เรื่องย่อหลังปก เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! ผลัวะ! อะไรบางอย่างกำลังขยับตัวและถีบเปลือกไข่ออกมา อะไรบางอย่างที่มีขนสั้นสีทองอร่าม มีสี่ขา และเล็บของมันเปล่งประกายอย่างกับเพชรน้ำดี และเมื่อเปลือกไข่ชิ้นบนสุดถูกสลัดออกโดยหัวของเจ้าตัวปริศนา แอมมี่ก็เห็นปีกสีทองขนาดเล็กจิ่วกระพือ นี่มัน... เจ้าสัตว์ตัวน้อยยกขาหน้าตีเปลือกไข่ที่ห่อหุ้มส่วนล่างของมันแล้วขยับตัวให้พ้นจากเปลือก แต่มันก้าวพ้นออกมาได้ไม่ไกลนักก็เซล้มลงจนก้นจ้ำเบ้า มันยกขาหน้าขึ้นขยี้เปลือกตาด้วยท่าทางงัวเงีย แต่ไม่นานก็เหลือบขึ้นสบตากับแอมมี่ เด็กสาวทรุดลงไปนั่งกองกับพื้นและกรีดร้องกับตัวเองในใจว่า ลูกมังกร!
คุยกันหลังอ่าน
The Draker's story เนี่ยมี 5 เล่มจบค่ะ เป็นชุดที่กัลฐิดาเขียนหลังจากที่เขียนเซวีน่าจบ ก็พูดตามตรงคือเราไม่ได้อ่านนิยายแฟนตาซีมานานมากๆ ช่วงที่อ่านเยอะๆก็เป็นช่วงที่เค้าฮิตกันนั่นแหละค่ะ เมื่อสักสิบกว่าปีก่อนได้ละมั้งคะ ตอนนั้นอ่านนิยายแฟนตาซีจนเรียกได้ว่าเดินไปที่ร้านหนังสือ เราก็เคยอ่านหมดทั้งเชลฟ์ แถมนิยายแฟนตาซียังเป็นแนวที่ครองเชลฟ์อย่างยิ่งใหญ่ด้วย โดยเฉพาะนิยายแฟนตาซีที่แต่งโดยนักเขียนไทยเอง
แต่ตอนนี้กระแสแฟนตาซีจางลงไปมากจริงๆ หลายคนที่เคยเขียนแนวนี้ก็หายๆกันไปบ้างแล้ว พอๆกับจำนวนนิยายแฟนตาซีบนชั้นก็หายไปมากเช่นกัน หรือแม้กระทั่งสำนักพิมพ์ที่เคยเป็นหัวเรือใหญ่ในด้านนี้อย่างสถาพรเอง ในงานหนังสือก็คนไม่พลุกพล่านอย่างเคย
สำหรับเราก็เหมือนกันค่ะ เราไม่ได้อ่านนิยายแฟนตาซีแนวนี้มานานมาก โดยเฉพาะแบบที่คนไทยแต่ง ถ้าเป็นนิยายแปลก็มีอ่านบ้างอยู่เนืองๆ แต่ถ้าคนไทยแต่งนี่จำไม่ได้เลยว่าครั้งสุดท้ายที่อ่านคือเมื่อไหร่ บางทีอาจจะเป็นชุด LOST ของกัลฐิดา หรือชุดนางเงือก ที่ยังอ่านไม่จบทั้งคู่
โอเค เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ 55555555
ชุดนี้อย่างที่บอกว่าคือ 5 เล่มจบ ยาวมากจริงๆ แต่ละเล่มก็ค่อนข้างหนา โดยเฉพาะเล่มสุดท้ายคือรู้สึกว่าหนามากกกกก คือเล่ม 1-4 อะเราอ่านรวดเดียวเลยนะ ใช้เวลาสองสามวัน แต่พอถึงเล่มห้าปุ้บ สปีดตกลงกะทันหัน ใช้เวลาหลายวันมากในการจบเล่มห้า
เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีค่ะ มีมังกร มีเวทมนตร์ มีบุคคลในโชคชะตา ตอนที่เราอ่านเรื่องนี้เรารู้สึกเลยว่า เรื่องนี้สมกับเป็นกัลฐิดามากๆ เพราะว่ามันมีความคล้ายเซวีน่ามาก ไม่ใช่ในแง่พลอตนะ แต่เป็นการวางโพสิชั่นตัวละคร การออกแบบตัวละคร ที่แบบนางเอกเป็นบุคคลในโชคชะตาที่อยู่ๆชีวิตพลิกผัน ส่วนพระเอกเป็นคนที่โดดเด่นมากในโลกใบนั้นอยู่แล้ว และมีบรรดาเพื่อนๆซึ่งเป็นคุณหนูจากที่ต่างๆ (ที่เป็นอีลิท) และคู่ของบรรดาเพื่อนๆที่เป็นคุณชาย (ที่เป็นอีลิทเหมือนกัน) บวกกับคอนเซปเรื่องผู้ชายแบบนั้นผู้หญิงแบบนี้ ที่ในบางครั้งทำให้เราสะดุดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำลายอรรถรสการอ่านของเราหรอกนะคะ
พลอตเรื่องก็เป็นแนวเด็กสาวแห่งโชคชะตาที่มาผจญภัยในโลกนี้น่ะค่ะ มีอุปสรรคมากมายให้เอาชนะ มีปริศนาให้แก้ไข อ่านไปแล้วก็สนุกดี คือสนุกกว่าที่คิด อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้หวังอะไรมากแต่แรก ก็พออ่านก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยค่ะ ว่าสนุกกว่าที่คิดอีกนะ เพราะคิดว่าตัวเองโตแล้วมั้งคะ อาจจะอ่านอะไรแบบเซวีน่าไม่สนุกอีก แต่พออ่านจริงๆก็อืม ยังสนุกกับมันอยู่นะ ในช่วงเล่มห้าเป็นช่วงที่เรารู้สึก anti climax นิดหน่อย อาจจะอ่านมาจนอึน แต่รู้สึกว่าฉากการย้อนเวลาเปิดเผยความจริงกับฉากการช่วยชีวิตดัสค์ไม่ตื่นเต้นเท่าที่คาดหวังเอาไว้
ส่วนที่ชอบก็มีค่ะ อย่างเช่น เราชอบโลกของเดรกเกอร์ ชอบสตอรี่เบื้องหลังของความเป็นไปในโลกนี้ รู้สึกว่ามันเป็นโลกที่เห็นภาพชัดว่าโลกของเซวีน่าสำหรับเรา แล้วก็ชอบตัวละครฟายด์ที่เหมือนเป็นอิสเตอร์เอกสำหรับคนอ่านเซวีน่า ตอนอ่านเจอคำว่าฟรานเชสก้า เราทักไปหาเพื่อนที่อ่านด้วยกันเลยว่า ฟรานเชสก้าก็มานะ 55555555 แล้วก็ตัวละครน่ารักดีค่ะ มีสีสัน งานของกัลฐิดาชอบทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเกิดว่ามันเป็นอนิเมชั่น มันคงจะมีลายเส้นประมาณ Aria อะไรทำนองนี้แน่เลย
สุดท้ายสำหรับคนเขียนคนนี้ เรารู้สึกนับถือในความขยันของเค้ามาก ในช่วงเวลาที่เราโตมาจนเข้ามหาลัยและจบมหาลัย เค้าก็ยังเขียนต่อไป แบบออกผลงานมาอย่างต่อเนื่อง แล้วก็มั่นคงในแนวที่เขียนมากๆ
สรุปก็คือ ก็ชอบอยู่นะคะ นับว่าเป็นเหมือนการย้อนวัยไปสมัยสิบกว่าปีก่อนละกัน 555555
ปก E-book ฉบับใหม่สวยมากค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in