กลางเดือนเมษาที่ร้อนระอุ แสดงแดดส่องจ้าไปทั่วสารทิศ ทุกหนแห่งแผดเผา ร้อนระอุ เจียนจางด้วยลมร้อนของของทะเลทางตะวันออก
“มึงเลิกยุ่งกับกูจะได้ไหมวะ” เด็กหนุ่มตวาดใส่เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งด้วยเสียงกระแทก
“กูทำอะไรผิดวะมึงถึงต้องมาตวาดใส่กู คุยกันดีๆไม่ได้หรอ?” เด็กหนุ่มอีกคนตอบด้วยเสียงฮึกเหิมราวกับว่ากำลังสู้คดีความในชั้นศาล
เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีด้วยความไม่พึงพอใจพรางพยายามเดินหนีออกไปจากเหตุการณ์
“เห้ยมีปัญหาอะไรมึงก็พูดดิวะ” เด็กหนุ่มอีกคนตะโกนตามหลังไปตามสายลมร้อน
“ก็มึงไง” เขาหยุดเพื่อตะโกนตอบ
“กูอะไร?”
“มึงนั้นแหละปัญหา”
“กูทำอะไรผิด กูไม่เข้าใจกูเป็นปัญหาตรงไหนวะ?” เขาตอบด้วยความกระวนใจปนความไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหมายถึงอะไร
“มึงเลิกทำมาเป็นเสแสร้งเหอะ มึงก็แค่ทำมาเป็นห่วงกู”
“กู-” เด็กหนุ่มเริ่มพูดไม่ออกนัยตาที่เคยใสกลับเริ่มแดงก่ำ
“กูว่าคำว่าเพื่อนของเรามันจบลงแค่นี้เหอะหว่ะ” เด็กหนุ่มหันหลังและเดินจากไปปล่อยให้เด็กหนุ่มอีกคนยืนอ้ำอึ้งและลมบูรพาทิศได้ไหลผ่านร่างกายที่เริ่มอ่อนตัวลงทรุดกับพื้นทราย
เงาของต้นสนปิดบังแสงแดดที่ร้อนผ่าวเอาไว้ เหลือแต่ความอบอ้าวของเดือนร้อนยังคงอยู่ กลิ่นเค็มของน้ำทะเลลอยผ่านจมูกของเด็กชาย
เขาได้แต่มองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มอีกคนค่อยๆไกลออกไปจากวิศัยทัศน์ของตน ระยะทางที่ดูใกล้กลับดูไกลราวเกินจะไปถึง ระยะทางที่ดูไกลเพียงเอื้อมมือกลับดูกลายเป็นพันปีแสง
เด็กหนุ่มได้แต่ทรุดตัวลงกับพื้นทราย และก้มหน้าลงและร่ำไห้ออกมาคิดได้เพียงแต่ว่าเด็กหนุ่มอีกคนจะกลับเดินมาหาเขา แต่ในความเป็นจริงเขาก้รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้
“กุแค่รักมึง” เขาคิดในใจพรางร่ำไห้ออกมา เขาทำได้เพียงปรอบประโลมตัวเอง
เด็กหนุ่มหันขึ้นมามองเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อหวังจะได้เห็นแผ่นหลังนั้นเป็นครั้งสุดท้ายแต่สิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นก็เหลือแต่ความว่างเปล่า
นัยตาไร้ประกาย ร่างไร้เงา นิทราที่นิรันด์ และจุดจบที่ขื่นขม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in