อยู่ๆก็นึกถึงหนังเรื่อง fan day ขึ้นมา
หนังที่มีกลิ่นไอของความรัก "ที่เกือบจะสมหวัง"
ตอนนั้นยังไม่ได้อินกับหนัง แต่ที่ชอบคือ บรรยากาศ
ระหว่างหิมะที่ขาวโพลน กับ คนรักที่ดูเย็นชา
ไม่รู้จริงๆว่าอย่างไหนทำให้รู้สึกหนาวมากกว่ากัน
ว่ากันว่า "Love at first sight" เกิดจากการทำงานของสมอง
ที่มีการหลั่ง dopamine adrenaline serotonin ออกมา
ทำให้ใจเต้นแรง มีเรี่ยวแรงมากกว่าปกติ ต่อมอยากทำความดีทำงานรัวๆ
อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนคนเดิม ซ้ำๆ ได้เรื่อยๆ
และอาการจะดีขึ้นเมื่อผ่านไป 1 ปี /2 ปี
และยังไม่มีใครสรุปได้ว่าท้ายที่สุด เราจะหยุดตกหลุมรักได้จริงๆเมื่อไร
ย้อนกลับมาดูที่ตัวเอง
นานแล้วนะที่ไม่ได้รู้สึกว่าตกหลุมรักใคร
จนวันที่ 15-3-62 เวลา 16 กว่าๆ ตอนที่เธอเปิดประตูรถขึ้นมา
รู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ใจเต้นแรง และตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
แปลกใช่มั้ยหละ วันนั้นเธอไม่ได้แต่งหน้าเลยสักนิด และอยู่ในสภาพพร้อมนอน
แต่เรากลับรู้สึกว่าเป็นภาพที่สวยงามอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
ตลอดระยะทางกว่า 900 km เราไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย
บ่อยครั้งที่เราแอบมองเธอ ทั้งในตอนหลับ ตอนตื่น ตอนรถติด
มันบรรยายเป็นคำพูดยากมากเลยนะ ว่าทำไมเราถึงตกหลุมรักเธอ ในช่วงเวลาแบบนั้น
จากกันเจอกันครั้งแรก ที่แค่รู้สึกดี จนตอนนี้กลายเป็นรู้สึก "รัก"
ได้ใช้เวลาร่วมกัน 3 วัน
สำหรับเรา 3 วันนี้เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากจริงๆ
มีค่ามากจนเรากลัวว่า
ถ้าเราตื่นขึ้นมาอีกวัน
เรื่องของเมื่อวานจะหายไป
เรื่องของเมื่อวานมันเกิดขึ้นจริงๆใช่มั้ย
แล้ววันนี้ที่เราตื่นขึ้นมา
เราจะยังมีเธออยู่ตรงนี้เหมือนเมื่อวานรึป่าว
ถ้ามันจะเป็นเหมือนในหนังเรื่อง fan day
อย่างน้อย ระยะเวลาแฟนเดย์ของเราก็นานกว่า
อย่างน้อย เราก็ได้ทำทุกอย่างที่เราอยากทำกับเธอแล้ว (ถึงมันจะไม่ทั้งหมดก็เถอะ)
และเราก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอเป็นคนที่มีความหมายมากมายสำหรับเรา
เราอยากให้ทุกๆวันต่อจากนี้ไปยังเป็น
Fan day นะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in