Itaewon Class ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์และเป็นจุด Check point สำคัญอีกหนึ่งเรื่องของวงการบันเทิงเกาหลี ที่สามารถนำพาผู้ชมให้เพลิดเพลินกับการนำเสนอแง่มุมการสร้างธุรกิจมากกว่าการดำเนินเรื่องหลักด้วยเรื่องของความรัก หรือแม้แต่การแหกขนบเดิมๆกับการชูบทบาทของเพศทางเลือก คนผิวสี และกลุ่มคนผู้ผ่านความผิดพลาดในอดีต ทำให้เห็นว่าพวกเขาเองสามารถเปล่งประกายได้แม้จะพบเจอกับเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาก่อน
การสร้างบรรยากาศด้วยเพลงเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญของซีรี่ส์ชุดนี้ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตตามเนื้อหาหลักของซีรี่ส์ แต่ก็ยังคงมีบทเพลงเกี่ยวกับความรักแทรกอยู่ โดยเพลงที่ใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวของพัคแซรอย(พัคซอจุน) และ โจอีซอ(คิมดามี) ใน Part ที่ 12 ของเพลงประกอบซีรี่ส์เรื่องนี้ ได้ V จากวงบอยแบนด์ชื่อดัง BTS มาขับร้องรวมไปถึงเขียนเนื้อเพลงนี้ด้วยตัวของเขาเอง
เพลง Sweet Night เป็นชื่อพ้องความหมายกับชื่อร้าน 단밤(ทันบัม) ในเรื่อง โดยเพลง Sweet Nightเพลงภาษาอังกฤษล้วน ใช้ภาษาสละสลวยราวบทกลอนที่ V ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Theologian’s Tale ซึ่งเขียนโดย Henry Wadsworth Longfellow เปรียบเทียบความสัมพันธ์ของพัคแซรอยและโจอีซอ ที่พวกเขาเองต่างรู้สึกถึงกัน แต่ในวันที่มันเริ่มมากขึ้น จะสายเกินไปรึไม่ เขาทั้งสองจะเป็นเพียงแค่คนที่พบพานและจากกันไป ที่เปรียบดั่งเรือสองลำที่เเล่นผ่านกันในยามค่ำคืนตามบทประพันธ์ The Theologian’s Tale และไม่มีวันได้หวนกลับมาพบกันอีก
But I had already reached the shore
แต่มันอาจจะสายเกินกว่าจะทำอะไรได้อีกแล้ว
Guess we were ships in the night, night, night
เพราะเราสองคนอาจเป็นเพียงคนที่ได้พบพานและจากลากันไป
Artist: V of BTS(방탄소년단)
Produced by V (BTS) & Hiss Noise
Ost. Itaewon Class (이태원 클라쓰) Part. 12, JTBC drama
[Verse 1]
On my pillow
ผมทิ้งตัวลงบนหมอน
Can't get me tired
ที่ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยล้า
Sharing my fragile truth
ก่อนเริ่มแบ่งปันความจริงอันแสนเปราะบาง
That I still hope the door is open
ว่าผมเอง ยังคงหวังว่ามันจะยังคงมีโอกาสนั้นอยู่
’Cause the window Opened one time with you and me
เพราะครั้งหนึ่งผมเคยรู้สึก ว่ามันเกิดขึ้นระหว่างคุณกับผม
Now my forever's falling down
แต่ตอนนี้มันกำลังจะจางหายไปแล้ว
Wondering if you'd want me now
ผมอยากจะรู้ ว่าคุณยังต้องการผมอยู่รึเปล่า?
[Chorus]
How could I know
ผมจะรู้ได้ยังไงกันนะ
One day, I’d wake up feeling more
ว่าวันหนึ่ง ผมอาจจะรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม
But I had already reached the shore
แต่มันอาจจะสายเกินกว่าจะทำอะไรได้อีกแล้ว
Guess we were ships in the night, night, night
เพราะเราสองคนอาจเป็นเพียงคนที่ได้พบพานและจากลากันไป
Ah-ah-ah, ah-ah-ah
Ah-ah-ah, ah-ah-ah
We were ships in the night, night, night
เราอาจเป็นเพียงคนที่ได้พบพานและจากลากันไป
[Verse 2]
I'm wondering, are you my best friend?
ผมสงสัยเหลือเกิน คุณเป็นแค่เพื่อนสนิทของผมรึเปล่านะ?
Feels like a river's rushing through my mind
เพราะคุณเหมือนดั่งสายน้ำพัดผ่านเข้ามาในใจของผมเสมอ
I wanna ask you if this is all just in my head
ผมอยากจะถามคุณเหลือเกิน ว่าทั้งหมดคือสิ่งที่ผมคิดอยู่จริงๆใช่ไหม
My heart is pounding tonight,
เพราะหัวใจของผมมันกำลังสั่นไหวอยู่ในคืนนี้
I wonder
ผมอยากจะรู้เหลือเกิน
If you are too good to be true
หากคุณนั้นแสนดีเกินกว่าที่จะเป็นเรื่องจริง
And would it be alright if I
และมันจะเป็นอะไรไหม ถ้าผม...
Pulled you closer
จะดึงให้คุณมาอยู่เคียงข้างผม
[Chorus]
How could I know
ผมจะรู้ได้ยังไงกันนะ
One day, I’d wake up feeling more
ว่าวันหนึ่ง ผมอาจจะรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม
But I had already reached the shore
แต่มันอาจจะสายเกินกว่าจะทำอะไรได้อีกแล้ว
Guess we were ships in the night, night, night
เพราะเราสองคนอาจเป็นเพียงคนที่ได้พบพานและจากลากันไป
Ah-ah-ah, ah-ah-ahAh-ah-ah, ah-ah-ah
We were ships in the night, night, night
เราอาจเป็นเพียงคนที่ได้พบพานและจากลากันไป
Lyrics: Genius.com
Eng-Thai Translation: Urszula
Please Take out with full credits
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in