เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ร้านขายความกล้าWorawisuth Chalacheebh
ร้านขายความกล้า
  • ตั้งแต่วันนั้นมาชั้นก็รู้สึกได้ถึงความกลัวที่มีมากขึ้น ความกังวลในทุกๆเรื่อง

    "เขาจะเห็นเราเป็นคนประหลาดหรือเปล่า"

    "เราจะเป็นภาระให้คนอื่นหรือเปล่า"

    "เราจะมีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม"

    "สักวันนึงเราจะเสียสติไปหรือเปล่า"

    คือความคิดที่โผล่มาในหัวชั้นในทุกๆวันตั้งแต่วันนั้นที่ร่างกายมันหักหลังชั้น ตั้งแต่วันนั้นที่ความคิดมันโกหกชั้น ตั้งแต่วันนั้นที่หัวใจมันต่อสู้กับทุกส่วนของร่างกาย 

    หมอก็ให้ยามากินจนชั้นรู้สึกเหมือนเสียความเป็นตัวของตัวเองไป

    เพื่อนฝูงที่เคยมีก็หายไป กับครอบครัวถึงแม้จะได้ใช้เวลาด้วยกันเยอะแต่ก็เหมือนกับห่างกันมากขึ้น

    "พอเราบอกว่าเราไม่ไป ทุกคนก็เลิกชวน"

    ทุกครั้งที่มีคนชวนไปไหนก็อยากไปนะ แต่พอคิดถึงว่าต้องไปไกลๆหรือไปที่ที่คนเยอะๆ ไปที่ๆมันหนีออกมาไม่ได้ น้ำลายก็กลืนยากขึ้นมาทันที ลมหายใจก็ขยับเร็วขึ้น หน้าอกแน่น มือชา 

    "ร้านขายความกล้า" คือสิ่งที่ได้ยินมาจากคนที่เคยได้ยินที่เคยได้ยินมาจากคนที่เคยได้ยินที่เคยได้ยินมาจากคนที่เคยได้ยิน

    มันอยู่ในตรอกเล็กๆแห่งนึง ที่ไกลจากบ้านที่ชั้นอยู่มาตลอด ตรงนั้นมันไม่มีที่หนี มันเป็นที่คนผลุกผลาน แต่ว่าถ้าได้ความกล้ามาแล้ว สิ่งพวกนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องมาคิดอีกต่อไปสิ่นะ

    ชั้นเก็บของออกจากบ้าน พกยาฉุกเฉินทุกชนิดที่มี ทั้งยาแก้หอบ ทั้งยาแก้แพนิค ใส่กระเป๋า ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีความจำเป็นเลย แต่ชั้นก็ยังต้องพกมันตลอด

    ชั้นนึกถึงแต่ก่อนที่ระยะทางแค่นี้มันไม่ได้มีปัญหาเลย แค่ "ไป" แล้วก็กลับ แต่ตอนนี้คำว่า "ไป" มันดูยากจังเลย 

    หายใจเข้านับถึง4

    กลั้นหายใจนับถึง6

    หายใจออกนับถึง7

    และทำอย่างงั้นไปเรื่อยๆ ฟ้าที่เมื่อกี้ยังสว่างอยู่เลย ตอนนี้กลับครึมขึ้นมา 

    เกร็งทุกส่วนของร่างกาย นับถึง5และผ่อนคลาย

    ตอนนี้ชั้นต้องทำอะไรพวกนี้ตลอด แทนที่จะเอาเวลาไปเอ็นจอยสิ่งรอบข้าง ชั้นต้องมาตั้งใจกับตัวเอง แต่ว่าอีกไม่นานแล้วสิ่นะ ชั้นจะไปถึงที่นั้นแล้ว

    ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา 

    ไม่สิ่ ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก ฝนมันก็เรื่องธรรมชาติ

    การเปลี่ยนความคิดของตัวเองคือสิ่งสำคัญที่หมอบอกให้ทำ คิดถึงสถานการณ์อย่างมีเหตุผล แต่ว่านะ บางทีลึกๆมันเหมือนไม่เชื่อตัวเอง 

    แต่ว่าไม่เป็นหรอก จะถึงแล้วละ

    ชั้นกางลมออกหลังลงจากรถ แล้วเดินไป หัวใจมันเต้นเร็วจัง มือที่สั่นนี่เป็นแค่เพราะฝนตกหรือเปล่านะ 

    แต่ว่าไม่เป็นไรหรอก จะถึงแล้ว

    ขามันเริ่มก้าวไปต่อไม่ไหวแล้วละ ชั้นแค่อยากเรียกแท็กซี่แล้วกลับบ้านเดี๋ยวนี้ 

    แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกนะ อีกนิดเดียวก็ถึง

    นั้นสิ่นะ ร้านขายความกล้ามันมีจริงได้ยังไง มาตามที่ที่เขาบอกแล้วมันกลับเป็น 7-11 ธรรมดาทั่วไปร้านนึง 

    นั้นสิ่นะ สิ่งนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ชั้นต้องทนอยู่อย่างงี้ตลอดไปสิ่นะ ชั้นต้องเป็นภาระตลอดไป ชั้นต้องอยู่คนเดียวตลอ...

    เอ๊ะ ฝนนี่มันเม็ดใหญ่ขนาดนี้มาตลอดหรือเปล่านะ ตั้งแต่วันนั้นพอฝนตกชั้นก็ไม่ออกไปไหนเลย เพราะว่ากลัวรถติด

    เอ๊ะ คนนั้นแอบซื้อถุงยางแบบเขินๆด้วยแหละ ว่าแต่ครั้งล่าสุดที่ชั้นไปเดทนี่มันเมื่อไหร่กันนะ จะนัดคนออกมาเจอกันก็กลัวไปไม่ไหวแล้วเขารอเก้อ

    เอ๊ะ เสียงคนเยอะๆนี่มันสุนทรีขนาดนี้เลยหรอ เสียงคนหัวเราะ เสียงเด็กร้องไห้ เสียงทุกคนที่เงียบลงชั่วครู่เมื่อรถบีบแตร มันช่างเป็นจังหวะ

    เอ๊ะ กลิ่นนั้นมันหอมเหมือนเนื้อย่างเลย ว่าแต่ ตั้งแต่ตอนนั้นชั้นก็ไม่ได้กินอาหารคนเดียวเท่าไหร่ โดยเฉพาะร้านที่ต้องนั่งนานๆนี่ แต่เริ่มไม่ไหวแล้วละ กลิ่นมันหอมจัง

    อู้ย ชั้นชอบเนื้อกับข้าวที่ห่อในใบงาจัง ชั้นใส่กระเทียมย่างแล้วก็โป๊ะซอสลงไปอีกหน่อยละ

    "ว่าแต่ ครั้งต่อไปจะไปไหนดีนะ"


    เรื่องนี้เขียนเพื่อคนที่ แน่นหน้าอก ทุกครั้งที่ต้องไปไหน ความกล้ามันไม่มีทางลัดหรอก เราแค่ต้องพยายามเรื่อยๆ จำไว้ว่าปลายทางมักจะมีสิ่งดีดีเสมอ ความทรมานและความกลัวคือสิ่งที่เราต้องจ่ายเพื่อมัน ครั้งต่อไปมันจะดีขึ้น และมันจะดีขึ้น และมันจะดีขึ้น

    แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีอยู่และเชื่อฟังหมอด้วยนะจ๊ะ

    เหล่าเพื่อนผู้ทรมาน ชั้นเห็นคุณและคุณมีคุณค่ากับชั้น 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in