จำชื่องานชิ้นนี้ไม่ได้แล้ว แต่คร่าวๆ ว่า เป็นเรื่องราวของคนที่ทำงานขายบริการนี่แหละ ตอนที่เดินเข้ามาก็ไม่ได้ยินเสียงชัดเจนอะไรขนาดนั้น
ลองเดินดูให้รอบๆ ห้องนี้ จะพบว่าเสียงจากลำโพงคล้ายๆ จะแรนดอมเล่นไปเรื่อย และไม่ใช่เสียงของคนๆ เดียวพูดพร้อมกันด้วย
มันเหมือนกับ บางทีเราก็ต้องเข้าไปเงี่ยหูฟังเรื่องราวของคนอื่นที่เราอาจไม่มีวันเข้าใจเขาเลย แต่บางทีการที่เราฟังมากไป เราก็จะวิ่งเป็นวงกลมไปเรื่อยในวงโคจรตรงนี้ได้เหมือนกันนะ
บอกเลยว่าถ้าปอไม่ดูเวลาคืออยู่ตรงนี้ได้ทั้งวันจริงๆ อ่ะ
ส่วนจัดแสดงนี้แอบหายากนิดนึง ถึงกับต้องถามเด็ก BAB ว่าอยู่ตรงไหน ปรากฏว่าอยู่ในโบสถ์(?) นี่แหละ เป็นน้ำผึ้งจากที่ต่างๆ ป้ายที่อธิบายบอกว่า มันสามารถเก็บได้ถึง 2,000 ปี เปรียบเสมือนทองคำในรูปของเหลวที่ล้ำค่า ลองคิดภาพในอนาคตสิ ถ้าอีก 2,000 ปีข้างหน้าผึ้งสายพันธฺุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งที่ทำน้ำผึ้งให้โหลพวกนี้สูญพันธุ์ไป ขวดน้ำผึ้งที่เก็บไว้ตรงนี้ จะมีมูลค่ามากมายแค่ไหนกัน ?
เนื่องจากส่วนจัดแสดงนี้ อยู่ในโบสถ์ ก็จะได้ฟิลลิ่งก่อนเข้าไปดู ก็คือเกิดความสงบเพราะว่าอากาศคือดีมาก ถ้าวันนี้ปอไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปที่อื่นต่ออาจขอนั่งสมาธิในนี้เลยด้วยซ้ำนะ
เป็นสถานที่ที่สงบสุดๆ รู้สึกได้ว่าใจเย็นลงมาหน่อยนึงเลยล่ะ
จบจากตรงนี้เราก็เดินเท้าไปที่ล้งต่อ ย้ำว่าเดินเท้า เพราะเราจำทางได้ 5555 อยู่ใกล้กันในระดับที่คนอย่างเราเดินไหว
BAB ล้ง
มาถึงขอกินข้าวเที่ยงก่อนค่า หิวววว
ทำข้าวกล่องมากินเองอ่ะ นักเลงพอป่ะล่ะ 5555555
ชอบตรงที่ล้งมีที่นั่งให้กินข้าวสบายๆ ด้วยนี่แหละ
ท้องอิ่มแล้วเราก็เดินดูต่ออะไรต่อ
ส่วนจัดแสดงส่วนนี้เป็นการสื่อความถึงเรื่องราวในอดีต ที่เป็นวิถีชีวิตคนจีนที่ตรากตรำทำงาน ภาพบนเป็นคล้ายๆ กระสอบกับในห้องที่ให้ฟิลลิ่งคล้ายๆ โรงสีสมัยก่อนแบบมาเต็มมาก
ส่วนนี้ก็เข้าอยู่ในหมวดความทรงจำวัยเด็กเช่นกัน เคยคิดอยากเก็บทุกอย่างจากที่ๆ เราอยู่มาเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำเพื่อดูเป็นของต่างหน้าหรือเปล่าล่ะ? ห้องนี้มาครบเลยนะ บังเอิญว่าสถานที่ในความทรงจำของศิลปินเป็นสวนลุม ก็จะมีความเอาสิ่งที่มาจากบ้านเก่าและสวนลุมมาจัด ไม่ว่าจะเป็นตะไคร่น้ำ เตียงเก่า ฯลฯ ทุกสิ่งล้วนเต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเด็ก
แล้วเราล่ะ มีของอะไรที่ทำให้เราย้อนคิดถึงความทรงจำและความสุขตอนเด็กๆ บ้างหรือเปล่า? เผลอๆ อาจได้เจอและคิดถึงมันบ้างก็ได้นะ ถ้าได้จัดบ้านสักทีน่ะ จริงไหม?
ห้องนี้เป็นสื่อวิดิโอที่ชื่อผลงานว่า Sender and Receiver เป็นการเอาช่วงรายการท้องถิ่นที่ฉายในช่วงโควิดมาใส่อะไรลงไปนิดหน่อย พอเข้าไปดูแล้วก็เข้าใจพอควรว่าศิลปินจะสื่อประมาณไหนเลย
คือเราจะเห็นว่ารายการก็ดำเนินไปในแบบของมันน่ะ แล้วสักพักก็จะมีเสียงอะไรสักอย่างมาแทรก ฟังแล้วเหมือนเป็นความคิดเห็นของใครสักคน แล้วก็จะมีคนที่ใส่ชุดกันเชื้อเดินเข้าไปด้อมๆ มองๆ ทุกๆ คลิปเลย
ที่เราเข้าใจก็คือ เหมือนเขาต้องการจะสื่อว่า จริงอยู่ที่เวลาเราดูสื่อใดๆ ก็ตาม แต่เรามักจะเอาตัวเราเองเข้าไปอยู่ในนั้นบ้างแหละ และก็มักมาพร้อมกับเสียงวิจารณ์ในหัวนิดนึงด้วย มันเลยทำให้สาส์นที่ส่งจากผู้ส่ง และสาส์นที่เรารับมาแปลกไปได้นะ
หลังจากเดินล้งจนหนำใจ ก็ว่าจะไป River City ตรงท่าน้ำสี่พระยาต่อตามแผน
มีความหลงทางนิดหน่อย ไม่ทันเรือที่ไปสี่พระยา เลยต้องเดินไปขึ้นตรงท่าน้ำคลองสาน
แต่แอบเซ็งตรงที่ BAB ปิดไวมากก มาไม่ทันจ้า เอาไว้เรามาเก็บทีหลังวันอื่นเนอะ ^_^
เอาไว้ไดอารี่ของเรารอบหน้า เราจะพาไปเดิน BAB ที่ไหนต่อ โปรดติดตามได้เลยค่าาา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in