แม้มันจะโผล่พ้นเหงือกมาเซย์ไฮให้เราได้เห็น แม้ว่าบางซี่นั้นจะเอียงหน่อยๆหากแต่เราก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวตายใจกับความที่ไม่เจ็บปวดใดๆเลยทั้ง 4ซี่ แต่สุดท้ายก็ยังมีปัญหาอยู่ดีเมื่อร่องฟันของเรามันลึก รวมถึงการรักษาอนามัยในช่องปากของเราก็คงดีไม่พอ มันจึงผุ 2ซี่ล่างเราก็กะจะแค่อุดฟัน ปรากฏว่าไอ้ที่เห็นว่าเอียงหน่อยๆมันกำลังดันฟันซี่ด้านหน้า รวมถึงพาผุไปด้วยกันเรียบร้อยในบริเวณที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้...มันผุข้างใต้เหงือก!...แต่ยังไม่มีอาการปวดใดๆ
โอเค คุณหมอฟันนัดทำสิ่งที่ไม่ใช่เรื่อง FUN นั่นคือผ่าฟันคุดโดยใบนัดระบุไว้ว่า ฟันคุด 38 (กรามซ้ายล่างในสุด) จนกระทั่งวันนัดมาถึง 13 กันยายน 61 ได้พบกับคุณหมอเฉพาะทางด้านศัลยกรรมช่องปากฯ (Oral and maxillofacial surgery; OMS or OMFS) ซึ่งเป็นคุณหมอผู้ชายที่ดูท่าทางสบายๆ เข้าไปปุ๊ปขึ้นเตียง บ้วนน้ำ นอนอ้าปาก แล้วคุณหมอก็พูดว่า 38 รอไปก่อน 48 (กรามขวาล่างในสุด) รอไม่ได้มันเริ่มดันฟันด้านหน้าไปมากแล้ว แล้วคุณหมอเขาก็ซักประวัติเรานู่นนี่นั่น แพ้ยาไหม สูบบุหรี่หรือเปล่า มีอาการปวดบริเวณฟันที่กำลังจะถูกกำจัดหรือเปล่า บลา บลา พอเรียบร้อยคุณหมอก็เตรียมจะจัดการฉีดยาชา สารภาพว่ากลัวมากเพราะก่อนจะถึงวันนัด หาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการถอน/ผ่าฟันคุด ซึ่งแลดูประหนึ่งราวกับหนังสยองขวัญ...เสียงแกร๊กๆในถาดต่อด้วยภาพเงาลางๆที่เห็นผ่านผ้าปิดตาเหมือนกับการนับถอยหลังเพื่อต้อนรับเข็มยาชา 5 4 3 2 ....อื้มมมมม ไม่ได้เจ็บเท่าที่คิดไว้ มือเบามาก พอผ่าจุดนี้ไปบอกเลยว่าความกลัวลดลงเกินครึ่ง ก็ฉีดตรงโน้นที ตรงนี้ทีจนเสร็จ คุณหมอก็บอกว่าเอา 18 (กรามขวาบนในสุด) ออกไปด้วยเลยไหม เก็บไว้มันก็ไม่มีคู่สบรังแต่จะสร้างปัญหาให้เหงือกและกระพุ้งแก้มเสียเปล่าๆ เราก็ค่ะๆตามนั้นเลยค่ะหมอ จากนั้นก็มีเสียงเรียกยาชาจากพยาบาลอีกเข็มและก็จัดการฉีดตรงนั้นที ตรงนี้ทีด้วยความมือเบาเช่นเดิม แต่ก็เจ็บมากขึ้นหน่อยตอนฉีดบริเวณเพดาน แล้วก็รอ รอให้ยาออกฤทธิ์ของมันเต็มที่ ครั้งแรกกับการได้รับยาชาของเรามันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เรารู้สึกว่าโคนลิ้นแข็ง กลืนน้ำลายลำบาก ขนาดหายใจเข้าออกอันแสนสามัญนั้นยังทำให้รู้สึกประหลาด...คุณหมอเริ่มจากฟันบนเบอร์ 18 โดยวิธีการถอน ซึ่งอันที่จริงมันก็คือฟันดีๆที่มีชีวิตปรกติสุข แต่ต้องถูกกำจัดเพราะปัญหาที่จะเกิดในภายหน้า...กึกๆกักๆดังสะท้อนก้องไปทั่วโสตหากแต่ไร้ซึ่งความรู้สึกเจ็บปวด ราวกับเสียงปริร้าวของผืนแผ่นน้ำแข็งหนาช่างฟังดูน่ากลัวก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นว่า "เรียบร้อยแล้วครับ" เป็นสัญญาณที่บอกว่าเบอร์ 18 ได้จากเราไปตลอดกาลหากไม่มีเวลาให้อาลัยอะไรนักเมื่อคุณหมอเริ่มเอาสายระโยงระรางของเครื่องมือบางอย่างพาดผ่านตัวเราเพื่อจัดการฟันล่างเบอร์ 48 ฟันเจ้าปัญหาด้วยวิธีการผ่า เสียงที่ได้ยิน แรงสะเทือนที่รู้สึกมันหนักหน่วงและรุนแรงกว่าซี่ก่อนหน้ามากแต่แน่นอนว่าเรายังคงไม่รู้สึกอะไรเช่นเดิม หากเสียงซี่แรกคือเสียงปริร้าวของผืนแผ่นน้ำแข็งหนา ซี่นี้นั้นประหนึ่งกับเครื่องมือหนักที่กำลังเจาะถนนคอนกรีตก็ไม่ปาน...แล้วก็เสร็จหลังจากผ่านขั้นตอนยิบย่อยที่ดูยุ่งยากมากกว่าซี่แรก และก็เช่นกันเบอร์ 48 จากไปไม่หวนกลับ
ที่นี้ก็เดินทางกลับบ้านด้ายฤทธิ์ยาชาจึงทำให้เรายังไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ จนถึงบ้านกัดผ้าก๊อซต่ออีกหน่อยก่อนคายทิ้งเมื่อครบเวลา เลือดยังซึมๆอยู่บ้างหากแต่ไม่มากเราก็กลืนๆเข้าไปตามหมอสั่ง แล้วยาชาก็ค่อยๆหมดฤทธิ์ เราเตรียมตัวเตรียมใจที่จะรับกับความเจ็บปวดตามที่หลายๆคนได้พรรณาไว้ หากแต่ว่าเราไม่เจ็บ ไม่ปวดเลย แม้ว่าแก้มจะบวมโย้ดูน่ากลัว วันแรกเรากินนมและกล้วยหอมงอมๆแปรงฟันล้างปากอย่างเบามือ แม้จะไม่เจ็บและสามารถเคี้ยวอาหารอีกข้างได้อย่างสบายแต่เราก็เลือกที่จะทานแต่อาหารอ่อนอาหารเหลวรวมถึงนมตลอดสัปดาห์ และแน่นอนกินยาอย่าให้ขาดแล้วก็ต้องไม่ลืมประคบเย็นช่วง 2-3วันแรก ก่อนประคบร้อนในวันต่อๆไป ซึ่งช่วงระหว่างที่เรารอเพื่อตัดไหมเราไม่พบเจอกับอาการเจ็บปวดใดๆเลยและอาการบวมก็ค่อยๆลดลงตามลำดับจนนัดตัดไหมนั่นแหละที่เราได้พบกับความเจ็บจนสะดุ้ง แต่ก็เพียงชั่วพริบตา...การถูกประหารนั้นไม่น่ากลัวเท่ากับการต้องโทษประหาร
ฟันคุดก็เช่นกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in