เค้าจะ healthy ขึ้น กลายเป็นแย่ลงเพราะสภาพจิตใจไม่โอเค .ให้เดาคือวิธีการของตัวคนที่ดูแลหรือเทรนเนอร์
เราเคยจ้างเทรนเนอร์ 2 คน ออนไลน์ 1 ออฟไลน์ 1
เราบอกเลยว่าคนที่ทำให้เราน้ำหนักลงได้คือคนที่ไม่ได้มาบอกให้เราส่งรูปอาหารให้ดู เพราะ เราเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมาตีกรอบ มันอึดอัดและกดดัน และ เค้าแค่บอกว่า เราควรกินอะไรเป็นไกด์ไลน์ เรากินแย่เค้าก็ไม่ได้ว่าเสีย ๆ หาย ๆ เพราะจุดประสงค์เราไม่ใช่จะเอาหน้าท้องแบน เราอยากให้เราฟิตขึ้น
ตอนที่เราเริ่มออกกำลังกายตอนอายุ 26 ตอนนั้นอายุร่างเหมือน 40 หอบง่ายมาก ไม่กินคาร์บแต่ตัวบวม เครียดง่าย แล้วไป ๆ มา ๆ เราก็ปวดเข่าเล่นไม่ได้ แต่เทรนเนอร์ไม่เคยด่านะ เราก็บินกลับมาเจอเค้ามากสุดได้เดือนละ 3 ครั้งเอง นอกนั้นเค้าก็จะแนะนำท่าไว้ หรือ คาร์ดิโอให้เล่นเอง เล่นไม่เล่นก็แล้วแต่เรารับผิดชอบตัวเรา กับ นร คนอื่นไม่รู้เค้าทำไง แต่กับเราเค้าใช้วิธีนี้แล้วได้ผลนะ แต่เรื่องกินเราต้องมานั่งแพลนเองอีกทีเพราะเราข้อแม้เยอะ มีปัญหาท้องผูกอะไรอีก เราก็เลยต้องมานั่งศึกษาตัวเองจริงจัง ซึ่งสนใจเรื่องอาหารอยู่แล้วเลยไม่ได้มีปัญหา
ส่วนเทรนเนอร์ออนไลน์เหมือนจ่ายเงินแล้วเค้าก็ปล่อยลืม ส่งลิสต์เมนูมาให้ บอกว่าต้องกินตามนี้เท่านั้น ถึงจะผอม คุณมารู้จักร่างกายเราได้ไงอ่ะ? คุณเคยถามเรารึป่าวว่าเรากินผักสดได้มั้ย? นี่กินผักสดแล้วท้องอืดแบบจะบ้า คุณมาบอกให้เราดื่มน้ำเยอะๆๆ คุณเคยมาถามเรามั้ยว่าเวลาดื่มมันผะอืดผะอมนะ แล้วก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลยว่าต้องเริ่มยังไง เอะอะจะให้ทำท่าตาม ถามสิคะ ว่าเค้าปวดหลังมั้ย? เค้าเคยบาดเจ็บตรงไหนมั้ย? เค้าอกหักอยู่รึป่าว? คนที่อารมณ์เศร้ามันจะหันหาของหวานซะมากกว่า โค้ชบางคนก็ยังไปจี้ตามหาภาพอาหารแต่ละวันอีก เห้ออออ ส่วนของเราเค้าปล่อยลืม เราก็ปล่อยลืมมั่ง 5555.ชีวิตคือความยืดหยุ่น บางอย่างต้องเป๊ะ บางอย่างก็ไม่ต้อง
ยิ่งถ้าคุณมีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจไม่แข็งแรง คุณยิ่งต้องทำตัวเป็น elastic band เลย ยืดได้หดได้ ฝึกปรับตัวปรับใจ เทรนเนอร์ออนไลน์ไม่เคยมาถามเรานะว่า ตอนนี้บินเป็นไง? นอนสนิทมั้ย? คือจะเอาหุ่นดีอย่างเดียว เพราะฉะนั้น อยากให้เป็น caution ไว้นิดนึงสำหรับคนที่จะจ้างเทรนเนอร์ดูแลสุขภาพ ก่อนที่คุณจะให้คนอื่นมาดูแลชีวิตการกินการอยู่ของคุณ คุณต้องรู้จักตัวเองก่อนในระดับนึงเลยล่ะ
ด้วยความที่ผ่านอะไรแบบนี้มา และ ทุกวันนี้ก็ยังเจอลูกค้าที่ suffer จากสิ่งนี้เราเลยไปเรียนจิตวิทยาเลย health coach ของสถาบัน IIN ที่เรียนมามันไม่ใช่โค้ชลดน้ำหนัก เราอยู่ตรงกลางระหว่าง นักโภชนาการ แพทย์ และ personal trainer หรือ fitness trainer เรา ไม่ใช่คนที่จะยื่นเมนูให้คุณ คุณต้องมานั่งคิดกับเรา คุณต้องมาบอกเราว่าคุณชอบไม่ชอบกินอะไร คุณท้องผูกรึป่าว คุณนอนกี่ชั่วโมงต่อวัน ก็คือเราจะให้เค้าเรียนรู้ตัวเองผ่านคำถามและการพูดคุยนี่แหละ เราจะช่วยเค้าหาเวย์ที่ sustainable ที่สุด เพราะ เราต้องการให้เค้าเจอเราแค่ 6 เดือนพอ หลังจากนั้นเค้าก็มาประปรายได้ เราต้องการให้เค้าดูแลตัวเองได้ด้วยตัวเอง
สิ่งที่เทรนเนอร์ทำก็ไม่ได้ผิด ก็รู้ว่าหวังดีกับทุกคน แต่เราอาจจะต้องระวังกันให้มากขึ้นกับสภาพจิตใจของลูกค้าเราด้วย การออกกำลังกายและการทานอาหารแต่ละแบบ ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน หน้าที่ของโค้ชคือ ถ้าคุณรู้ว่าเค้าไม่เหมาะ คุณควรแนะนำให้เค้าไปหาเวย์อื่น ไม่ใช่มาบอกเค้าว่า ทำไมไม่สู้เลย แค่สู้เรื่องวัคซีนก็จะบ้าตายแล้วค่ะ ถ้าคุณรู้ว่าจิตใจเค้าไม่แข็งแรง แต่เค้าทำได้แหละ แต่แค่ยังไม่พร้อม คุณควรแนะนำให้เค้าหาตัวช่วยทางด้านจิตใจ อย่าทำเอง มันเสี่ยงค่ะ
สำหรับตัวลูกค้า เราก็อยากให้พิจารณาจิตใจตัวเองกันก่อนที่จะลงคอร์สใด ๆ ล่ะ ไม่งั้นเด๋วปัญหาจิตใจมันจะตามมาแล้วแก้อยากกว่าไขมันส่วนเกินนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in