Fic: 魔道祖师
Rate: 15
Paring: จุยหลิง
จินหลิงเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของประมุขสกุลจินคนปัจจุบันอย่างจินจื่อเซวียนและเจียงเยี่ยนหลี่บุตรีเพียงคนเดียวของประมุขสกุลเจียงและอวี๋จื่อเยวียน แม่เสือสาวจากสกุลอวี๋ผู้สวยเผ็ดดุและมากความสามารถ
จินหลิงมีน้าชายสองคนคนหนึ่งคือน้าชายบุญธรรมอย่างเว่ยอู๋เซี่ยนผู้ร่าเริงสดใส คุณน้าใหญ่มักจะชวนเขาไปเล่นสนุกเสมอ แม้คุณพ่อจะไม่ชอบใจเท่าไหร่นักแต่คุณแม่ของเขากลับเห็นดีเห็นงามไปด้วย เธอมักจะพูดเสมอว่าเด็กสมควรวิ่งเล่นไปทั่วเสียบ้างมิใช่จมอยู่กับกองตำราทั้งวันทั้งคืน
การออกไปเที่ยวกับน้าชายทั้งสองหลายต่อหลายครั้งเหมือนการเปิดโลกใบใหม่ จินหลิงได้ชิมอาหารรถเข็นข้างทางที่คนทำเป็นคุณยายคนหนึ่งแทนที่จะเป็นเชฟชื่อดังเหมือนในสกุลจินทั้งโร่วเจียโม๋(肉夹馍)อาหารขึ้นชื่อของซีอานหมูสามชั้นสับละเอียดชุ่มฉ่ำกับผักชีที่อยู่ระหว่างแป้งชิ้นใหญ่จนมือเล็กๆของจินหลิงแทบถือไม่ไหวและถังหูลู่(糖葫芦)หลากหลายชนิดทั้งพุทราสตรอวเบอร์รี่และผลไม้รวมเคลือบด้วยน้ำตากวนจนเหนียวเป็นสีเหลืองใสรสชาติหวานหอม
จินหลิงชอบน้าชายทั้งสองมาก รวมไปถึง
ส่วนน้าเล็กเจียงเฉิงนั้น เห็นว่าครั้งหนึ่งเคยคบหากับแฟนสาวแต่วันหนึ่งกลับเลิกรากันกระทันหันอีกทั้งยังหายตัวไประยะหนึ่ง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่พอได้พบอีกทีเขาก็มี
คุณแม่บอกว่าน้าใหญ่เว่ยอู๋เซี่ยนมีคนรักเป็นผู้ชาย แม้ในสายตาของผู้อื่นจะเห็นว่ามันแปลกประหลาดแต่จินหลิงไม่คิดว่ามันประหลาดตรงไหน การที่คนๆหนึ่งได้พบคนที่รักและห่วงใยของตัวเองต่างหากล่ะที่น่าอิจฉา
จินหลิงอยากจะพบคนแบบนั้นบ้างเช่นกัน
จินหลิงเคยบ่นแบบนี้ให้คุณแม่ฟังอยู่บ่อยครั้งจนเมื่อได้พบกับหลานซือจุยลูกชายบุญธรรมของน้าใหญ่เว่ยและน้าเขยหลาน จินหลิงก็ไม่เคยบ่นเรื่องนี้ให้ใครฟังอีกเลย
หลานซือจุยเป็นเด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับจินหลิงหรืออาจจะอายุมากกว่าปีสองปีก็ได้ นิสัยของเขานุ่มนวล ฉลาด มากมารยาท มีไหวพริบและคอยดูแลคนรอบตัวอย่างเอาใจใส่เสมอ ช่างแตกต่างกับหลานจิ่งอี๋ลิบลับจนจินหลิงยินดีเรียกอีกฝ่ายด้วยความเคารพว่าต้าเกออย่างว่าง่าย
จินหลิงเป็นพี่ชายคนโตของน้องๆมาตลอดพอได้มาเป็นน้องชายบ้างก็รู้สึกแปลกใหม่ดี
แต่ต้องเป็นน้องชายของพี่เยวี่ยนเท่านั้นนะ
จินหลิงเป็น
จินหลิงเป็นเกย์ ตอนแรกที่พ่อรู้ก็ช็อคและทำหน้าเหมือนโลกแตกแต่เมื่ออาเหยาช่วยพูดให้จินหลิงก็รอดพ้นพายุเพลิงมาได้แบบหวุดหวิดแม้ว่าจะมีข้อแม้อยู่บ้างก็ตาม
‘ห้ามมีความสัมพันธ์เกินเลยจนกว่าจะอายุ20!!!’
คำพูดนั้นเป็นเหมือนคำประกาศิต เมื่อได้ยินทั้งคู่กลับหันมายิ้มให้กันอย่างโล่งใจและก้มศีรษะรับคำอวยพรจากเจียงเยี่ยนหลี่ด้วยหัวใจพองฟู
เวลาผ่านมาหลายปีจินหลิงย้ายไปอยู่กับหลานซือจุยทันทีที่ตัวเองจบไฮสคูลและพยายามจนได้เข้ามหาลัยเดียวกันได้ เขาเข้าเรียนคณะบริหาร เป็นเฟรชชี่หน้าใหม่สุดแสบของเหล่ารุ่นพี่ที่มีหัวการค้าสุดแหวกแนวส่วนหลานซือจุยนั้นคือว่าที่แพทย์สุดหล่อผู้เป็นชายในฝันของสาวๆครึ่งค่อนมหาลัย
ในสายตาคนนอก จินหลิงกับหลานซือจุยคือญาติที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษแม้จะไม่ชอบใจเท่าไหร่นักแต่นายน้อยสกุลจินก็ไม่ได้ประกาศสถานะที่แท้จริงของพวกเขาออกไป ไม่ใช่เพราะพ่อเขาสั่งห้ามเอาไว้แต่เป็นเพราะจินหลิงไม่คิดว่าตนเองควรทำให้พี่เยวี่ยนของเขาต้องลำบาก แค่เรียนหมอก็เหนื่อยพออยู่แล้ว ไหนจะต้องขึ้นเข้าแลปไหนจะต้องผ่าอาจารย์ใหญ่ พี่เยวี่ยนของเขาไม่ควรเอาเวลาพักผ่อนมาเหนื่อยกับเรื่องไร้สาระอีก
หลานซือจุยเองก็กังวลว่าการที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันบ่อยๆนั้นจะทำให้จินหลิงคิดมากดังนั้นทั้งคู่จึงกำหนดไว้ว่าทุกๆเย็นของวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าพวกเขาไม่มีธุระอะไรเป็นพิเศษพวกเขาจะทานมื้อเย็นด้วยกันเสมอมันคือดินเนอร์เดย์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก
“เสี่ยวหลิง พี่ขอโทษนะครับที่ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเราเลย”
“เอาอีกไหม?”
จินหลิงคีบก้วนทังเปา(
จินหลิงเอาไหล่กระแทกคนข้างตัวเบาๆพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ
“พี่อย่าพูดแบบนั้นอีกนะอ อีกไม่กี่วันก็ถึงวันเกิดผม ล แล้ว” ยิ่งพูดยิ่งเขินกลายเป็นว่าคู่รักวัยรุ่นทั้งสองเขินกันเองจนไม่กล้าสบตากันแต่มือทั้งสองข้างที่อยู่ใต้โต๊ะกลับประสานกันไว้หลวมๆมีบ้างที่หลานซือจุยแอบเกลี่ยนิ้วโป้งกับหลังมือขาวนวลและจินหลิงแอบบีบมือตอบ
“อ อืม พี่จะ เอ่อ จะรีบกลับนะ”
จินหลิงขยับเข้าไปใกล้แฟนหนุ่ม กระซิบข้างใบหูของอีกฝ่ายทั้งๆที่ใบหน้าแดงก่ำ
“ส เสี่ยวหลิงจะเตรียมตัวรอพี่เยวี่ยน ร รีบๆกลับมากินเสี่ยวหลิงนะครับ”
...ใครสั่งใครสอนให้ทำเสียงแบบนี้
ดีว่าพวกเขาจองห้องอาหารส่วนตัวไม่งั้นบรรดาคนขี้เสือกคงไม่พลาดเรื่องแบบนี้แน่ๆ
ไม่อยาก...ให้คนอื่นเห็นจินหลิงของเขาเลย...
แถม (AfterJinLing’s Birthday)
เช้าวันนี้หลานซือจุยวิ่งวุ่นไปทั่วครัว ว่าที่คุณหมอที่ไม่เคยเข้าครัวมาก่อนถึงกับเหงื่อตกเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการทอดปีกไก่ให้หนังรัดเนื้อไก่ หลังจากหมักไก่กับเห็ดหอมที่แช่น้ำจนนิ่มและตัดก้านออกเรียบร้อยแล้วเขาก็นำมันใส่หม้อเติมน้ำแล้วใส่รากผักชีสองรากที่ทุบไว้แล้วลงไปในหม้อ ตั้งไฟแรงจนเดือดก่อนจะลดไฟอ่อน ปรุงรสนิดหน่อยและตุ๋นทิ้งไว้
ระหว่างรอเวลาให้ซุปได้ที่ชายหนุ่มก็รีบไปเตรียมของอย่างอื่นให้เรียบร้อยทั้งยาแก้อักเสบและยาแก้ไข้กับน้ำดื่ม กะละมังน้ำร้อนกับผ้าสะอาด
หลานซือจุยโอบกะละมังที่มีผ้าพาดไว้บนไหล่เข้าไปในห้องนอน จินหลิงตัวน้อยของเขานอนหลับสนิทและยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนเขาหนักมือกับคนรักมากเกินไปด้วยเพราะอดกลั้นมานาน นานหลายปีจนแทบจะออกบวชได้อยู่แล้ว
เขาใช้ผ้าชุบน้ำร้อนบิดจนหมาดและเช็ดตามร่างกายของคนรักอีกครั้ง ทำความสะอาดคราบน้ำรักบนผิวขาวและยังควานน้ำรักที่คั่งค้างอยู่ภายในออกมาจนหมดแถมยังทายาที่ช่องทางบวมแดงเบาๆ
หนุ่มน้อยครางฮื่อในลำคอเมื่อถูกรุกล้ำร่างกายจินหลิงส่งเสียงในลำคอก่อนจะตื่นขึ้นมาเพราะจูบหวานๆที่ริมฝีปาก สิ่งที่เขาเห็นเป็นครั้งแรกนั้นคือใบหน้าของหลานซือจุยและรอยยิ้มเปี่ยมสุขของเขา
“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”
“อื้อ...อรุณสวัสดิ์ครับพี่เยวี่ยน”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in