เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องราวของคุณพระจันทร์jx9nusss
ห้วงแห่งความฝัน
  • กาลครั้งหนึ่ง...


    เด็กสาวผมสั้น สวมเสื้อสีขาว เมื่อเผยยิ้มทำให้เห็นรอยขีดจาง ๆ สีชาดที่ข้างแก้ม 


    เธอกำลังล่องลอยไปในอวกาศอย่างไร้จุดหมายท่ามกลางกลุ่มดาวเพอร์ซีอัส


    เธอล่องลอยออกไปไกล ถูกชนจากหินอุกกาบาต จนร่างกายได้รับบาทเจ็บสาหัส


    มือข้างขวาที่เธอใช้มันเขียนอย่างตั้งใจ เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและบาดแผล


    ส่วนมือข้างซ้าย ในตอนนี้มันกลับทำหน้าที่ช่วยพยุงให้เธอลุกขึ้นไม่ได้อีกแล้ว


    เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เด็กสาวบอกกับตัวเอง 


    เด็กสาวแก้มแดงเริ่มหมดหวัง เวลาชีวิตของเธอถูกบั่นทอนไปเรื่อย ๆ เพราะพิษของบาดแผล


    ไม่เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวของความหวัง


    จนกระทั่ง... ในตอนที่เธอได้รับภารกิจให้กลับมาสำรวจโลกอีกครั้ง


    เสียงคลื่นซู่ซ่าเข้ากระทบที่ข้างหู ก่อนสัมผัสเย็นยะเยือกค่อย ๆ ไตร่ระดับขึ้นมาครอบงำบนตัวของเธอ


    แสงสว่างวูบวาบบนผืนฟ้าสีน้ำเงินเริ่มปรากฏ “อธิษฐานสิ”


     “คะ?”


    “รีบอธิษฐานก่อนฝนดาวตกจะหายไป” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับมองไปบนท้องฟ้า


    “คงไม่สมหวังหรอกค่ะ หนูไม่อยากอธิษฐาน หนูไม่อยากคาดหวังกับคำอธิษฐาน และหนูก็ไม่ได้เตรียมใจที่จะผิดหวังด้วย” เด็กสาวเอ่ยเสียงเรียบด้วยท่าทางประหม่า


    นานมากแล้ว ที่เธอได้ลองคุยกับคนแปลกหน้าบนโลก


    “ทำไมถึงหมดหวังล่ะ รู้หรือเปล่า ฉันคือเจ้าชายผู้ที่เสกฝนดาวตกเจมินิดส์ลงมาให้ผู้คนบนโลกอธิษฐานกัน“


    ”หนูไม่รู้จะอธิษฐานอะไรจริง ๆ ค่ะ“


    เจ้าชายท่าทางอบอุ่นจ้องเข้าไปในตาของเด็กสาวราวกับหลุดเข้าไปในภวังค์ 


    “เอาแบบนี้ไหม แผลที่มือเธอ... ฉันลบมันให้ได้นะ“


    ทันทีที่นิ้วเรียวสีขาวราวเกล็ดหิมะสัมผัสลงบนบาดแผล เด็กสาวกลับหัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


    “เจ็บหรือเปล่า ขอโทษนะ“


    ใช้เวลาไม่นานนัก เด็กสาวจ้องมองรอยบนแขนที่ค่อย ๆ จางหายไปเรื่อย ๆ 


    แต่มีอยู่บาดแผลหนึ่งที่พยายามจะลบเท่าไรก็ลบไม่ออก 


    ”ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องลบก็ได้ ขอบคุณนะคะ”


    “ฉันลบรอยแผลให้เธอแล้ว ฉันขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม“


    ”ไหนว่ารักษาให้ฟรีไงคะ“


    “เพียงอย่างเดียว... ขอแค่เธอคุยกับฉัน ฉันอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้”


    เด็กสาวครุ่นคิดกับตัวเอง เปิดใจบ้างก็ดี หวังว่าครั้งนี้จะไม่ต้องผิดหวังอีก


    “ตกลงค่ะ”


    เจ้าชายเผยยิ้มพระจันทร์เสี้ยวออกมา พร้อมกับรอยบุ๋มข้างแก้ม เด็กสาวใช้สายตาสำรวจใบหน้าอีกฝ่าย


    ก่อนที่เธอจะเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก


    “ทะเลสวยนะ คิดเหมือนกันหรือเปล่า”


    “ฉันชอบโลกใบนี้มากเลย เธออยากได้ไหม? ฉันให้” 


    เจ้าชายแบมือสองข้างออก เลื่อนมาสัมผัสบนหน้าอกของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะกำมือและยื่นออกไปในระดับสายตาของเด็กสาว 


    เธอแบมือรับมันไว้ ..ไม่ปฏิเสธ ทำให้เกล็ดน้ำแข็งสีขาวจากเจ้าชายติดมือเธอกลับมาด้วยโดยไม่รู้ตัว


    และเธอก็ไม่รู้ตัวด้วยว่าอีกหนึ่งแผลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ กำลังบีบรัดและเริ่มมีเลือดไหลออกมา 


    “ขอบคุณนะคะเจ้าชาย ชีวิตหนูมีความหมายขึ้นเยอะเลย”


    “อย่าเอ่ยคำว่าเจ้าชายเลย ได้โปรดมองข้ามก้อนหินก้อนหนึ่งไปเถิด ฉันเองก็คือคน เหมือนกับเธอนั่นแหละ“


    เวลาที่แสนมีความสุขมักผ่านไปเสมอ เด็กสาวลุกขึ้นท่าทางเร่งรีบ คว้ากระเป๋าสะพายสีดำก่อนจะกล่าวคำลาตามมารยาท


    “หนูต้องกลับแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ“


    ”เดี๋ยวสิ...“ เจ้าชายเอ่ยรั้งเธอไว้


    “ถ้าฉันอยากคุยกับเธอบ่อย ๆ ต้องทำยังไง”


    “งั้นเรามาเจอกันที่นี่ทุกวันพุธหลังสองทุ่มก็ได้ค่ะ” เด็กสาวเอ่ย พร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง 


    ช่างน่าประหลาดใจ รอยยิ้มบนใบหน้าสีแดงก่ำ เผยความสดใสจากใจเด็กสาวที่เก็บเอาไว้ตลอดสิบเจ็ดปี


    ไม่มีสายตาคู่ไหนได้จับจ้องมาก่อน


    รวีปรากฏขึ้นสู่ฟ้า เด็กสาวเอาแต่มองดาราในความฝันทุก ๆ วัน 


    ดาราส่องสว่างตระการตาทั่วฟ้า เธอเอื้อมมือเข้าไปไกลเรื่อย ๆ จนนิ้วเรียวเกือบสัมผัส


    แสงสว่างวูบวาบระยิบระยับ เธอมองแสงสว่างที่กระทบลงบนผิวสีน้ำผึ้ง 


    ความสวยงามระยับตา แสงนวลสีเหลืองตรงหน้า เธอหลงใหลกลุ่มดาราเข้าแล้ว


    คืนนี้พระจันทร์โคจรเข้ามาใกล้โลก เธอสาวเท้าก้าวข้าวไปข้างหน้าบนทางขรุขระอย่างไร้จุดหมาย


    ท่ามกลางตึกที่สูงชะลูดเสียดฟ้า เธอยังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ โดยหวังที่จะพบใครสักคน


    เงาจาง ๆ ของชายหนุ่มคุ้นตาขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เธอพยายามจ้องเข้าไปที่ชายหนุ่มคนนั้น


    เจ้าชาย... เธอยิ้มในใจในระหว่างที่กำลังบรรจบเข้าหากัน


    เธอพยายามเอื้อมมือเข้าไปสัมผัสดวงดาว เพียงเสี้ยววิที่เธอได้สบตา เส้นขนานก็ปรากฎเด่นชัด


    เด็กสาวสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะถูกคลื่นของน้ำทะเลกระทบเบา ๆ เธอยิ้มเมื่อเห็นภาพจาง ๆ ของเจ้าชายนั่งอยู่ใกล้ตัว


    “เรื่องปรกติ ฉันเป็นเจ้าชาย ต้องรู้จักทุกคนเป็นเรื่องปรกติ”


    “ไหนเจ้าชายเคยบอกไงคะ ว่าอยากคุยกับหนูบ่อย ๆ แล้วทำไม...“


    “คุยแล้ว รู้จักแล้วไม่ใช่เหรอ?” เจ้าชายน้ำเสียงอบอุ่น ตอนนี้กลับเย็นยะเยือกเหมือนกับน้ำแข็ง


    “แต่หนูยังมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเจ้าชายเยอะมากเลยนะคะ”


    “ลืมไปหรือเปล่า ว่าฉันเป็นเจ้าชาย ไม่ควรสนิทกับใครเป็นพิเศษ มันจะดูไม่ดี” 


    “ต่อจากนี้ฉันคงไม่ได้มาที่นี่อีก“


    สองมือสองเท้าที่เด็กสาวพยายามพยุงตัวให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ตอนนี้เธอกลับทำมันไม่ได้แล้วจริง ๆ ไม่แม้แต่จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีก


    บาดแผลที่ไม่สามารถลบให้หายออกไปได้ ตอนนี้เริ่มลุกลามไปทั่วทั้งตัว ตอกย้ำเข้าสู่ขั้วหัวใจ


    แสงวูบวาบบนผืนนภา เธอภาวนาให้เกิดปราติหารย์ขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เธอเชื่อในฝนดาวตกเจมินิดส์หมดหัวใจ แต่คำอธิษฐานนั้นกลับไม่เป็นจริงเสียแล้ว


    เศษจากเกล็ดหิมะในคืนนั้น กำลังครอบงำดาวโลก รอยแตกร้าวเผยขึ้นเรื่อย ๆ ในอุณหภูมิติดลบ


    เพียงเสี้ยววินาที โลกใบนั้นแตกสลาย


    คลื่นซัดเธอลงสู่ใจกลางมหาสมุทร เธอค่อย ๆ จมหายไปในผืนน้ำนิ่งสีน้ำเงินเข้ม 


    เธอลืมตาขึ้นเพราะถูกน้ำทะเลสัมผัสบนผิวเบา ๆ 


    ท้องฟ้ามีน้ำเงิน ในขณะนี้มีแสงวูบวาบระยิบระยับตาน่าค้นหา


    “อธิษฐานสิ”


    ...


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in