เราเดินเล่นทอดน่องในสวนกันไปเรื่อยๆ สลับกับถ่ายรูปก๊อกแก๊ก
รู้สึกว่าอยากเก็บอากาศแบบนี้กลับบ้าน
แดดอุ่นๆ ลมเย็นๆ
จริงๆแล้วพวกเราโชคดีมากเลยนะที่มาที่นี่แล้วไม่เจอฝน
เพราะปกติแล้วในช่วงฤดูใบไม้ผลิคาบเกี่ยวกับฤดูร้อนฝนจะตกบ่อยๆ
เธอบอกว่ามีอีกสวนสาธารณะนึงที่อยากพาเราไป
จากนั้นก็พาเราขึ้นรถบัสและพาเดินปีนเขาขึ้นเนินไกลมาก
จนเราแอบบ่นกระปอดกระแปดว่าเมื่อไรจะถึงซะที
ไปที่ไหนก็จะเห็นตึก Space Needle เสมอ ซึ่งดีจัง เราชอบ
ถ้าไม่เห็นเป็นของจริง ก็เห็นแบบนี้แทน
จริงๆแล้วบ้านเมืองเขาก็มีสายไฟฟ้านะ แต่มันไม่พันกันยุ่งอีรุงตุงนังแบบบ้านเรา
และเขาไม่ตัดต้นไม้ที่ขึ้นพันสายไฟอะ เพราะฝั่งที่มีสายไฟจะไม่ปลูกต้นไม้เว้ย
คือเขาคิดมาแล้ว ไม่เหมือนบ้านเราที่พอต้นไม้โตก็ตัดแม่ง
บ้าจริง!
นี่คือระหว่างที่เรากำลังหอบแฮ่กๆไต่ขึ้นเนินอยู่
พบเจอบ้านน่ารักหลายหลังมากๆ เราชอบที่สุดก็ตึกนี้แหละ
Pinterest in real life
ขอโทษที่ถ่ายเอียง และขอโทษที่ขี้เกียจปรับรูปให้ตรงด้วย
ช่วงนี้ยังเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิอยู่
เราผ่านสวนหน้าบ้านหลายหลังที่สวยน่ารักกุ๊กกิ๊ก
เจอต้นไฮเดรเยียร์ที่กำลังออกดอกน่ารักมากๆด้วย
เป็นดอกไม้โปรดของเราเลยนะ
ถ่ายรูปมาด้วย แต่ถ่ายไม่สวย ไม่เอามาลงก็แล้วกัน
ตรงนี้แหละเป็นจุดที่เราบ่นว่าเมื่อไรจะถึงซะที
เธอก็เลยพาเดินอ้อมตึกมาที่ทางขึ้นที่มีต้นไม้เต็มไปหมดเลย
ในใจเราก็อะไรวะ ยังต้องไต่บันไดขึ้นไปอีกหรอออออออ
เหนื่อยแล้วนะเว้ย
คือสองทางมันรกๆ แล้วบันไดก็ดูยาวไกล
คิดในใจว่าพ้นบันไดนี่ไปแล้วถ้ามันยังไม่ถึงจะไม่ไปแล้วนะ
ความอดทนต่ำ หิวข้าวแล้วด้วย
และนี่คือภาพเมื่อหอบร่างปีนบันไดขึ้นไปถึง
เราถลาวิ่งตัดสนามหญ้าไปตรงจุดชมวิวที่คนยืนกันอยู่เยอะๆนั่นแหละ
หันไปยิ้มกว้างให้กับคนที่พาขึ้นมาและหันไปมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง
Kerry Park
จุดชมวิวที่สวยที่สุดในซีแอตเทิล
(ในความคิดของเรา)
เราจ้องภาพตรงหน้านานมาก
ก่อนที่จะหยิบกล้องค่อยๆมาปรับ หมุน และกดชัตเตอร์
ซึ่งภาพที่ออกมานั้นก็สู้สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าไม่ได้หรอก
แต่เราก็อยากจะเก็บไว้
เผื่อวันใดที่เราเปิดรูปนี้มาดู
เราจะได้กลับไปรู้สึกแบบเดียวกันกับวันนั้นอีก
เช่น ความรู้สึกในตอนนี้ที่เรานั่งพิมพ์อยู่ ณ ขณะนี้
เรายิ้มเหมือนเคย นึกถึงช่วงเวลาขณะนั้นที่เราน้ำตาปริ่มเมื่อเห็นภาพด้านหน้า
Space Needle | Seattle | Mount Rainier
ตอนนั้นเราหยิบหูฟังขึ้นมาฟังเพลง Hello Seattle อีกครั้ง
พร้อมกับจมดิ่งไปกับบรรยากาศ
เหมือนกับตอนนี้ที่เราเปิดเพลงนี้ไปด้วย
รูปภาพกับเสียงเพลงนี่เป็นตัวเปิดล็อกกล่องความทรงจำจริงๆนะ
"ขอบคุณที่มาด้วยกันนะ"
ไม่ว่าจะหันหน้าไปพูดประโยคนี้ในตอนนั้น
หรือคิดอยู่กับตัวเองในใจในตอนนี้
เราขอบคุณมากจริงๆนะ
(จริงๆจะเขียนต่อ แต่ตัดจบตรงนี้ดีกว่า)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in