เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ข้อความสั้น จากฉันถึงเธอJ A R O
หากได้เจอกันอีก
  • ตั้งแต่เล็กจนโต
    ฉันไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน
    เพราะแม่เคยบอกไว้
    "แมวมันอึเหม็นฉี่เหม็น เลี้ยงหมาดีกว่า"

    ตอนนั้นฉันได้แต่นึกสงสัยว่า
    กลิ่นมันจะต่างกันอย่างไร
    ในเมื่อก็เป็นของเสียด้วยกันทั้งคู่

    จนวันหนึ่ง
    มีสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ วิ่งตัดหน้ารถฉัน
    เพื่อข้ามฟากไปยังบ้านหนึ่ง

    ฉันจึงรีบจอดรถลงไปดู
    โล่งอก..​ฉันไม่ได้ชนลูกแมวตัวนั้น

    มันเป็นแมวลายสลิด หน้าตาขี้โรค
    มีแต่ขี้ตาเต็มไปหมด
    แต่ดูมีพุงน้อย ๆ ให้พอฟัดได้

    ฉันบอกว่าอย่าทำแบบนี้นะมันอันตราย
    มันเอียงคอมองฉัน ก่อนจะกระโดดเข้าใส่
    นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองอุ้มลูกแมว

    ช่างตัวนุ่มนิ่ม น่าเอ็นดู
    ขนนุ่ม กลิ่นปากหอมน้ำนม

    มันอ้อน มันซุก และยอมนอนหงาย
    ให้ฉันก้มลงไปฟัดพุงนุ่ม ๆ ๆนั่นได้

    ก่อนที่เจ้าของบ้านจะเดินออกมา
    เขาทักทายฉันอย่างเป็นมิตร
    ชวนคุยเรื่องแมวจิปาถะ

    "บ้านลุงนะ มีแมวจรมาคลอดทิ้งไว้เยอะเลย
    ดูสิ มีเป็น 20 ตัวเเล้ว ลูกแมวเป็นโหล
    ถ้าถูกใจตัวไหน เอาไปได้เลยนะ ลุงยกให้
    อาทิตย์ที่ผ่านมา โดนรถชนไปหลายตัวเลย
    เพราะบ้านอยู่ติดถนนด้วยแหละ
    ลุงก็ช่วยได้เท่าที่ช่วย"

    วินาทีนั้น ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ฉันตบปากรับคำ
    ว่าจะรับเลี้ยงดูเจ้าตัวนุ่มนิ่มนี่เอง

    จากจะขับรถกลับบ้าน
    กลายเป็นไปจบที่คลินิกสัตว์

    พามาเช็กและตรวจร่างกาย
    พอคุณหมอบอกว่าน้องเเข็งแรงดี
    ฉันก็เลยพาเจ้าตัวเล็กไปซื้อของ

    เราอยู่ด้วยกันมา 7 เดือน
    ให้ชื่อน้องว่า "จ๋อย"
    โดยมีที่มาจากตัวน้องเอง
    ที่ตัวเล็กตัวน้อย หน้าตาขี้โรค
    ดูจ๋อย ๆ ฉันเลยตั้งให้
    ตามลักษณะของน้อง

    จ๋อยเป็นแมวรักสงบ
    ไม่เคยทำลายข้าวของ
    ชอบอ้อน ชอบนั่งมอง
    เป็นแมวที่เป็นมิตรกับทุกคน

    หลังจากรักษาตาที่อักเสบและมีแต่ขี้ตา
    ก็เผยดวงตากลมโต สีเขียว
    พุงน้อย ๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้น
    ทั้งนุ่มนิ่ม ขนฟูหอม
    ชอบนอนหงายให้ฟัดพุง

    จ๋อยเป็นกำลังใจให้ฉันมีแรง
    ไปทำงานในทุกวัน
    เวลากลับมาถึงบ้าน จ๋อยจะนั่งรอ
    ตรงหน้าประตูทุกวัน

    แต่แล้ว.. ในคืนนั้น
    มันเป็นความผิดของฉันเอง
    ที่ปิดประตูไม่สนิท

    เป็นความผิดของฉันเอง
    ที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไป

    คืนนั้น.. ฉันนั่งทำงานถึง ตี 3
    เป็นคืนที่เหนื่อยล้ามาก
    ปวดตา.. ปวดหัว.. ปวดขมับ

    เดินไปที่เตียงแทบไม่ไหว
    ทำได้แค่ย่อนร่างลงโซฟาข้าง ๆ โต๊ะทำงาน
    ฉันหลับไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ปิดคอม ปิดไฟ

    และพอรู้ตัวตอนเช้าอีกที
    ฉันก็ไม่เจอจ๋อยแล้ว
    ไม่ว่าจะเรียกหาเท่าไหร่
    ก็ไม่มีขาเล็ก ๆ วิ่งออกมาหา

    ฉันโทรไปลางานทันที
    ฉันรีบวิ่งออกบ้าน
    ตะโกนหาสุดเสียง เดินจนทั่วหมู่บ้าน
    ทำทุกวิธี ทำทุกอย่าง
    ขอเพียงได้เจอกันอีกครั้ง
    จะไม่มีวันให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

    ฉันออกตามหาทุกช่วงเวลา
    เช้า กลางวัน เย็น กลางดึก
    ปริ้นท์ใบโปสเตอร์แปะทุกบริเวณ
    หาแม้กระทั้งนอกหมู่บ้าน
    แต่ไร้ซึ่งวี่แวว..


    และนั่นเป็นวันสุดท้ายที่ฉันอยู่กับจ๋อย
    เป็นคืนที่หลอกหลอนฉัน
    เป็นคืนที่ฝันวนอยู่ซ้ำ ๆ ถ้าหากวันนั้น
    ฉันตรวจเช็กในบ้านให้ดี
    ถ้าหากเรียกหาน้องก่อนนอนสักหน่อย

    ...

    ฉันไม่เคยเผื่อใจ ไม่เคยทำใจ
    ได้เลยสักวัน
    ตอนนี้ผ่านมา 10 เดือนแล้ว
    ฉันยังหวังในทุกวัน
    ว่าเราจะได้เจอกันอีก
    ยังหวัง
    ว่าจ๋อยจะกลับมา

    ...

    หากได้เจอกันอีก
    ฉันขอแค่
    ได้เจอกันอีก







     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in