เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Radar mountain nightKaweesiri Tarabphet
วันที่หนึ่งครอบครัว
  • ซิกเป็นเด็กสาววัย 20 ปี ที่มีชีวิตชีวาและซุกซน เธอชื่นชอบการปีนเขาและการผจญภัยอย่างมาก ครอบครัวของเธอสนับสนุนในสิ่งที่เธอรัก และมักจะไปปีนเขาด้วยกันในช่วงวันหยุดเสมอ


    "ซิก! วันนี้แม่ทำสปาเก็ตตี้ที่ลูกชอบนะ" แม่ของซิกพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่เตรียมอาหารในครัว

    "เย้! ขอบคุณค่ะแม่ หนูหิวมากเลยวันนี้" ซิกตอบด้วยเสียงสดใสและวิ่งเข้าครัวมากอดแม่

    พ่อของซิกยิ้มและพูดว่า "ซิก วันนี้พ่อมีที่ปีนเขาใหม่ๆ มาแนะนำ สนใจไปดูไหม?"

    ซิกตาเป็นประกาย "จริงเหรอพ่อ! หนูอยากไป! ที่ไหนเหรอคะ?"

    พ่อหัวเราะ "ภูเขาเรดาร์ไงล่ะ เห็นว่ามีวิวสวยมากๆ เลย"

    ซิกดีใจมาก "หนูอยากไปปีนที่นั่นจังเลยค่ะพ่อ! หนูรักการปีนเขามากๆ!"


    วันหนึ่งซิกตัดสินใจไปปีนเขาคนเดียว เธอตื่นเต้นและเตรียมตัวอย่างดี สวมรองเท้าปีนเขาคู่โปรด และสะพายเป้ที่มีขนมและน้ำไว้เต็มกระเป๋า

    เมื่อถึงภูเขาเรดาร์ ซิกมองขึ้นไปยังยอดเขาและพูดกับตัวเองว่า "วันนี้จะเป็นวันที่ยอดเยี่ยมแน่ๆ!" แล้วเธอก็เริ่มปีนเขาด้วยความมั่นใจ

    "วิวที่นี่สวยจริงๆ เหมือนพ่อบอกเลย" ซิกพูดกับตัวเองขณะปีนขึ้นไปเรื่อยๆ

    "ต้องถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย" เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปวิวทิวทัศน์รอบๆ ด้วยรอยยิ้ม

    "ถ้าแม่มาเห็นคงต้องบ่นแน่ๆ ว่าทำไมหนูไม่พาแม่มาด้วย" ซิกหัวเราะเบาๆ ขณะนึกถึงแม่


    ขณะที่ซิกปีนขึ้นไปใกล้ถึงยอดเขา เธอเริ่มรู้สึกเหนื่อยและพลาดเหยียบหินก้อนหนึ่งที่ไม่มั่นคง ร่างของเธอเสียหลักและลื่นตกลงไป

    "โอ๊ย!" เสียงกรีดร้องของซิกดังก้องไปทั่วบริเวณ ขณะที่เธอล่วงลงมาตามเนินเขา

    ................

    เสียงทุกอย่างเงียบลง ซิกนอนนิ่งอยู่ที่พื้นด้านล่าง ร่างกายของเธอไม่ไหวติง เธอจากไปด้วยความฝันและความรักที่เธอมีต่อการผจญภัย

    ความทรงจำของเธอยังคงอยู่ในใจของครอบครัวและการปีนภูเขาที่เธอรัก แต่วันนี้เป็นวันที่การผจญภัยของซิกสิ้นสุดลง


    ในช่วงเช้าของวันที่หนึ่งก่อนซิกจะต้อวไปเกิด หลังจากที่โรมสดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องของตัวเอง หัวใจเต้นแรงและเหงื่อไหลพราก

    “นี่มันอะไรกัน” โรมพูดกับตัวเองขณะพยายามรวบรวมสติ

    เขาเพิ่งเห็นภาพความทรงจำที่ไม่ใช่ของเขา ความทรงจำของซิกที่เต็มไปด้วยความสุขและการผจญภัย มันเหมือนเขาได้เห็นชีวิตของซิกตั้งแต่ยังเด็กจนถึงวันที่เธอเสียชีวิต

    “ซิก... ฉันเห็นชีวิตเธอทั้งหมดเลยเหรอเนี่ย” โรมพึมพำ เขาเริ่มตระหนักได้ว่าความใกล้ชิดกับซิกทำให้ความทรงจำของพวกเขาสื่อถึงกัน

    เขานั่งอยู่บนเตียง มองออกไปนอกหน้าต่างที่แสงอาทิตย์เริ่มส่องเข้ามา เขารู้สึกทั้งเศร้าและสับสน แ

    “เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” โรมพูดกับตัวเอง ขณะที่หยิบโทรศัพท์มาดูรูปวิวภูเขาเรดาร์ที่เขาเคยถ่ายถ่ายไว้

  •  โรมตัดสินใจพาซิกไปยังบ้านเกิดของเธอ เพราะวิญญาณจะไปไหนไม่ได้ถ้าไม่มีคนเชิญไปหรือมีคนนำทาง ซิกเป็นคนบอกทาง โรมขับรถไปตามคำแนะนำของซิกจนถึงบ้านที่ซิกเคยอาศัยอยู่

    ระหว่างทาง โรมสังเกตเห็นว่าซิกเงียบไปมากกว่าปกติ เขาเหลือบมองซิกผ่านกระจกข้าง เห็นเธอนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

    "เธอโอเคไหมซิก?" โรมถามเบาๆ

    "เราก็แค่คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่และน้องสาว" ซิกตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า

    "ฉันเข้าใจนะ มันคงยากที่จะกลับไปที่บ้านหลังจากที่จากมาเป็นเวลานาน" โรมพูดอย่างอ่อนโยน

    "ใช่ เราไม่ได้กลับไปที่นั่นตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น" ซิกพึมพำ

    "เธอเคยเล่าให้ฉันฟังว่าเธอชอบปีนเขามากใช่ไหม?" โรมพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้ซิกอารมณ์ดีขึ้น

    "ใช่ เราชอบปีนเขามาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นอิสระ ชอบความท้าทายและวิวที่สวยงามบนยอดเขา" ซิกพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆ

    "ฟังดูสนุกนะ ฉันเคยลองปีนเขาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้เก่งเหมือนเธอหรอก" โรมหัวเราะ

    "เราคิดว่าเธอก็เก่งนะโรม แค่ต้องมีใจรักและความกล้าที่จะลุยไปข้างหน้า" ซิกพูดด้วยเสียงเบาๆ

    เมื่อพวกเขามาถึงบ้านที่ซิกเคยอาศัยอยู่ โรมจอดรถและทั้งสองคนลงไปยืนมองบ้าน ซิกมองบ้านด้วยความรู้สึกหลากหลาย "บ้านของเราเปลี่ยนไปมากเลย"

    เมื่อพวกเขายืนมองบ้านของซิกจากข้างนอก ซิกเห็นพ่อแม่และน้องสาวเดินออกจากบ้าน ซิกอยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ทำไม่ได้ แต่พ่อแม่รู้สึกเหมือนมีลมอุ่นๆพัดผ่าน

    "ถ้าลูกอีกคนเรายังอยู่ ป่านนี้คงอยากให้เราทำสปาเก็ตตี้ให้กินแน่ๆเลย เพราะซิกชอบกินสปาเก็ตตี้มาก" พ่อของซิกพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ

    ซิกน้ำตาไหล "เราคิดถึงพ่อแม่มากๆ แต่แค่นี้เราก็มีความสุขแล้วที่ได้เห็นพวกเขายังสบายดี"

    ขณะที่โรมยืนข้างซิก เขาสังเกตเห็นว่าครอบครัวของซิกกำลังมองมาทางเขาอย่างสนใจ พวกเขาเดินเข้ามาใกล้ และแม่ของซิกทักทายโรมด้วยความสุภาพ

    “สวัสดีค่ะ คุณเป็นใครหรือคะ” แม่ของซิกถาม

    “สวัสดีครับ ผมชื่อโรมครับ ผมเป็นเพื่อนของซิกครับ” โรมตอบอย่างอ่อนโยน

    พ่อของซิกยิ้มและกล่าว “บ้านนี้มีเรื่องราวมากมาย ลูกสาวของเราก็เคยอยู่ที่นี่ เธอจากไปนานแล้ว แต่เรายังคิดถึงเธอเสมอ”

    โรมยิ้มแห้งๆและตอบ “ เธอเป็นคนที่พิเศษมาก บังเอิญผมผ่านมาแถวนี้แล้วนึกถึงเธอเลยผ่านมาดูครับ”

    พ่อของซิกพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ขอบคุณที่มาที่นี่และระลึกถึงลูกสาวของเรา มันมีความหมายมากสำหรับพวกเรา”

    แม่ของซิกหันไปมองโรมด้วยความสนใจ "คุณโรม มื้อนี้เราทำอาหารเยอะเลย อยากเชิญคุณมากินข้าวด้วยกันนะคะ"

    โรมลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้า "ขอบคุณครับ ผมยินดีมาก"

    เมื่อเข้าไปในบ้าน โรมสังเกตเห็นรูปถ่ายของซิกที่ติดอยู่บนผนัง มีรูปที่ซิกปีนเขาและรูปถ่ายครอบครัวที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข โรมมองรูปเหล่านั้นด้วยความรู้สึกผสมผสานระหว่างความสุขและเศร้า

    แม่ของซิกชี้ไปที่รูปถ่ายหนึ่ง "นี่คือตอนที่ซิกไปปีนเขาครั้งแรก เธอชอบปีนเขามากๆ เลย"

    โรมยิ้ม "ใช่ครับ ซิกเล่าให้ผมฟังหลายครั้งว่าเธอรักการปีนเขา มันทำให้เธอรู้สึกเป็นอิสระ"

    ขณะที่พวกเขานั่งทานอาหารกันอย่างอบอุ่น โรมสังเกตเห็นซิกมองพ่อแม่และน้องสาวของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึง ซิกเริ่มเดินเข้าไปใกล้ครอบครัวของเธอ ขณะที่พวกเขายังคงทานอาหารและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

    ซิกยืนอยู่ข้างพ่อแม่และน้องสาวก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือออกไป แม้ว่าจะไม่สามารถสัมผัสพวกเขาได้ แต่เธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่ยังคงอยู่ ซิกน้ำตาไหลและพูดเบาๆ "เราอยากกอดพวกเขาจัง"

    ทันใดนั้น ลมอุ่นๆ พัดผ่านครอบครัวของซิกอีกครั้ง ทำให้พวกเขาหยุดชะงักและมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น

    พ่อของซิกพูดขึ้น “รู้สึกเหมือนซิกอยู่กับเราเลยนะ”

    แม่ของซิกพยักหน้า “ใช่ค่ะ เราก็รู้สึกอย่างนั้น”

    ซิกยิ้มทั้งน้ำตา "ขอบใจเธอมากที่พาเรามาที่นี่นะโรม"

    โรมยิ้มให้ซิกและพูดเบาๆ “ดีใจที่เธอมีความสุขนะซิก”

    หลังจากทานอาหารเสร็จ พ่อและแม่ของซิกพาโรมเดินชมรอบๆ บ้าน และเล่าถึงเรื่องราวและความทรงจำที่มีซิกอยู่เสมอ โรมฟังด้วยความสนใจและเคารพ เขาสัมผัสได้ถึงความรักและความผูกพันที่ครอบครัวนี้มีต่อซิก

    เมื่อถึงเวลาที่ต้องลากลับ โรมกล่าวขอบคุณพ่อแม่ของซิก "ขอบคุณครับที่เชิญผมมาทานข้าวและแบ่งปันเรื่องราวของซิก ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาที่นี่"

    แม่ของซิกยิ้มและตอบ "ยินดีค่ะ คุณโรม คุณเป็นเพื่อนที่ดีของซิก เราดีใจที่ได้พบคุณ"

    พ่อของซิกพูดเสริม "ถ้ามีโอกาสมาเยี่ยมเราอีกนะครับ คุณเป็นเหมือนครอบครัวของเราแล้ว"

    โรมยิ้ม "ขอบคุณครับ ผมจะมาเยี่ยมอีกแน่นอน"

    ขณะที่พวกเขากำลังล่ำลา ซิกเดินเข้าไปใกล้ครอบครัวของเธออีกครั้ง และพยายามยื่นมือไปกอดพวกเขา แม้ว่าจะไม่สามารถสัมผัสได้ แต่เธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่ยังคงอยู่

    "ลาก่อนนะคะ พ่อ แม่ น้องสาว " ซิกกระซิบเบาๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม

    โรมสังเกตเห็นซิกและรู้สึกถึงความเศร้าในใจของเธอ เขายิ้มให้กำลังใจ "ไปกันเถอะซิก เราต้องไปต่อ"

    ซิกพยักหน้าและยิ้มให้โรม "ขอบใจมากนะโรม เราไปกันเถอะ"

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in