เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Cineflixvividswift
Godzilla: King of the Monsters (2019) - ข้าคือราชา


  • หมายเหตุ: เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ดูกันหมดแล้ว แต่ผมก็ยังอยากเขียนเพราะอยากเก็บไว้เป็นคอลเล็กชั่น ขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับหากมันเกะกะหน้าเว็บ TvT

    ดูตัวอย่างนี้ครั้งแรกแล้วขนลุกเลยครับ ขนาดว่าไม่ได้เป็นแฟนก็อดซิลล่า ความอยากดูมันก็หลั่งไหลเข้ามาทันทีที่ได้เห็นภาพความอลังการที่บรรจุมาในตัวอย่าง บวกกับเพลง Over the Rainbow (ขออภัยหากจำชื่อผิด) ที่มันเข้ากันลงตัวกับตัวอย่างยิ่งขนลุกไปกันใหญ่ แต่ครั้นมาดูจริงๆ ทำไมมันไม่ใหญ่เหมือนในเทรลเลอร์หว่า...

    ผมไม่ได้ตามก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นเก่าๆเลยครับ มาดูครั้งแรกก็ฉบับปี 2014 ที่ผมรู้สึกสนุกกับหนังพอสมควรเลย ก่อนจะได้มีโอกาสดูฉบับปี 1998 ที่แฟนๆด่ากันว่าเหมือนหนังเกรดบีโง่ๆที่เอาพี่ก็อดซิลล่ามาปู้ยี่ปู้ยำให้กลายเป็นแค่กิ้งก่ายักษ์ธรรมดาๆ แต่ผมก็ยังรู้สึกสนุกกับมันแฮะ

    (source: IMDb)
    แต่กับภาคนี้ผมไม่ได้อยากดูมากเท่าไร จนได้ดูตัวอย่างข้างบนนี่แหละ แต่ก็ยอมรับว่าตัวเองดูช้ากว่าชาวบ้านชาวช่องไปนิดนึงเนื่องจากภารกิจมากมายที่บ้าน (ดูเน็ตฟลิกซ์นั่นแหละ...) 

    กับภาคนี้ผมก็ยังรู้สึกโอเคกับมันนะ ถึงแม้ว่าคำวิจารณ์และรีวิวส่วนใหญ่จะออกไปทางลบก็เถอะ เพราะผมเองก็ไม่ใช่แฟนก็อดซิลล่า เข้าไปดูนี่ก็เพราะอยากดูสัตว์ประหลาดตีกันเท่านั้นเอง

    (source: Rotten Tomatoes)

    ภาคนี้กำกับโดย Michael Dougherty ที่เขียนบท X-Men 2 กับ Superman Returns และกำกับหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ผมชอบที่สุดอย่าง Trick 'r Treat (อยากกรี๊ดมากตอนประกาศชื่อผู้กำกับภาคนี้) ซึ่งผลที่ออกมาก็ถือว่าโอเคนะ หนังดูสนุก อลังการ ยิ่งใหญ่ ฉากแอ็คชั่นไม่เยอะเท่าที่คิดแต่ก็แน่น ในขณะเดียวกันบทหนังก็เละเทะมาก โดยเฉพาะพาร์ทมนุษย์ที่หลายๆคนด่ากัน มันยุ่งเหยิงและวุ่นวายเกินความจำเป็นมาก แถมเหตุผลในการตัดสินใจแต่ละอย่างของพวกมนุษย์มันก็ดูแปลกๆอีกต่างหาก

    แต่ผมก็ยอมรับได้เพราะอย่างที่บอก ผมเข้ามาดูเนี่ยเพราะหวังฉากสัตว์ประหลาดตีกัน! ซึ่งในหนังนี่ก็มีอยู่หลายฉากเหมือนกัน (เพิ่งออกจากโรงมาไม่กี่ชั่วโมงลืมว่ามีกี่ฉากละ กรรม) สัตว์ประหลาดแต่ละตัวนี่ก็จัดหนักซีจีมาก ดีเทลละเอียดยิบ ต่อยกันเมามันไม่แพ้สังเวียนมวยบ้านเราเลย

    ที่ผิดคาดคือ sense of humor ในหนังที่มันเบาบางกว่าที่ผมคิดมาก เพราะปกติหนังแนวนี้มันจะมีตัวโจ๊กประจำเรื่องที่ขยันมาแย่งซีน เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง แต่เรื่องนี้กลับไม่มีเลย มีใกล้เคียงก็ตัวละคร Dr. Stanton ที่รับบทโดย Bradley Whitford นั่นแหละครับ

    (source: IMDb)
    ส่วนน้อง Millie Bobby Brown ของผมก็สวยน่ารักตามวัยครับ (น้องเด็กกว่าผมไม่กี่ปีแต่ดูเป็นผู้ใหญ่มาก คงเป็นเพราะวัยรุ่นฝรั่งเค้าโตเร็วกว่าเราด้วยเนาะ) แต่แอบแปลกใจเพราะก่อนหนังเข้าฉาย ดูแบบโปรโมตน้องมาก แต่ในหนังกลับไม่ค่อยมีบทบาทเท่าที่ควร (ได้แต่รอ Stranger Things ซีซั่นใหม่ อยากเห็นน้องเยอะๆ)

    สำหร้ับแฟนก็อดซิลล่าผมคงแนะนำไม่ถูก แต่ใครที่ไม่ใช่ (แบบผม) Godzilla ภาคนี้น่าจะตอบโจทย์ในแง่ของความเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์เน้นบันเทิงเป็นหลักที่ขายฉากสัตว์ประหลาดแบบเต็มที่ ถึงจะบกพร่องในด้านบทและความกลมกล่อมก็เถอะ ตอนนี้ได้แต่หวังว่า Godzilla vs. Kong จะออกมาดีนะครับ รอดูเลยครับ

    พรุ่งนี้จะไปดู MIB: International วันแรกเลยครับ ไม่อยากช้าเหมือนเรื่องนี้ 555555

    ปล. : ผมไม่ชอบ Kong: Skull Island เอามากๆ พาร์ทมนุษย์แย่ถึงแย่ที่สุด แต่ฉากต่อสู้โอเคนะ ทำสนุก แต่ตัวละครคนในเรื่องมันง่าวจริงๆ (กราบขอโทษคนที่ชอบหนังด้วยครับ TvT)

    Score: 7.5/10

    Directed by: Michael Dougherty
    Screenplay by: Michael Dougherty & Zach Shields
    Story by: Max Borenstein, Michael Dougherty & Zach Shields
    Genre: Action, Adventure, Fantasy
    Runtime: 132 mins

    ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านครับ ^^

    (source: IMDb)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in