เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryDarkbluekiss
เปลี่ยน #ไข่เจียวซอสศรีราชา


  • ปล. เนื้อเรื่องมีเค้าโครงมาจากหนังสั้นเรื่อง BBetter ค่ะ



    .........



    "คุณว่าน!!! ผมบอกคุณกี่รอบแล้วว่าอย่าวางของเรี่ยราด"







    และแล้วเสียงสวรรค์ที่ทำให้ผมลืมตาขึ้นมาจากความงัวเงียเพราะพึ่งทำงานเสร็จ คนนั้นหน่ะ 'พี่ตู่' แฟนผมเองครับ คบกันมาเกือบจะ3ปีแล้ว ก่อนหน้าคบกันเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมยกเว้นไอ้นิสัยขี้บ่น บ่นแบบน้ำไหลไฟดับแถมยังชอบว่า ชอบด่าผมอีก แต่อย่างอื่นพี่ตู่ก็น่ารักนะครับ ไม่งั้นผมไม่ขอเป็นแฟนหรอก









    "พี่ว่าน! พี่ตู่! เปิดประตูหน่อยสิฮะ!"








    นั่นไง ไอ้ปีศาจจิ๋ว ไอ้ทอม เด็กตัวเล็กกะเปี๊ยกที่ถึงจะอายุปาไป29แล้วแต่ก็ยังทำตัวเป็นเด็ก3ขวบมาขอข้าวบ้านผมกินอยู่เลย แล้วพี่ตู่ก็ดันใจดีทำให้กินตลอด ต่างจากแฟนอย่างผมคนนี้เลย แล้วก็เหมือนอย่างที่เคยเป็น มานั่งอยู่ในบ้านอย่างกับบ้านตัวเอง แล้วก็มานั่งกินข้าวสบายใจอยู่อย่างงี้








    "พี่ว่าน"







    "ว่า"







    ไอ้ตัวเล็กเรียกผมที่กำลังล้างจานที่มันกินทั้งๆที่มันควรจะล้างเองซะด้วยซ้ำ ผมจึงล้างน้ำสุดท้ายก่อนจะเอาจานไปคว่ำไว้และหันมามองมันที่ยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้ผมโดยที่หน้าจอเป็นรูปแอพลิเคชั่นสีฟ้าขาวอย่างเฟสบุ๊คที่คนนิยมกันนักหนา แต่มันไม่ใช่ประเด็นเพราะมันคือเพจที่มันเปิดให้ผมดูต่างหาก








    'BBetter แก้นิสัยที่คุณไม่ต้องการเกี่ยวกับตัวคุณเอง'







    อื้ม สมัยนี้มีอะไรแบบนี้ด้วยหรอว่ะ ว่าแต่มันก็ดูเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยดีหรอกนะ เหมือนทอมมันจะรู้ว่าผมรู้สึกอะไรตอนนี้ ใช่ครับ แต่ผมกลัวต่างหาก ว่ามันจะเกิดอันตรายอะไรรึเปล่า ไอ้บริษัทนี่จะเป็นมิจฉาชีพหลอกตังเฉยๆรึเปล่า







    "บ้า ดีหรอว่ะ หลอกเอาตังรึเปล่าก็ไม่รู้"






    "ก็แล้วแต่อ่ะ ทอมไปกินบัวลอยที่พี่ตู่ทำดีกว่า"







    มันจะดีจริงๆใช่มั้ยว่ะ....







    .
    .
    .
    .
    .
    .





    "พี่ตู่ พี่แน่ใจว่าจะทำจริงๆหรอ"






    "เอ้า ก็คุณแนะนำผมเองนะ"







    ใช่ครับ พวกเราสามคนมานั่งรออยู่ที่ศูนย์ที่ดูเป็นโรงพยาบาลซะมากกว่า จากสภาพรอบข้างก็ดูแปลกๆแล้วครับ พยาบาลต้อนรับเดินกันให้ว่อน ห้องกว้างๆทั้งห้องนี้ก็แต่งเป็นสีขาวสลับฟ้าดูสะอาดเรียบร้อยเหมือนโรงพยาบาลทั่วๆไปพร้อมกับโฆษณาที่ทอมเปิดให้ผมที่ตอนนี้มันถูกเปิดทิ้งไว้ตรงทีวีตรงหน้าพวกเรา







    "เหมือนมิจฉาชีพจะตายพี่"







    "ก็ดูมีมาตรฐานดีนี่ เอาเถอะน่าผมว่าคุณคิดมากเองแหละ"






    จะไม่ให้ผมคิดมากได้ยังไงครับ คนไข้ที่เดินออกมาหลังจากผ่านกระบวนการรักษาแค่ล่ะคนดูเปลี่ยนไปจนน่ากลัว อย่างน้องผู้หญิงใส่แว่นคนนั้นที่ก่อนเข้าดูเหมือนซอมบี้ยังไงอย่างงั้นแค่พอออกมากลับดีดเหมือนโดนตัวไหนซักตัวมา ผมกลัวว่ามันจะอันตรายมากกว่าอุปทานหมู่นี่สิ







    "ไม่ต้องห่วงหรอกคุณ ถ้าผมไม่ขี้บ่นมันก็คงดีแหละน่า"







    มือที่อบอุ่นของพี่ตู่เอื้อมมาจับมือผมไว้เพื่อให้ผมสบายใจมากขึ้น ปกติพวกเราไม่ค่อยอะไรออกสื่อหรือนอกสถานที่เท่าไหร่หรอกครับ อย่าว่าแต่ข้างนอกเลยแค่อยู่ด้วยกันยังไม่ค่อยหวานกันเลยครับ เพราะจากนิสัยส่วนตัวของผมกับพี่ตู่ที่เป็นคนไม่หวานอยู่แล้วบวกกับเรื่องที่เป็นผู้ชายทั้งคู่จึงไม่ค่อยมานั่งมุ้งมิ้งกันเท่าไหร่








    "คุณภพธรใช่มั้ยคะ ดิฉันเป็นพยาบาลประจำเคสของคุณ ขออนุญาติเรียกคุณตู่นะคะ"









    สาวหน้าตาคมสวยดูไม่เหมือนใครดี แน่หล่ะ ก็แปลกทั้งโรงพยาบาลอยู่แล้ว เธอยื่นเอกสารอะไรไม่รู้มาให้พวกเราและบอกว่าให้พี่ตู่เซ็นอนุมัติการรักษา มีอีกอันนึงที่ผมอ่านคล่าวๆเฉยๆ ผมเห็นพี่ตู่ก็เซ็นๆไปตามที่เอกสารให้เซ็น ผมว่าพี่ตู่คงอ่านดีแล้วแหละก็ออกจะเป็นคนรอบคอบขนาดนั้นผมจึงคิดว่าไม่อ่านก็คงไม่เป็นไร






    "งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ"







    "แล้วพวกผมเข้าไปด้วยได้มั้ยฮะ"







    หลังจากที่พึ่งแพ้เกมส์เมื่อกี๊ก็ค่อยเปิดปากพูดได้บ้างหน่อย และดูเหมือนว่าคุณพยาบาลจะอนุญาติให้พวกผมตามไปด้วยและหลังจากนั้นพวกเราก็เดินตามไปเห็นถึงขั้นตอนการทำงานต่างๆว่าต้องให้พี่ตู่ไปเปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วยเหมือนของโรงพยาบาลทั่วๆไปก่อน แต่เอาจริงๆชุดนี้ก็น่ารักดีเนอะ บางดี เดี๋ยวๆ ผมควรซีเรียสกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้สิ







    "ญาติผู้ป่วยเชิญรออีกห้องนะคะ"






    ทำไมผมดูไม่ค่อยไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ ทิ้งให้พี่ตู่อยู่คนเดียวแบบนั้นหน่ะ ถ้าเกิดว่าพวกเขาเอาไฟฟ้ามาช็อต หรือเอาเครื่องมาล้างสมองพี่ตู่จนความจำเสื่อมจำผมไม่ได้จะทำยังไง ก่อนที่ต่างฝ่ายจะเข้าไปในห้อง ผมจึงดึงตัวของอีกฝ่ายมากอดเอาไว้ ผมกลัวจริงๆนะ กลัวว่าพี่ตู่จะเป็นอะไรไป







    "ทำเป็นเด็กไปได้ว่าน เดี๋ยวผมจะเป็นคนใหม่แล้วนะ คุณจะไม่รำคาญตอนผมบ่นแล้วไง"







    แล้วเราก็แยกจากกันเหลือไว้คือรอยยิ้มของคนดุที่ฉีกยิ้มกว้างมาให้ผม ผมกลัวจริงๆ กลัวจะไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้อีกแล้ว จู่ๆก็อยากให้พี่ตู่ดุผม ด่าผมแรงๆขึ้นมาซะอย่างงั้น แต่คงทำไม่ได้ผมจึงเข้ามาในห้องที่ดูมืดฟเหมือนโรงหนังย่อมๆที่เห็นห้องอีกห้องที่เป็นสีขาวทั้งห้องและมีโซฟาที่มีอะไรไม่รู้เหมือนร้านทำผมอยู่ข้างบนด้วย







    "พี่ตู่พี่!"






    เหมือนว่าพี่ตู่จะไม่ได้ยินอะไรจากฝั่งนี้เลย ทอมที่เริ่มหยิบน้ำและขนมที่ถูกจัดมาให้นั่งกินสบายใจแต่ผมนี่สิไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าพี่ตู่จะบ้าจี้ตามทอมมันทำไมนะ คิดอีกอย่างผมเองก็ผิดที่ตอนนั้นบอกว่าพี่ตู่ขี้บ่นและชอบดุ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย ขอให้มันผ่านไปด้วยดีเถอะนะ






    "การปฏิบัติการจะใช้เวลาตามคลื่นตรวจจับของสมอง อย่างน้อยที่สุดประมาณครึ่งชั่วโมงและมากที่สุด4ชั่วโมง ระหว่างนี้รบกวนทั้งสองท่านปฏิบัติตามคำแนะนำของดิฉันนะคะ"






    ผมตอบรับตกลงไปอย่างไม่เต็มใจนักและนั่งลงตรงโซฟาข้างๆทอม ภาพที่ผมเห็นคือพี่ตู่ที่ถูกเครื่องอะไรซักอย่างใส่ไว้บนหัว และนั่งลงบนโซฟาตัวนั้นโดยมีสายอะไรต่างๆติดอยู่ตามตัว ผมพยายามจะสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตัวเองกังวลเรื่องพี่ตู่มากขนาดนี้แต่ทำไมผมถึงทำไม่ได้เลยก็ไม่รู้ ผมแค่ อยากได้พี่ตู่เหมือนเดิมคนเดิมมากกว่า





    "นิสัยที่คุณตู่อยากจะเปลี่ยนคือนิสัยการขี้บ่นหรือชอบดุ
    มีผลกับครอบครัว 7 %
    มีผลกับคนรอบข้าง 10 %
    ผลกับตัวเอง 23 %
    และคนรักของคุณ 60 %
    หลักๆคือเพราะทำตามที่คุณบอกโดยจะได้หลีกเลี่ยงการปะทะกับคุณ"





    คุณพยาบาลที่ผมพึ่งจะสังเกตุว่าเธอชื่อ PAM แพมหรือแปมอันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เธอยื่นหูฟังในรูปแบบเฮ้ดโฟนให้กับผมซึ่งสิ่งที่อีกฝั่งพูดเมื่อกี๊ผมก็ได้ยินหมดทุกอย่างมันก็จริงแหละครับที่เขาว่ามา ทั้งเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องก็ต้องมาฟังพี่ตู่บ่นหรือโดนพี่ตู่ดุตลอดและก็เป็นผมเหมือนกันที่ต้องเจอกับมัน





    "นิสัยที่คุณไม่ชอบเกิดจากการที่คุณเป็นคนรักความมีระเบียบและเป็นคนละเอียดในทุกๆเรื่องจึงไม่พอใจเวลาใคนทำอะไรที่มันขัดต่อความรู้สึกของคุณ"





    คุณพยาบาลยื่นน้ำเปล่าให้ผมขวดนึงในขณะที่กำลังนั่งดูภาพที่อยู่อีกฝั่งนึง ภาพที่ผมก็คุ้นเคยกับมันดีเพราะเป็นภาพเหตุการณ์ต่างๆในช่วงเวลาที่เรารู้จักกันมา ทั้งภาพตอนที่ผมถูกดุเรื่องวางของทิ้งเรี่ยราด ทั้งตอนที่มีความสุขก็มี อย่างตอนที่ไปซื้อของด้วยกัน หรือแกล้งหยอกๆเล่นกัน แต่ก็แอบเขินที่คุณพยาบาลต้องมาเห็นตอนกอดกันนะ





    "คุณเป็นคนไม่ชอบทำอาหารแต่เพราะคนรักของคุณเคยบอกตอนเจอกันแรกๆว่า 'เค็มมากเลยคุณ' ซึ่งนั่นทำให้คุณพยายามทำอาหารให้ถูกปากคนรักของคุณมากขึ้น ทั้งจำปริมาณเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปในแค่ล่ะครั้ง หรือแม้กระทั่งจำอุณหภูมิในการทอดเนื้อ"





    พี่ตู่ไม่ชอบทำอาหารหรอ ก็เห็นปกติก็ทำให้ผมกินทุกเย็นไม่ใช่รึไง แล้วเรื่องที่พี่ตู่มานั่งจำว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไรนี่ด้วย ทำไม...ผมถึงไม่เคยรู้เลยนะ






    "เหตุการณ์ที่คุณยังจำได้ไม่เคยลืมคือตอนที่คุณเห็นคนรักของคุณสั่งข้าวไข่เจียวธรรมดาๆราดด้วยซอสพริกศรีราชาและบอกว่าเขาชอบมัน คุณจึงพยายามลองทอดไข่เจียวบ้างและครั้งแรกมันสำเร็จแต่คุณโดนน้ำมันกระเด็นใส่ซึ่งแน่นอนคุณโกหกคนรักของคุณว่าไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงของคุณ"






    ทำไม ทำไมพี่ตู่ต้องโกหกผมด้วย เพราะอะไร ทำไมกัน ตอนนี้มันมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของผม ทำไมพี่ตู่ทำให้ผมขนาดนี้แล้วถึงโกหกว่าไม่มีอะไร ภาพที่ขึ้นต่อมาเรื่อยๆก็คือภาพที่พี่ตู่ทนน้ำมันกระเด็นใส่ โดนมีดบาดต่างๆเพราะผม เพราะต้องการทำอะไรดีๆให้ผม






    "เหตุผลหลักๆคือเพราะคุณเป็นห่วงคนรักของคุณแต่คุณเป็นคนแสดงออกไม่เก่ง คุณเห็นคนรักของคุณเป็นนักร้องนักดนตรี จึงเป็นปกติที่จะมีผู้หญิงมาอยู่ใกล้ๆ ทั้งแฟนคลับหน้าตาสวยๆเด็กๆที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับคนรักของคุณโดยรู้จากการแอบไปดูคุณเล่นดนตรีที่ร้านกลางคืนบ่อยๆและแน่นอนคุณไม่แสดงออกเพราะกลัวคนรักของคุณรำคาญ"






    งั้นหมายความว่าวันที่ผมโดนตีหัววันนั้น...





    "ด้วยนิสัยเป็นคนปากร้ายของคนรักของคุณทำให้ต้องเจออันตรายบ่อยๆและส่วนมากก็เป็นคุณที่แอบช่วยเขาไว้ และการที่คุณหันมาดูแลตัวเองมากขึ้นก็เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายและไม่ได้เด็กๆน่ารักๆจึงกลัวว่าคนรักของคุณจะเปลี่ยนไป"






    ผมไม่เคยรู้อะไรเลยซักอย่าง แม้กระทั่งวันที่ผมโดนทำร้ายและตื่นมาเจอพี่ตู่ที่โรงพยาบาลบอกผมว่ามีคนโทรไปบอกว่าผมโดนทำร้าย ไหนจะตอนที่ผมไม่สบายและพี่ตู่มาดูแลนั่นอีก และภาพตอนที่เห็นพี่ตู่นั่งรอกินข้าวด้วยกันแต่ผมดันออกไปนอกบ้านกับเพื่อนและเมากลับมาเละเทะ





    "ผลข้างเคียงของการรักษาคือ
    ความสามารถในการแยกสี กลิ่น และสีลดลง 56 %
    ความสามารถในการอดทนต่ออารมณ์โกรธและห่วงใยคนรอบข้าง 32 %
    และการยิ้มรวมถึงเสียงหัวเราะ 12 %"





    ผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้มากขึ้นจนลุกออกไปทุบกระจกตรงหน้าแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย พยายามจะติดต่อกับพี่ตู่แต่ก็ทำไม่ได้ซักอย่าง ทั้งตะโกนแหกปากก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ฟังเสียงร้องไห้ของพี่ตู่ที่เอาแต่ขอโทษผม ขอโทษที่ทำให้ผมรำคาญ ขอโทษที่ทำให้ผมไม่ได้มีอิสระเหมือนคนอื่นๆ แต่ผมไม่ต้องการพี่ตู่คนไหนแล้ว ผมต้องการพี่ตู่คนนี้ คนที่ผมรักและยอมให้เขาดุเขาบ่น เพราะผมรู้แล้วว่าพี่ตู่เป็นห่วงผม





    "คุณว่านคะ มนุษย์จะตัดสินใจอะไรได้ก็ควรจะตัดสินใจได้ด้วยตนเองและการจะเปลี่ยนก็ควรจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนเพื่อตนเอง การที่คุณรับคุณตู่ได้มันหมายถึงตัวคุณตู่ที่เป็นคุณตู่ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ให้คุณตู่ตัดสินใจเถอะค่ะ"





    "พี่ว่านใจเย็นนะพี่"




    ต่อให้ทอมที่เดินเข้ามาปลอบผมแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย ผมขอโทษพี่ตู่ ผมขอโทษ ขอโทษที่ไม่เคยเห็นมันเลย สิ่งดีๆต่างๆที่พี่ทำให้ผม ทุกๆอย่างที่พี่ตู่ทำมันมีความหมายเหลือเกิน ถ้าต้องเสียมันไป ผมรักพี่ตู่ รักที่พี่เขาเป็น ผมไม่ต้องการอะไรแล้ว พี่ได้ยินผมมั้ยพี่ ผมรักพี่ รักที่รอยยิ้มของพี่ ทุกอย่างที่เป็นพี่ แต่ผมทำได้แค่นั่งลงร้องไห้ฟูมฟายออกมาบอกรักพี่ตู่ซ้ำๆด้วยน้ำเสียงที่แหบลงจากการตะโกนหวังจะให้พี่ตู่ได้ยิน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    'ฉันเป็นฉันอย่างนี้

    สวรรค์คงไม่ปล่อยให้ฉันตาย

    ให้ฉันเป็นตัวเองเถอะได้ไหม

    ที่เราจะมีกัน




    ฉันเป็นฉันอย่างนี้

    ลองเข้ามารู้สึกถึงข้างใน

    ที่ฉันมองดูเธอแบบที่ฉันเป็นอย่างนี้'
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    "ว่าน! ต้องให้บอกอีกกี่รอบว่าอย่าวางของเรี่ยราด!"




    "ครับๆ เดี๋ยวจะเก็บให้เดี๋ยวนี้แหละครับ!"





    'อดเป็น ตู่ ภพธร คนใหม่เลย'

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    จะหน่วงหรือม่าดี5555 ก็นุ้งเหงา เรื่องนี้ดองมานานล่ะได้ปล่อยซักที หวังว่าจะชอบกันเด้อ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in