• ช่วงเวลาที่เคร่งเครียดจนไม่รู้ว่าควรจะเอาชีวิตตัวเองไปไว้ที่ไหนดี การอ่านเล่มนี้ทำให้เราได้หยุดพักสำรวจมองดูรายละเอียดเล็กๆน้อยๆรอบข้าง เพื่อมองหาความสุขและความรู้สึกดีๆซึ่งบางที เราอาจจะเผลอเกือบทำมันหายไปก็ได้เหมือนกับตัวละครบางตัวในเรื่องนี้

ชื่อหนังสือ โกโก้อุ่นๆกับคุณในวันพฤหัสฯ เห็นครั้งแรกก็ชวนให้รู้สึกดีจนต้องเผลอยิ้มเลยล่ะ ยิ่งเราเป็นคนที่ชอบดื่มโกโก้มาก เห็นแบบนี้ก็ต้องรีบคว้ามาเพื่อที่จะได้เอามาอ่านพร้อมกับจิบโกโก้ในยามเช้าไปด้วย

หนังสือเล่มนี้เต็มไปเรื่องราวทั้ง 12 เรื่องสั้นที่มีตัวละครทั้งรู้จักและแค่แวะเวียนผ่านเข้ามาและออกไปใช้ชีวิตกันต่อ หากว่าชั่วขณะนั้น พวกเขามีบางสิ่งที่เชื่อมโยงกันอย่างไม่ได้ตั้งใจโดยเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นที่มาร์เบิ้ลคาเฟ่นั่นเอง 

สำหรับเรา เราประทับใจที่คุณนักเขียน มิจิโกะ อาโอยามะ นำเสนอเรื่องราวปกติในชีวิตประจำวันของผู้คนที่เข้ามาพบกัน สวนทางกัน และเดินจากกัน จากจุดเล็กๆ ที่มาร์เบิ้ลคาเฟ่ก็เริ่มขยายวงกว้างของทั้งพื้นที่ ทั้งบางความสัมพันธ์ใกล้และไกล ขยายไปทั่วทุกพื้นที่เพื่อให้เราได้เห็นถึงความสวยงามท่ามกลางแง่มุมชีวิตแสนปกติธรรมดาเหล่านี้ 12 เรื่องสั้นจึงเป็นตัวอย่างของชีวิตเพียงชั่วขณะที่ได้บังเอิญมาพบเจอกันของผู้คน เพื่อยินดี เพื่อเยียวยา เพื่อคิดถึงและเพื่อมองหาสิ่งเล็กๆที่อาจจะเติบโตกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตในวันข้างหน้า เพียงแค่เวลาชั่วครู่ในมาร์เบิ้ลคาเฟ่ เพียงแค่เขาหรือเราหันมองกัน ยิ้มให้กัน ทักทายกันด้วยคำพูดที่อ่อนหวาน นั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตก็ได้

 เราต่างก็มีความหมายต่อกันและกัน ต่ออะไรบางอย่างท่ามกลางโลกอันกว้างใหญ่ ทุกคนต่างมีสีเป็นของตัวเอง อย่างที่ในท้ายเล่มได้บอกไว้ เพื่อบ่งบอกว่าในโลกใบนี้ยังมีผู้คนอีกมากมายให้ร่วมรู้จักและเรียนรู้ซึ่งกัน

เอาเป็นว่า เล่มนี้จะทำให้เพื่อนๆได้ค้นพบความสวยงามของการใช้ชีวิตอย่างแน่นอนการมองเห็นสิ่งสวยงามจากโมเม้นเล็กๆที่จะทำให้เราได้ค้นพบความหมายของชีวิตที่อาจจะคาดไม่ถึงสำหรับเรามันคือประเด็นสำคัญที่คุณนักเขียนได้บอกไว้ผ่านเรื่อวราวเหล่านี้ รวมๆแล้วจึงเป็นเรื่องราวที่น่ารักและชวนซึ้ง(ยอมรับว่ามีตอนหนึ่งทำเราน้ำตาแตกซึ่งเป็นตอนที่ชอบมากๆด้วย) 

หนังสือเล่มนี้ทำให้เรากลับมามองตัวเอง มองการกระทำเล็กๆที่เราทำเพื่อตัวเองอีกครั้ง การเห็นถึงคุณค่าและความหมายต่อทุกสิ่งไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม กลับทำให้เรามีแรงบันดาลใจที่จะใช้ชีวิตในวันแสนยุ่งยาก ในวันที่อาจจะไม่ได้ใจดีกับเราสักเท่าไหร่ แต่สิ่งสวยงามที่คุณนักเขียนมอบให้นั้นกลับเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้เราสามารถกลับมายิ้มได้ในทุกๆสถานการณ์ และเมื่อเราก้าวออกจากบ้าน เราก็อยากลองมองคนรอบข้างทั้งรู้จักและไม่รู้จักที่ผ่านเข้ามาชีวิตในมุมมองแบบใหม่ อยากฝากรอยยิ้มเพื่อให้ได้รอยยิ้มจากพวกเขากลับมา เพื่อให้เป็นที่จดจำว่าครั้งหนึ่ง การสบตากันเพียงแค่เสี้ยววินาทีมันแสนน่าประทับมากแค่ไหน เพราะเราต่างก็เป็นมนุษย์ซึ่งมีเศษเสี้ยวที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันต่อโลกใบนี้

 หนังสือเล่มนี้เหมาะกับโกโก้อุ่นๆยามเช้าชวนให้อารมณ์ดีตลอดทั้งวันจริงๆ ล่ะนะ

“พวกเราต่างใช้ชีวิตโดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้เพียงหนึ่งวินาทีข้างหน้า แค่ความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเองคงไม่อาจทำอะไรได้ บางสิ่งซึ่งไม่อาจต่อต้านจะมาเยือนเราจากอีกฝากฝั่ง ความกลัดกลุ้มซึ่งขยายตัวอย่างไร้ขีดจำกัดในเวลานั้นบงการเราให้ขีดเขียนบทละครชีวิตอันน่าหวาดกลัว แม้เป็นเรื่องราวที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง แต่มันกลับขู่เข็ญเราให้เสียขวัญราวกับเป็นอนาคตที่ใครบางคนมอบให้ ราวกับเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ทว่าในความเป็นจริง สิ่งเหล่านั้นมิได้ดำรงอยู่ในแห่งหนไหน สิ่งที่มีตัวตนแท้จริง ณ ที่นี้และเวลานี้คือฉันซึ่งกำลังหายใจ มาโกะที่กำลังหัวเราะ และซากุระที่กำลังผลิบาน”            

จากหน้า 131–132

โกโก้อุ่นๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ

สำนักพิมพ์ Piccolo

ราคา 225 บาท