น้ำหนักไม่ลงอีกแล้ว_(:3」∠)_
หลังจากวันที่ 12 น้ำหนักก็ไม่ลงอีกเลย แถมบางวันยังขึ้นด้วยซ้ำ (แต่วันถัดมาก็ลงกลับมาเท่าเดิม) รอบก่อนไม่เจอปัญหานี้ ก็ต้องมาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุ
วิ่งน้อยไป?
นั่งไล่ดูบันทึกการวิ่งก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ปริมาณ calories ที่ burn ได้ก็คงที่/เพิ่มขึ้นทุกวัน อันที่จริง หลังจากวิ่งไปซักพักเราจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วขึ้น เพราะถ้าร่างกายแข็งแรงขึ้น พลังงานที่ใช้ในการวิ่งก็จะลดลงที่ความเร็วเท่าเดิม วิธีสังเกตคือดูจากชีพจรหลังจากวิ่งเสร็จ ถ้าต่ำกว่าจุดๆ หนึ่งแปลว่าเรายังเหนื่อยไม่พอ (ของเราตั้งไว้ที่ 165 ครั้ง/นาที) วันถัดมาก็จะเร่งความเร็วขึ้นอีก ᕕ( ᐛ )ᕗ
อาหารล่ะ?
ถ้าไม่ใช่เรื่องวิ่ง ก็ต้องเรื่องอาหาร แต่ calories ก็คุมอย่างดี ไม่มีภาวะอ่อนเพลีย ระบบขับถ่ายทำงานปกติ (คำว่าปกติคือท้องไม่ผูก ถ่ายง่าย ไม่จำเป็นต้องถ่ายทุกวัน แต่ถ้าจะถ่ายต้องถ่ายสะดวก) งงเฟร้ย
щ(ﾟДﾟщ)
และคนร้ายก็คือ...
สุดท้ายก็เจอผู้ร้าย ซึ่งก็คือ "โซเดียม" นั่นเอง โซเดียมไม่ใช่เกลือนะบอกไว้ก่อน ซึ่งการกินโซเดียมมากๆ จะทำให้เกิดปัญหากับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ 2 อย่าง ได้แก่
- ทำให้บวมน้ำ ขนาดตัวจะใหญ่ขึ้น น้ำหนัก (จากน้ำ) ขึ้น
- ทำให้เสี้ยนของหวานมากกว่าปกติ
ปริมาณโซเดียมที่กินได้ในแต่ละวันคือ 1,500 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะเกลือเพียง 1 ช้อนชา (6 กรัม) กลับมีโซเดียมอยู่ถึง 2,325 มิลลิกรัม มากกว่าที่กินได้ทั้งวันเกือบ 2 เท่า! แล้วพอเราลองพลิกข้างกล่องดูของกินจาก 7-11 แต่ละอย่างนี่คายแทบไม่ทัน โซเดียมตู้ม!
อาหารที่มีโซเดียมสูงคืออาหารที่มีรสจัด อาหารกึ่งสำเร็จรูป หรือใส่ผงชูรส และอาหารที่ขายบริเวณออฟฟิศก็มีทุกอย่างที่ว่าไปข้างต้น สุดท้ายไม่มีทางเลือกนอกจากทำอาหารกล่องไปกินเอง เนื้อปลา ไข่ต้ม ข้าวสวย กินวนไปค่ะ (´･ε･｀)
น้ำหนักวันที่ 19 ตุลาคม 2560 (▼2.1 กก.)
กว่าน้ำหนักจะลงอีกครั้งก็ผ่านไปอีก 7 วัน จะทันมั้ยเนี่ยยย
ตอนนี้มีเรื่องที่น่ากังวลอีก 1 เรื่อง นั่นก็คือเรื่องขนาดกระเพาะ เรารู้สึกว่าตอนนี้กินอะไรได้น้อยลงมาก ทำให้กลัวว่าตอนไปเที่ยวจะกินไม่ไหว เลยต้องเปลี่ยนแผน เริ่มปรับกระเพาะให้กลับสู่สภาพปกติตั้งแต่ 26 ตุลาคม ระยะเวลาการลดน้ำหนักลดลงเหลือ 21 วัน เสียวว้อยย _:(´ཀ`」 ∠):_
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in