ไม่รู้ว่าเขียนเก่งมั้ย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ลอง ใครเผลอเข้ามาอ่านก็คิดซะว่า เหมือนเดินมาเจอกันแถวแยกอโศกละกันนะ (มันเชื่อมโยงกันยังไงฟระ - -! ) แต่ก่อนที่จะเล่าว่าไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง อยากจะเกริ่นเป็นน้ำจิ้ม ร่างวิวัฒนาการ การเที่ยวของตัวเองออกมาหน่อย ว่าแต่ละช่วงชีวิตเราผ่านอะไรต่อมิอะไรมาบ้าง... ก็ได้ข้อสรุป เอาแบบกรุ๊ปตามจังหวะอายุแล้วกันง่ายดี (ไม่ขอบอกอายุ ลองทายกันเล่นๆ ดู)
เริ่มจากวัยแรกแย้มผ่านโลกมาประมาณสิบกว่าปี พ่อแม่หวง
ไปดูหนังกับเพื่อนต้องโกหกว่าไปติวหนังสือ (เอาความจริงมาพูดเล่น)
วัยมัธยม : ชอบไปเที่ยวมันทุกอย่าง ขอให้ได้ไป ได้เดินทาง ได้ออกนอกบ้าน ทริปแรกเคยจัดทริปไปดรีมเวิลด์กับเพื่อนมัธยม แม่งสนุกสุดชีวิตแล้วตอนนั้น ได้เช่ารถมินิบัสเอง จัดการนัดหมาย เก็บตัง รวมตัวเพื่อนๆ ฟินลืมไปเลย
โตขึ้นมาหน่อย เริ่มทำงานเก็บตังค์ได้บ้าง พ่อแม่ไม่ค่อยหวงละ เริ่มมีผู้ชายคบหาอ่ะคุณ...
วัยมหาลัย : ชอบไปทะเล ไปกับแฟน หาที่เที่ยว ทริปหงุงหงิง กิงก่องแก้ว เป็นยุคเริ่มต้นของความต้องการความชิคคูล ชอบไปเป็นคู่ ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ หาข้อมูลจาก เว็บททท. เดินไปเปิดอ่านหนังสือตามร้าน ยุคนั้นรีวิวน้อย ยูทูปก็ยังไม่เกิด IG ก็ยังไม่มี ถ่ายไปเหอะ ความละเอียดภาพยังเป็นแบบแปดบิทอ่ะ ถ่ายไกลๆ ซูมดูคือพัง รูปหายไปไหนหมดไม่รู้
พัทยา 2017
กระบี่ 2017
พอรับปริญญาแล้วก็เข้าโหมดผู้ใหญ่ตอนต้น เริ่มมีคำว่าลาพักร้อนเข้ามาเป็นภาระ ให้รู้สึกว่าต้องใช้มันให้คุ้ม กับค่าแรงที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี
วัยทำงาน 1-3 ปีแรก : พวกรีวิวท่องเที่ยว ที่พักเริ่มมา ก็ต้องไปสิ... รออะไร แฮปปี้ ดี๊ด๊ากับลาพักร้อน ได้ลงรูปขิงใส่เพื่อนที่ทำงานตอนเช้าวันจันทร์ แบบว่า... จิบกาแฟชิลๆ ถ่ายรูปอาหาร บอกว่ามาพักผ่อนแต่ถือกล้องมือถือตลอดเวลา คอยอัพเดตสเตตัสคำคมกับวิวสวยๆ ตรงหน้า และสถานที่ยอดฮิตบวกกับความชิคคูลนี้ ก็ต้องทะเลดิ จะกี่ทริปก็ทะเล โดยเฉพาะโซนตะวันออกจะชอบเป็นพิเศษ อันดับ 1 ในใจยกให้เกาะหมาก จังหวัดตราดไปเลย ไปแล้วไปอีก แล้วก็ชอบทะเลมากๆ มากๆ มากอีก มากชิบหาย จนต้องมีชื่อ LOVESEA เป็นลายเซ็น (ตอนพิมพ์ฮัมเพลงนี้ไปด้วย - ฉันเป็นทะเล ไม่ใช่เขา ต่อให้ทำยังไง
เธอคงจะไม่รักเรา - )
เดินทางมาถึงครึ่งชีวิตแล้วแบบรวดเร็วมาก เป็นผู้ใหญ่ที่เริ่มมีแต่คนเรียกพี่ ชีวิตเหมือน(จะ)ดีพอมีเงิน
ก็เลยตามหาประสบการณ์ใหม่นอกประเทศบ้านเกิดบ้าง
ทำงาน ปีที่ 4-6 : ชีวิตหน้าที่เริ่มมั่นคง เปิดโลกชอบการไปต่างประเทศ ตั้งมัลดีฟส์เป็นทริปในฝัน หลงรักญี่ปุ่นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ไป หลงรักหิมะ เข้าใจแล้วว่าทำไมใครๆ ก็ชอบญี่ปุ่น พอได้ก้าวเท้าออกนอกแผ่นดินเกิด ก็ติดอกติดใจอยากจะสะสมตราสแตมป์ในพาสพอร์ตให้เยอะๆ มีชื่อประเทศไม่ซ้ำอยู่ในเล่ม (เอาให้คุ้มราคาทำมาเป็นพัน) พอเห็นวันลาพักร้อนก็อยากไปแต่ต่างประเทศเวลาได้ออกไปที่ที่ไม่ใช่บ้าน มันสร้างความรู้สึกใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้ดีเลยทีเดียว ภาษาก็พอสื่อสารได้ ไม่ได้เก่งกาจอะไร ได้ลองทำทริปเอง หาข้อมูลเอง จองตั๋วเครื่องบิน ตั๋วทุกอย่าง ได้พาเพื่อนไปเองแบบไม่เคยง้อทัวร์ ก็เริ่มรู้สึกสนุก ที่ได้ทำ จากไปกัน 4 คนก็เพิ่มเป็น 6 คน เป็น 8 คน ยิ่งเยอะยิ่งเลอะประสบการณ์ 5555555 (หัวเราะดังมากเพราะมีเรื่องเล่ามันส์ๆ อยู่เยอะ )
เกาหลี : โซล 2017
ญี่ปุ่น :โอซาก้า 2018
update ณ ปัจจุบันที่ยังอินอยู่ ก็คงจะเป็นการเที่ยวต่างประเทศ นั่นแหละ (ไม่ได้อวดรวย หรือ
นิยมแบรนด์เนมแต่อย่างใด ) เราไปแบบถูกๆ สิคุณ โปรเค้าออกมาล่อตาล่อใจเยอะแยะ ถูกและดีมันมีอยู่จริงๆ ไว้จะมาชี้แจ้งให้เห็นกันแบบชัดๆ ส่วนบ้านเราในไทยก็ยังเที่ยวอยู่นะ เมืองรอง เมืองหลักก็ไปหมดแหละถ้ามีคนไปด้วย ต่างจากยุคก่อนตรงที่ว่า เราอยากไปพักจริงๆ นอนโง่ๆ (แบบโง่จริงๆ ) ที่ใครๆ ชอบพูดนั่นแหละ มีเครื่องดื่มเย็นๆ (หมายถึงเหล้าเบียร์ก็ว่ากันไป โตแล้วดื่มได้จ้า) ใกล้ๆ กรุงเทพ คนไม่เยอะ เพื่อนหรือคนรู้ใจซักคนสองคน ก็พอแล้ว
พอได้รีวิววิวัฒนาการเรื่องเที่ยวของตัวเองออกมา ก็เหมือนเราได้ส่องกระจกนะ ดูๆ ไปเราก็เติบโตขึ้นจากการไปเที่ยวเหมือนกัน เข้าใจโลกมากขึ้น เข้าใจว่ามีคนที่ต่างจากเรามากมายนับไม่ถ้วน
ได้รู้ว่าที่จริงแล้วโลกมันกว้างใหญ่เหลือเกิน มีอะไรที่เราไม่รู้อีกตั้งเยอะ 1 ชีวิตจะไปเพียงพออะไร
และที่สำคัญเราเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ คนนึงบนโลกใบใหญ่ใบนี้ เท่านั้นเอง...
เกาหลี: โซล 2016
เพราะฉะนั้นออกไปเปิดหูเปิดตาบ่อยๆ จะที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ได้ สำหรับเราหมดแรงเมื่อไหร่ ก็จะชาร์ตแบต หาซักที่บนโลกที่อยากจะไปนับ 0 เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
หวังว่าจะได้เริ่ม #1 ในเร็ววันนี้ (บอกตัวเอง)
ที่ไหนก่อนดี ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in