ตอนที่ 12
ก็ไม่ค่อยได้กินอะไรนะ ทำไมยังอ้วนอยู่
ร่างกายฉันปกติไหม ปวดหัวบ่อยจัง
ตรวจหาเบาหวาน
ด้วยความที่สวยเคยกินยาลดความอ้วนมาก่อน ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานผิดปกติ หรืออาจจะเป็นเพราะปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ โรคภัยที่ซุกซ่อนอยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัว หรือจะเป็นเพราะความเครียดสะสมที่อยู่ในใจ ทำให้ช่วงหลัง ๆ มานี้ สวยกินอะไรนิดหน่อยแต่น้ำหนักตัวก็ยังคงไม่ลด (ควบคุมอาหาร แต่ผิดหลักโภชนาการ ) แถมสุขภาพเธอก็เริ่มเรียกร้องการดูแลครั้งใหญ่ เธอเริ่มปวดหัวไมเกรนบ่อย ๆ เวลาปวดหัวไมเกรน ก็มักจะมีเลือดกำเดาไหลออกมาด้วย สวยรู้ดีว่านี่ไมใช่เรื่องปกติ !
เมื่อครบกำหนดตรวจสุขภาพเพื่อหาภาวะของเบาหวาน สวยก็ต้องตกใจ งง และสับสนกับคำตอบของคุณหมอ
สวย : คุณหมอคะ ผลตรวจเลือดเป็นยังไงบ้างคะ ตกลงสวยเป็นเบาหวานเหมือนที่กังวลไว้หรือเปล่าคะ
คุณหมอ : คุณสวย ผลเลือดของคุณมีความเป็นไปได้ที่คุณจะเป็นเบาหวานนะครับ
คุณหมอตอบพร้อมโชว์ผลตรวจให้เธอดู
คุณหมอ : แต่หมออยากจะแนะนำคุณสวยว่า ให้คุณสวยกลับไปดูแลสุขภาพของตัวเองในเบื้องต้นก่อน นั่นก็คือ
การออกกำลังกาย
ดูแลเรื่องอาหารการกิน
การนอนหลับพักผ่อน
สภาพจิตใจ
เรื่องสภาวะอารมณ์ ความเครียด
ให้คุณผ่อนคลายให้มากกว่านี้
คุณสวยลองทำสมาธิด้วยนะ เพราะการสวดมนต์ทำสมาธิช่วยได้เยอะ หรือหางานอดิเรกอะไรก็ได้ที่คุณสวยชอบ ทำไปด้วยนะครับ หมอขอให้คุณกลับไปพยายามดูแลสุขภาพด้วยตัวเองก่อน ถ้าคุณทำได้ คุณก็ไม่ต้องกินยาเบาหวาน ไม่ต้องฉีดอินซูลินให้ตัวเอง แต่ถ้าคุณได้ลองพยายามแล้ว ภาวะเบาหวานยังไม่ลด ตอนนั้นหมอค่อยจ่ายยาให้นะ เดี๋ยวหมอทำใบนัดครั้งต่อไปให้นะครับ
สวย : แต่คุณหมอคะ ถ้าผลออกมาว่าเป็นเบาหวานก็ควรต้องกินยาไม่ใช่เหรอคะ ให้สวยกลับไปดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง แล้วสวยจะทำได้ยังไง เท่าที่เคยรู้มา เป็นเบาหวานก็ต้องกินยานี่คะ
สวยยังคงดื้อดึง แถมไม่ยอมรับฟังคุณหมอ ทำหน้าบึ้งหน้างอ เธอเริ่มเครียดจริง ๆ แล้วตอนนี้ ปกติก็หน้าเครียดจนใคร ๆ ก็สังเกตเห็น มองผ่าน ๆ ยังรู้เลยว่าเธอเครียด มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่ไม่รู้ตัว
คุณหมอ : คุณสวยอายุยังน้อย ถ้าดูแลสุขภาพดี ๆ มีโอกาสที่จะไม่ต้องกินยา ไม่เป็นเบาหวาน ลองดูก่อนนะ หมอรู้ว่าคุณสวยทำได้
สวยหมดคำพูดที่จะอ้อนวอนขอความเห็นใจจากคุณหมอ เธอรับคำคุณหมอว่า
สวย : ค่ะ คุณหมอ สวยจะพยายาม สวยไม่อยากเป็นเบาหวาน ไม่อยากฉีดยา ขอบคุณมากค่ะ
สวยยกมือไหว้ขอบคุณหมอ แล้วเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยใจคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ น้อยใจ ไม่เข้าใจ ไม่รับรู้อะไร เธอยังคงคิดเอาแต่ใจ
ในขณะนั้นคำพูดของคุณหมอก็ดังก้องอยู่ในหัวเธอ
"คุณต้องดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง"
เธออยากร้องไห้ให้กับชีวิต เธอตรวจเจอเบาหวาน แต่คุณหมอไม่จ่ายยาให้เธอ แถมบอกให้เธอกลับไปดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง แถมยังบอกให้นั่งสมาธิ นี่มันอะไรกัน เธองงไปหมดแล้ว
ในขณะที่นั่งรอใบนัดตรวจครั้งต่อไป สวยตัดสินใจในนาทีนั้น "เอาว่ะเป็นไงก็เป็นกัน ถ้าคุณหมอบอกให้ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง ฉันจะทำ ถ้าคุณหมอบอกให้สวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิ ฉันจะทำ เพราะฉะนั้นใบนัดตรวจครั้งต่อไป ฉันไม่เอา"
แล้วเธอก็เดินออกมาด้วยใจที่้เต็มไปด้วยความโกรธ กังวล น้อยเนื้อต่ำใจ !
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คำพูดของคุณหมอเป็นเหมือนคำประกาศิต สั่งให้สวยนั่งลงไปตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอเปิดเครื่องขึ้นมา แล้วเริ่มพิมพ์หาข้อมูลการดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
เริ่มจากการรู้จักเบาหวานก่อน ว่าแท้จริงแล้วเบาหวานคืออะไร
เกิดจากอะไร
พฤติกรรม
กรรมพันธุ์
การทำงานของระบบร่างกาย หรือฮอร์โมน
อาหารการกิน
หรืออะไรกันแน่
เบาหวาน ทำไมชีวิตเธอต้องมารู้จักกับคำนี้
เบาหวานมีกี่ชนิด กี่ประเภท
ใครบ้างที่เสี่ยง
แล้วเธอจะหลีกเลี่ยงมันได้ไหม
มีวิธไหนบ้างที่จะช่วยให้เธอห่างไกลจากเจ้าเบาหวานตัวร้ายนี้ได้บ้าง
อาหารอะไรที่ควร และไม่ควรกิน
อวัยวะส่วนใดของร่างกายที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
สวยตั้งใจศึกษาเรื่องเบาหวานอย่างจริงจัง แม้ข้างในจะยังมีคำตัดพ้อต่อว่าคุณหมอ แต่ก็จะให้เธอทำยังไงได้ ในเมื่อคุณหมอบอกให้เธอกลับมาดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง และด้วยความใจร้อน เธอไม่ยอมรับนัดในครั้งต่อไปของคุณหมอด้วย
เธอบอกตัวเองว่า นี่คือเดิมพันชีวิต !
และเธอใช้ชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน
...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in