(อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องมีสองมื้อ รสชาติใช้ได้ทีเดียว เราชอบกินอาหารชุดในเครื่องบินมาก ไม่รู้ทำไม)
(มีไอศกรีมวานิลลาให้กินด้วย)
- ตอนเครื่องบินจอด กัปตันเบรกนิ่มมากจนทุกคนในเครื่องปรบมือให้ (ไม่รู้ว่าคนรัสเซียปรบมือแบบนี้กับทุกการนั่งเครื่องบินหรือเปล่า)
- พอถึงสนามบิน ตามหากระเป๋าเสร็จปุ๊บก็เดินตามป้ายที่เขียนว่า Aeroexpress (คนละ 500 ₽) เพื่อนั่งรถไฟจากสนามบินเข้าเมือง เมนูมีภาษาอังกฤษให้ กดตามคำบอกไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเลือกสถานีเพราะมีให้ลงป้ายเดียวที่สถานี Belorusskaya (Белору́сская) ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงในการเดินทาง
(วิวระหว่างนั่ง Aeroexpress)
- จากนั้นนั่งเมโทร (รถไฟใต้ดิน) จาก Belorusskaya ไปลง Mayakovskaya (Маяковская) เพื่อไปเก็บของที่บ้านพัก สถานีเมโทรในมอสโควจะไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษเลย ดังนั้นเตรียมหาข้อมูลไปดี ๆ ว่าต้องลงที่ไหนบ้าง ถ้าอ่านตัวหนังสือออกด้วยยิ่งดี การดูว่าไปสถานี X ต้องขึ้นรถไฟฝั่งซ้ายหรือขวาจะมีบอกไว้ในป้ายบนหัวตรงทางลงไปชานชาลา ทุกชื่อเป็นภาษารัสเซีย
(ที่มอสโควจะมีอนุสาวรีย์แบบนี้เต็มไปหมดเลย มีอนุสาวรีย์โฮล์มส์กับวัตสันด้วย แต่เราไม่ได้ไป)
(Moscow City Duma; สภาดูม่าของท่านปูติน)
(สัญลักษณ์แบบนี้บอกตำแหน่งสถานีเมโทร)
- บัตรเมโทร/บัส/รถราง/รถแทรมของที่นั่นใช่รวมกันในใบเดียว ซื้อเป็นเที่ยว ๆ (มีตั้งแต่หนึ่งเที่ยว สองเที่ยว จนถึง 20 เที่ยว ยิ่งซื้อรอบเยอะ ราคาจะยิ่งถูก แบบ 20 เที่ยวตกเที่ยวละ 55 ₽ เองถ้าจำไม่ผิด) สะดวกมาก ๆ
- พอเข้าที่พัก เก็บของเรียบร้อย ก็ออกจากบ้าน นั่งบัสไปสี่ป้าย ลงที่ Red Square
- ในรูปคือสองทุ่มแล้ว! ที่นี่มืดช้ามาก เดินเที่ยวต่อได้สบาย ๆ ช่วงนี้คือหน้าร้อนของรัสเซีย คืนนี้อากาศสิบองศากว่า ๆ เสื้อหนา ๆ อุ่น ๆ ซักตัวก็อยู่แล้ว แต่ถ้าขี้หนาวเตรียมไปเยอะกว่านี้หน่อยก็ได้เพราะลมแรงมาก พัดทีก็หน้าชาวูบอยู่เหมือนกัน
- ที่ Red Square จะมีแบบในรูป คือพวกที่แต่งคอสตูมอลังการ ๆ แล้วมาชวนคนที่ท่าทางดูเป็นนักท่องเที่ยวถ่ายรูป เขาจะมีช่างกล้องพร้อมเลย อย่าหลวมตัวไปถ่ายด้วยเด็ดขาดถ้าไม่อยากเสียเงินแพง ๆ ให้เขา ถ้าไปถ่ายรูปกับเขา เสร็จแล้วจะโดนตามตื๊อให้จ่ายเงินตั้งแต่ 500-5000 ₽ พี่ที่ทำงานที่นั่นเล่าให้ฟังว่าเคยมีเพื่อนมาเที่ยว ตอนแรกก็กำชับแล้วว่าอย่าไปถ่ายรูปด้วยเด็ดขาด แล้วพี่เขาก็ขอตัวไปทำธุระ พอเดินกลับมาคือเพื่อนกำลังทำท่าซารางเฮโยกับหนึ่งในแก๊งนั้นเลย เสร็จปุ๊บก็โดนตื๊อให้จ่ายเงินตามระเบียบ ทีแรกถ่ายกับแค่สตาลิน แต่ไป ๆ มา ๆ เลนนงเลนนินก็เดินมาหมด บางทีแค่พอสบตาเขาจะเดินเข้ามาหาแล้วจับตัวเราเลย ดังนั้นถ้าเจอก็อยู่ห่าง ๆ ดีกว่า
- แถว ๆ นั้นจะมีห้างอยู่ ใครที่คิดจะมาซื้อรองเท้าที่นี่ก็ขอบอกเลยว่าราคาเดียวกับไทยนี่แหละ แต่มีแบบให้เลือกเยอะกว่า
- เดินต่อไปข้างใน เห็น Saint Basil's Cathedral โบสถ์ที่คนไทยเรียกกันว่าโดมคัพเค้ก/หัวหอม ตอนนั้นแสงส่องมาที่หัวหอมพอดี สวยมากกกก
(ไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะตอนนั้นปิดแล้ว เขาเปิดตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 17.00 น. ปิดวันอังคาร)
- ข้าง ๆ จะมีห้าง Gum (ГУМ) ห้างปิดสามทุ่ม เดินเข้าไปซื้อไอศกรีมกิน ราคา 50 ₽ รสชาติก็ไม่ได้อร่อยอะไร หวาน ๆ นม ๆ
(ตึกที่ติดไฟเยอะ ๆ ด้านหลังคือ Gum)
- ออกจากห้าง เดินต่อไปเมโทร ระหว่างทางผ่านสุสานเลนนินด้วย
(มีคนมาถ่ายรูปงานแต่ง)
- พอเดินไปถึงเมโทร เจอผู้ชายยืนร้อง Creep เปิดหมวกอยู่ด้านหน้า วันนี้ใส่เสื้อที่สกรีนลายว่า but i'm a creep, i'm a weirdo มาพอดี อยากเดินไปชี้เสื้อให้ดู แต่ว่าไม่กล้า 5555
- ต่อไปคือการไปเที่ยวดูเมโทรที่โด่งดังของรัสเซีย เมโทรที่นี่เค้าสวยจริง ๆ แต่ละสถานีตกแต่งไม่เหมือนกัน มีธีมแตกต่างกันไป เพิ่งเข้าใจที่ในเว็บนำเที่ยวบอกว่าเมโทรเขาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคือเพราะแบบนี้เอง ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูปเพราะเป็นทางผ่าน แต่คือมาเพื่อดูการตกแต่งของสถานีเลย ส่วนใหญ่แล้วดัดแปลงมาจากหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลก บางสถานทีเลยลึกมาก ๆ
- สถานี Park Pobedy (Парк Победы) ที่เป็นสถานีที่ลึกที่สุดของมอสโคว (อันดับ 3 ของโลก) ตอนขึ้น-ลงบันไดเลื่อนนี่หวิวเล็กน้อย ยืนนานมากกกก รู้สึกเหมือนเลื่อนไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงที่หมายซะที ถ่ายวิดีโอไว้ด้วยนิดหน่อย >>
จิ้ม
- จากนั้นนั่งเมโทรต่อไปดูประตูชัย Triumphal Arch of Moscow กับอนุสาวรีย์อะไรซักอย่าง 555555 ตอนนี้ราว ๆ สี่ทุ่มแล้ว เบลอมาก ไม่ได้นอนเลย
- ความพีคอย่างนึงที่เจอคือ ตอนกำลังจะเดินออกจากเมโทร ลมแรงมากระดับพัดประตูเหล็กของเมโทรเปิด เดินออกได้แบบไม่ต้องสัมผัสประตู
- ชอบสกีมสีของรัสเซียมาก เอะอะอะไรก็แดงไว้ก่อน สีบ้านเมืองส่วนใหญ่จะ ดำ/เทา แล้วก็มีแดงแซมนิดหน่อย น่ารักดี พวกศิลปะก็เน้นครอบครัวและพลังของแรงงาน ก็คอมมิวนิสต์นี่นะ 5555
(Peking Hotel เดินผ่านเฉย ๆ ไม่ได้นอนที่นี่ 555)
- สุดท้ายเดินทางกลับที่พัก อาบน้ำ แล้วนอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in