ก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วเนอะ ว่า Tinder คือแอพหาคู่ที่ได้รับความนิยมน่าจะสูงสุดในเมืองไทย
ซึ่งหนุ่มๆสาวๆในแอพนี้ก็แซ่บๆงานดีน่ากินกันทั้งนั้น ไม่ว่าหนุ่มตี๋ หนุ่มแขก หรือฝรั่งก็มีให้เลือกแมทช์แบบระรานตา ถึงต่อให้เรื่องมากยังไง เราก็เชื่อว่า..ต้องเจอสักคนที่(หน้าตา)ถูกใจแน่ๆ
หรือต่อให้ยังไม่เจอรักแท้จริงๆ อย่างน้อยๆก็เอาไว้เช็คเรตติ้งเรียกความมั่นใจก็ได้นะ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มแบ่งปันวิธีล่าผู้ใน Tinder กันเลยดีกว่า....
ต่อไปนี้จะเป็นแบบจำลองบทสนทนาระหว่างตัวเราเองนะ อย่าถามว่าทำไม? ก็สะดวกแบบนี้อ่ะค่ะ
อาจจะมีคำหยาบคาย ภาษาวิบัติ หรือเรื่องไม่เหมาะสมอื่นๆ แต่จะอ่านก็อ่านไม่อ่านก็ข้ามไป!!
ตัวเองถาม : มาเริ่มเล่น Tinder ได้ยังไง?
ตัวเองตอบ : เมื่อหลายปีก่อน มีเพื่อนแนะนำแอพนี้ให้รู้จัก เพราะมันเพิ่งเปิดตัวและเข้ามาในประเทศไทยได้ไม่นาน ซึ่งตอนนั้นก็โสด โสดเหมือนตอนนี้ จริงก็ๆโสดเหมือนทุกตอนอ่ะค่ะ อิดอก!!!
เพื่อนนางก็บรรยายสรรพคุณของแอพนี้ว่าเล่นแล้วได้ผู้ เพราะพี่ที่ออฟฟิศนางได้มาแล้ว เอาหละสิ..จุ้ยชะนีทั้งหลายหูตาลุกวาวกันเป็นแถบๆ แต่ต้องพยายามวางฟอร์มตีหน้านิ่งทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวเพื่อนจะหาว่าแรดอยากได้ผู้ชายจนตัวสั่น แต่ในใจก็รู้ๆกันอยู่นะคะว่าถ้าแยกย้ายกันแล้วคงรีบโหลดมาเล่นรัวๆ
ข้อดีของ Tinder ที่เราชอบมากที่สุดในตอนนั้น คือ เรารู้สึกถึงการ “เป็นผู้เลือก” เพราะถ้าเราไม่ชอบเราก็ไม่ต้องแมทช์ ไม่เหมือนในชีวิตจริงที่อาจจะมีผู้ชายเข้ามาจีบเรา แต่เราไม่มีสิทธิ์เลือกว่าเราอยากหรือไม่อยากให้เขาเข้ามาจีบ เพราะบางคนเรารู้แน่ๆว่าไม่ชอบ เราไม่อยากคุย ไม่อยากให้เขามาทำความรู้จัก เราก็ต้องบอกปัดบอกปฏิเสธ ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ในที สู้ไม่ต้องรู้จักกันเลยดีกว่า และในอีกทางหนึ่ง คือ เราสามารถเลือกผู้ที่อยากจะรู้จักได้ ถ้าเขาก็สนใจเราเหมือนกันก็แมทช์ แต่ถ้าไม่สนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้รับรู้อยู่แล้ว เราก็ยังเก็บหน้าสวยไว้ปัดหาหนุ่มอื่นๆต่อไป
ตัวเองถาม : แสดงว่าก็เล่น Tinder มานานแล้ว? อย่างนี้เรียกว่าเป็นเซียนเลยได้มั้ย?
ตัวเองตอบ : ไม่ถึงกับเป็นเซียน แต่เป็นเกรียนนี่ไม่แน่5555 เพราะครั้งแรกที่ลองเล่นเมื่อ 3-4 ปีก่อน
ไม่ประสบผลสำเร็จเลย คือก็แมทช์กับผู้เยอะนะ แต่เหมือนเรานั่งคุยกับบอต เจอแต่คำถามเดิมๆ เราก็ตอบแต่เรื่องเดิมๆ บางคนแมทช์มาก็ไม่ได้ชวนคุย เราไม่ทักไปเขาก็ไม่ทักมา นานๆวันเข้าก๋็ไม่มีใครที่เข้าตาอีก สุดท้ายก็หายๆไปไม่ค่อยได้เล่น
ตัวเองถาม : อ้าวแล้วเมิงจะมาเล่าอะไรให้กูฟังคะ? อิเวงงงง
ตัวเองตอบ : ใจเย็นๆ ก็กำลังจะเล่าให้ฟังอยู่นี่ไง แต่ขอนอกเรื่องนิดนึงได้มั้ย?
ตัวเองถาม : เอาจริงๆนี่เมิงยังไม่ได้เข้าเรื่องเลยคะ อิดอก
ตัวเองตอบ : 555 งั้นขอออกไปอีกนิดแล้วกัน ไม่อยากจะอวด
ตัวเองถาม : งั้นไม่ต้องอวด!
ตัวเองตอบ : (อ้าปากค้าง)
ตัวเองถาม : อ้าว เอ๋อแดกเลย มีอะไรจะพูดก็รีบพูด จะได้เข้าเรื่องสักที คนอ่านเขาอยากรู้จะตายห่าแล้ว
ว่าเมิงจะได้ผู้ยังไง อุ้บบบส์ คนอ่านเขาอยากรู้จะแย่แล้วว่าเมิงจะได้ผู้ยังไง?
ตัวเองตอบ : สั้นๆเนอะ คือกุเคยไปปัดทินเดอร์ที่ญี่ปุ่นคร่าาาาา แล้วผู้ชายงานดีมากกกก นิปปอนสุดๆ
ขนาดกุไม่ได้บ้าพี่ยุ่นปี้ กุยังอยากโดนป.เลยค่ะ แบบแมทช์มาเยอะมากกก รู้สึกสวยยยย
ตัวเองถาม : แล้วไง? แต่สุดท้ายเมิงก็ไม่ได้ เขาชวนไปกินพิซซ่าที่ห้องก็ไม่ไป อิโง่!!!
ตัวเองตอบ : เออ ก็กุกลัววววง่ะ แต่เอ๊ะ? ทำไมเมิงรู้
ตัวเองถาม : เพราะกุก็คือเมิงไงคะ ?
ตัวเองตอบ : เออออ..จริงด้วย
ตัวเองถาม : ??
ตัวเองตอบ : ขอบใจ แต่งานดีจริงๆค่ะ คอนเฟิร์ม!!! คุณผู้อ่าน ถ้ามีโอกาสลองไปปัดที่โตเกียวดูนะคะ
แมทช์รัวๆเลยค่ะ แต่ต้องทำใจหน่อยนะคะว่าส่วนใหญ่ที่ได้จะเป็นพวก One night stand
ถ้าเราไม่ใช่เวย์นี้ก็ไม่ต้องคุยต่อค่ะ แต่ถ้าโชคดีก็อาจจะได้ไกด์ท้องถิ่นมานำเที่ยวนะคะ
ตัวเองถาม : จะเข้าเรื่องได้หรือยัง?
ตัวเองตอบ : ก่ะดั้ยๆ เข้าเรื่อง..หลังจากห่างหายวงการ Tinder ไปนาน เพราะเจอแต่พวกนัดยิ้ม เราก็รู้สึกท้อแท้หมดหวังกับคนบนอินเตอร์เน็ต แต่ยังไม่หมดหวังกับความรักนะคะ ก็เลยออกล่าผู้ในที่ทำงานแทน 555+ และเพราะเปลี่ยนงานเลยได้รู้จักกับคนใหม่ๆ ผู้ชายตัวเป็นๆเนื้ออุ่นๆได้เห็นหน้าค่าตา ได้พูดคุยทำความรู้จัก เราเลยเชื่อว่าเขาคงจะจริงใจกับเรามากกว่าผู้ชายที่อยู่ในโลกเสมือนจริง
ตัวเองถาม : คุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่?
ตัวเองตอบ : ถ้าคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คุณณณณ..คิดผิดค่ะ!!!
ตัวเองถาม : จ้อจี้ป่ะ??? มันใช่เวลามั้ย??
ตัวเองตอบ : ก็เมิงเล่นก่อนเองน้าาา
ตัวเองถาม : ก็จะบอกว่าทำดีมาก ✋?
ตัวเองตอบ : ??
ตัวเองถาม : กุว่าเราจะนอกเรื่องอีกแล้วหวะ แต่เรื่องนี้มันต้องขยาย..คิดอย่างนั้นมั้ย B2
ตัวเองตอบ : เราก็คิดอย่างนั้นแหละ B2
ตัวเองถาม : งั้นเราขอนอกเรื่องอีกสักครั้งนะคะ คุณๆผู้อ่าน (มั่นใจมากว่ามีมากกว่าหนึ่งคน)
ตัวเองตอบ : (หรอออออ?) (ในวงเล็บคือความคิดในใจ...ห้ามด่า)
ตัวเองถาม : ??????ไม่ต้องมาวงเล็บกับกุมั้ย? เมิงจะคิดในใจนอกใจ..ยังไงกุก็รู้หมดค่ะ
ตัวเองตอบ : ??? (อิ่มตีน)
ตัวเองถาม : เดี๋ยวต่อจากนี้เราขอเล่าเองนะคะ ก่อนจะเม้าเรื่องผู้ในออฟฟิศ ผู้อ่านลองคิดภาพตามก่อน
ว่าเรานี่หน้าตาแบบค่าเฉลี่ยๆทั่วไป เป็นสาวหมวย ไซส์M ไม่เล็กไม่ใหญ่ ถ้าไม่แต่งหน้าก็
เหมือนเต้าหู้ยี้ดีๆนี่เอง แต่ถ้าแต่งหน้าบวกกับจริตตั่งต่างก็พอจะพาไปวัดไปวาได้อยู่ค่ะ
เรื่องของเรื่อง คือ เราเป็นพนักงานใหม่ที่มีความเฟรนลี่เป็นอาวุธ หลังจากเราเข้าไปทำงานได้ไม่นานก็มีกิจกรรมกีฬาสีของแผนก เราถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ ไม่ใช่เพราะความสวยแต่อย่างใด มันมาจากลีลาล้วนๆ คือเต้นได้รั่วมากนั้นเอง เรียกได้ว่าโดดเด่นแบบที่ไม่มีใครอยากเอาเป็นเยี่ยงอย่างเลยทีเดียว แต่เพราะเหตุการณ์นี้จึงทำให้เรามีโอกาสได้คุยกับรุ่นพี่อีกทีมที่เราหมายตาไว้อยู่ค่ะ เขาเข้ามาทักเรื่องการเต้นของเรา เราเลยพูดจากวนๆตอบกลับไปและก็ชวนคุยไปเรื่อย จนสุดท้ายเขาก็ขอไลน์เราค่ะ (ตอนนั้นคืออยากกรี้ดมากแต่ต้องเก็บอาการไว้ สวยๆๆ) เกิดมาไม่เคยเจอผู้ชายที่ชอบขอไลน์ก่อนหลังจากวันนั้นเราก็ไลน์คุยกันตลอด เผอิญว่านั่งอยู่คนละห้องเลยได้เห็นหน้ากันบ้างแบบผ่านๆ
คุยกันมาได้เกือบอาทิตย์ เราก็ได้กลิ่นแปลกๆค่ะ คือเขาก็พูดนะคะว่าจะจีบ แต่ช่วงเย็นๆเขาจะหายไปค่ะ ตอบไลน์ไม่สม่ำเสมอ เราคอลไปก็ไม่รับ จนสุดท้ายเราก็ได้รู้ความจริงว่า...พี่เขามีแฟนอยู่แล้ว
เราก็เลยเลิกคุย ผู้ชายแบบนี้ไม่น่าลดตัวลงไปยุ่งด้วยหรอกค่ะ ที่สำคัญสงสารผู้หญิงด้วยกันเอง
ระหว่างที่เรื่องของพี่คนแรกค่อยๆจางไป เรื่องของพี่คนที่ 2 ก็เริ่มขึ้นค่ะ คนนี้ไม่ได้หล่อเท่าคนแรกนะคะ เห็นหน้าซื่อๆ + พฤติกรรมบางอย่าง เราก็เลยไว้ใจ แต่สุดท้ายเราก็จับได้อีกว่า..เขามีแฟนอยู่แล้ว
(เรื่องของพี่คนนี้ก็เด็ดค่ะ เป็นความบังเอิญแบบที่นึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในละครอะไรสักเรื่องแน่ๆ)
พี่คนที่ 2 ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนที่ 3 ตามเข้ามาอีก ซึ่งคนนี้ก็มีแฟนอยู่แล้ว....แต่เขาก็เข้ามาดูแล
เทคแคร์เหมือนพี่ชายที่แสนดี เรายอมรับว่าก็ชอบเขาเหมือนกันนะคะ พยายามหักห้ามใจตัวเองตลอด
กว่าจะทำใจได้ก็นานอยู่ค่ะ แต่ชีวิตต้อง Move on ก้าวต่อไป...
และนี่ก็เป็นทีเซอร์สั้นๆของหนังไตรภาคเรื่องผู้ชายในที่ทำงาน..ก่อนจะลากันไปในช่วงนี้
เราขอฝากคำคมให้กำลังใจผู้อ่านที่กำลังท้อแท้หรือเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ว่า
“อย่าทุกข์ใจไปเลย เมืื่อเราเจอคนที่เหี้ย พระเจ้ามักจะส่งคนที่เหี้ยกว่ามาให้เสมอ”
ข่อมคุณค่ะ
(ไว้จะเขียนรายละเอียด + How to จิกผู้ในที่ทำงานมาแบ่งปันผู้อ่านอีกทีนะคะ จริงๆเรานี่เป็นตัวแม่ของเรื่องนกๆเลย แต่แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยนค่ะ)
ตัวเองถาม : และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กลับมาเล่น Tinder อีกครั้ง?
ตัวเองตอบ : ใช่ค่ะ จากเรื่องราวที่เจอมาในชีวิตจริง เราก็เข้าใจว่า..ไม่ว่าจะโลกของความเป็นจริง หรือโลกอินเตอร์เน็ต ก็มีทั้งคนดีและไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเราอย่าปิดโอกาสตัวเองค่ะ
เผอิญเป็นคนโลกสวยและไม่กลัวเจ็บ เลยเชื่อว่า “ยังไงความรักดีๆก็ต้องมีให้คนที่มองหาเสมอ”
แม้มันอาจจะต้องผ่านบททดสอบเล็กๆน้อยๆบ้าง ก็ถือว่าเป็นอรรถรสกันไปนะคะ!!!
ตัวเองถาม : แล้วครั้งนี้มั่นหน้ามั่นโหนกแค่ไหนว่าจะไม่โดนหลอกอีก?
ตัวเองตอบ : ไม่แน่ แน่
ตัวเองถาม : ไม่โดนหลอกแน่ แน่?
ตัวเองตอบ : ไม่รอดแน่ แน่
ตัวเองถาม : ผ่ามมมมมม!!!
ตัวเองตอบ : โอ้ยยย..เมิงจะเอาอะไรมามั่นใจ กุโดนหลอกจนไม่รู้ว่าทุกวันนี้จะกินข้าวหรือกินหญ้าดี
แต่มันก็ไม่มีอะไรจะให้เสียไปมากกว่านี้แล้วมั้ย?
อย่างน้อยๆครั้งนี้เราก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมก่อนแล้ว..ว่าเราจะเจอคนหลากหลายประเภท
มีทั้งเหี้ยและดี ดังนั้นเราควรจะต้องมีวิจารณญาณให้มาก แต่ไม่ถึงกับต้องพารานอยด์กันไปก่อน
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่ถ้าเรามีจุดยืนที่แน่วแน่และมั่นคง เราจะรอดและผ่านมันไปได้
ตัวเองถาม : เอาตรงๆ ฟังแล้วมันก็สวยหรูดีนะ..แต่-ไม่-เข้า-ใจ
ตัวเองตอบ : โอเค เอาเป็นว่าครั้งนี้เรามีทัศนคติและวิธีการเล่น Tinder ที่เปลี่ยนแปลงไป
1. เราไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยว่า..เราต้องได้เจอผู้ชายดีๆเป็นรักแท้ที่ตามหา แต่เราแค่หวังว่าจะโชคดีพอ
2. เราต้องมีจุดยืนที่แข็งแรง คือ เขียนลงไปในโปรไฟล์เลยว่าเราต้องการอะไร ความสัมพันธ์แบบไหน
เช่น ฉันกำลังมองหาความสัมพันธ์ระยะยาว หรือ ความสัมพันธ์ที่จริงจัง!!!
จะให้มีลูกเล่นหน่อย ก็อาจจะเป็น I’m looking for someone who wanna spend everyday together Not only one night (ฉันกำลังมองหาคนที่ต้องการอยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ใช่เพียงแค่คืนเดียว)
การประกาศอย่างนี้จะเป็นตัวช่วยคัดกรองคนที่มีจุดประสงค์ไม่เหมือนเราออกไปได้
และไม่ต้องกังวลว่าเราจะแมทช์น้อยนะคะ เพราะถึงจะน้อยแต่ก็มีคุณภาพ(ในระดับนึง)
3. เราต้องจำไว้ว่า การรู้จักกันบนโลกอินเตอร์เน็ต เป็นการรู้จักที่ผิวเผินมากๆ ดังนั้นเขาจะหาย
เขาจะเท หรือเขาจะไม่ตอบเราเมื่อไหร่ก็ได้ มันเป็นเรื่องปกติ ธรรมดามากๆ เราไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกนะคะ ที่ผ่านมาคุณทำดีแล้ว ในทางกลับกันเราก็อาจจะหายหรืออยากจะเทใครสักคนขึ้นมาเฉยๆก็ได้ มันเป็นกติกาที่เราควรรู้ตั้งแต่แรก เราจะได้ไม่ตีโพยตีพาย ถ้าใครสักคนบน Tinder จะหายไป...
ที่สำคัญไม่ต้องรอหรือตามเขากลับมานะคะ ให้เราเดินหน้าต่อได้เลย
และนี่ก็เป็น MindSet เริ่มต้นที่เราเชื่อว่าทุกคนควรจะรู้และเข้าใจก่อนเริ่มเล่น Tinder
เพราะไม่แน่ LOVE ME Tinder อาจจะเท่ากับ LOVE ME Tender ก็ได้
Next Episode : การเลือกรูปโปรไฟล์ การเลือกแมทช์ผู้ชาย และการเริ่มต้นบทสนทนา
ปล.อยากจะพูดคุยหรือสงสัยอะไรก็เม้นถามได้เลยนะคะ จะด่าก็ได้แต่อย่าแรงนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in